โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

กินหมึกช็อต ระวัง แบคทีเรีย-พยาธิ กรมอนามัย ชี้เสี่ยงทำลายสมอง

MATICHON ONLINE

อัพเดต 11 ก.พ. 2565 เวลา 05.27 น. • เผยแพร่ 11 ก.พ. 2565 เวลา 05.27 น.
ทำลายสมอง หมึกช้อต

กินหมึกช็อต ระวัง แบคทีเรีย-พยาธิ กรมอนามัย ชี้เสี่ยงทำลายสมอง

เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ออกโรงเตือนการบริโภคหมึกช็อต แบบดิบๆ ต้องระวังเชื้อแบคทีเรีย และพยาธิ พร้อมแนะนำใช้ความร้อนให้อาหารสุกอย่างทั่วถึง เพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคที่มีอาหารและน้ำเป็นสื่อ

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า หลังจากมีกระแสในการกิน “หมึกช็อต” คือการนำหมึกตัวเล็กๆ สดๆ เอาหัวจุ่มลงไปในแก้วที่บรรจุน้ำจิ้ม เพื่อให้หมึกดูดเอาน้ำจิ้มซีฟู้ดเข้าตัว จากนั้นกินหมึกโดยกัดส่วนหัว แล้วค่อยกัด หรือหั่นส่วนลำตัวกินต่อ หรือหากหมึกตัวเล็กพอ ก็อาจจะเอาเข้าปากกินทั้งตัวนั้น ซึ่งพฤติกรรมการกินดังกล่าวอาจจะเสี่ยงได้รับเชื้ออหิวาต์เทียม หรือ Vibrio parahaemolyticus ที่เป็นเชื้อแบคทีเรียที่พบได้ตามโคลนตมในทะเล หรือตามชายฝั่งต่างๆ เมื่อกินสัตว์ทะเลที่ปนเปื้อนเชื้อเข้าไป ก็จะทำให้เกิดอาการปวดท้อง ท้องเสีย มีอาการอาหารเป็นพิษ หากรุนแรงมากๆ ก็อาจส่งผลให้เกิดอาการกระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบได้อีกด้วย

อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า นอกจากเชื้อแบคทีเรียแล้ว หมึกหรือสัตว์ทะเลอื่นๆ เช่น กุ้ง หรือหอย ฯลฯ ก็อาจจะมีพยาธิอาศัยอยู่ด้วย ไม่ว่าจะเป็นพยาธิตัวกลม ในกลุ่มพยาธิอะนิซาคิส (Anisakis spp.) พยาธิตัวตืดในกลุ่มพยาธิตืดปลา (Diphyllobothrium) เป็นพยาธิที่พบในปลาทะเลเขตอบอุ่น และเขตร้อน ซึ่งในประเทศไทยตรวจพบตัวอ่อนของพยาธิชนิดนี้ในปลามากกว่า 20 ชนิด ส่งผลให้ผู้ที่ได้รับพยาธิ มีอาการปวดท้อง แน่นท้อง คลื่นไส้ ท้องอืด คล้ายกับอาการของโรคกระเพาะอาหาร บางรายอาจมีอาการท้องเสีย หรือถ้ามีแผลในกระเพาะขนาดใหญ่ทำให้ถ่ายอุจจาระเป็นเลือด รวมถึงอาจทำให้เกิดความผิดปกติกับร่างกายอื่นๆ เช่น เข้าไปอาศัยตามกล้ามเนื้อ ทำให้เกิดผื่นคัน ปวดบวมบริเวณผิวหนัง หรือเข้าไปชอนไชทำลายอวัยวะภายใน ทำให้เลือดออกในช่องท้อง หรือเนื้อเยื่อ หรือในกรณีที่รุนแรงกว่านั้น คือ การไชเข้าสมองก่อให้เกิดอาการเลือดออกในสมอง สมองอักเสบ และส่งผลเสียกับร่างกายในระยะยาวได้

​“ทั้งนี้ การป้องกันพยาธิหรือไข่พยาธิเข้าสู่ร่างกาย หลีกเลี่ยงการกินอาหารสุกๆ ดิบๆ หากปรุงประกอบอาหารเอง ก่อนนำวัตถุดิบมาปรุง ต้องล้างน้ำให้สะอาดเพื่อลดการปนเปื้อนเชื้อโรค สารเคมีตกค้าง และต้องปรุงให้สุกโดยใช้ความร้อนอย่างน้อย 70 องศาเซลเซียส นาน 2 นาที เพื่อให้อาหารสุกอย่างทั่วถึง รวมทั้งควรเลือกซื้ออาหารจากร้านอาหาร ควรสังเกตป้ายสัญลักษณ์อาหารสะอาด รสชาติอร่อย หรือ Clean Food Good Taste ที่กรมอนามัยรับรอง เพื่อสร้างความมั่นใจในเรื่องความสะอาดปลอดภัยของอาหารให้กับผู้บริโภคที่สำคัญยึดหลักกินร้อน ใช้ช้อนส่วนตัว ล้างมือ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคที่มีอาหารและน้ำเป็นสื่อ” นพ.สุวรรณชัย กล่าว

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ความเห็น 12

  • ยัณย์ ดินเหนียว
    มันก็ทำลายอยู่แล้วสมองนะคนปรกติที่ใหนเค้ากินกัน
    11 ก.พ. 2565 เวลา 09.47 น.
  • 🍀Khun Nu Note🍀
    กินเค้าเป็นอาหาร ก็อย่าให้เค้าทรมาณมากไปกว่านี้เลย.. บาปอยู่กับคนทำ กรรมอยู่กับคนกิน และยิ่งกินพิเรณๆ คูณ 2 เลย
    11 ก.พ. 2565 เวลา 06.27 น.
  • Mommy
    จะกิน..ก็ยังไปทรมาณแบบนั้น เวรกรรมมีจริง สักวันได้รับรู้เอง ทั้งคนคิดเมนู คนสนับสนุน และคนกิน
    11 ก.พ. 2565 เวลา 06.27 น.
  • หลวง อรรจน์ฯ
    ใครจะว่าอย่างไรก็เชิญ ผมลองแล้ว” มันเหนียวครับ” เคี้ยวลำบาก
    11 ก.พ. 2565 เวลา 06.25 น.
  • มันบอกนักบุญออนไลน์ ให้มัน die เพราะการแด๊กของมันเถอะ
    11 ก.พ. 2565 เวลา 06.23 น.
ดูทั้งหมด