TRAP หนังเรื่องใหม่จากผู้กำกับ M. Night Shyamalan (เอ็ม ไนต์ ชยามาลาน) ที่มาพร้อมกับความเขย่าขวัญว่าด้วยฆาตกรต่อเนื่องคนหนึ่งที่พาลูกสาวไปดูคอนเสิร์ตแต่ที่นั่นคือ “กับดัก” ที่ตำรวจพยายามล้อมจับเขา หนังได้ Josh Hartnett มาแสดงนำและยังได้ ลูกสาวของเขาเอง Saleka (ซาลีก้า) มารับบทเด่นในเรื่องอีกทั้งยังร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ให้กับหนังด้วย
ผลงานของ M. Night Shyamalan มักมาพร้อมกับพล็อตเรื่องที่น่าสนใจเสมอ เราเลยขอรวมเกร็ดจากหนังดัง ผลงานในอดีตของเขามาฝากกัน
The Sixth Sense (1999)
- David Vogel (เดวิด โวเจล) ประธาน ของ The Walt Disney Studios ในขณะนั้นได้ประมูลซื้อสิทธิ์ในการอ่านบทจาก M. Night Shyamalan ไปเป็นจำนวนเงินถึง 2.25 ล้านดอลลาร์โดยที่ไม่ได้รับการรับรองจากสตูก่อนทำให้ทางสตูไม่พอใจเท่าไรที่เขาลงทุนก้อนโตแบนี้จนสุดท้ายเขาถูกไล่ออกในปี 1999 และ Disney ไม่เชื่อมั่นในบทนี้จนเอาลิขสิทธิ์ไปขายต่อให้กับ Spyglass Entertainment และขอส่วนแบ่งจากรายได้เพียงแค่ 12.5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ซึ่งกลายเป็นว่าหนังดันฮิตมาก กลายเป็นกระแสปากต่อปากไปทั่วโลก และทำรายได้ทั่วโลกไปกว่า 672.8 ล้านดอลลาร์
- Toni Collette (โทนี คอลเล็ต) มารับบท Lynn Sear แม่ของ Cole Sear เด็กเห็นผี ความจริงแล้วระหว่างถ่ายทำเธอใส่วิกตลอดทั้งเรื่องเนื่องจากตอนนั้นเธอดันโกนผมเสียก่อน และทำให้ต้องยืมวิกจากกองถ่ายเรื่อง “Velvet Goldmine”มาใช้ ระหว่างถ่ายทำเธอได้เผยว่ามีเรื่องแปลกๆ เกิดขึ้นกับเธอในห้องพักที่โรงแรมใน Philadelphia ช่วงนั้นเธอได้นั่งสมาธิบ่อย แต่แล้วเธอมักจะตื่นขึ้นมากลางดึกในเวลา ตีหนึ่งสิบเอ็ดนาที (1:11), ตีสามสามสิบสามนาที(3:33) และตีสี่สี่สิบสี่นาที(4:44) ทำให้เธอรู้สึกหลอนมาก และก่อนที่บทนี้จะเป็นของคอลเล็ต ทางทีมงานก็เล็ง ๆ Marisa Tomei (มาริสา โทเมย์) ให้มารับบทนี้
- แม้ว่า Bruce Willis จะถนัดซ้ายแต่ปกปิดความลับเพื่อตัวละคร Malcolm Crowe ทำให้เขาต้องไปหัดเขียนด้วยมือขวา เนื่องจากจะให้ผู้ชมเห็นไม่ได้ว่าตัวละครของเขาไม่ได้ใส่แหวนแต่งงานที่มือซ้ายแล้ว แต่จริงๆ ระหว่างเนื้อเรื่องมีการใส่ Hint หรือคำใบ้เป็นระยะ แต่แบบเนียนๆ ไม่ให้ผู้ชมจับได้ทั้งตอนที่ Cole พูดประโยคเด็ด “ I see dead people” (ผมเห็นคนที่ตายไปแล้ว) มีการจับภาพไปที่หน้าของ Malcolm ด้วยแต่ว่าจากการฉายรอบสกรีนเทสผู้ชมจับฉากนี้ไม่ได้เลยตัดสินใจใส่ไว้ แต่จริงๆ แล้วฉากนี้ยังมีสิ่งที่โดนตัดออกไปก็คือ ความจริงแล้วจะมีการซูมออกมาให้เห็นห้องอื่นๆ ในโรงพยาบาลเต็มไปด้วยวิญญาณเต็มไปหมด และมีการถ่ายทำไปแล้ว
ฟัง Haley Joel Osment เล่าถึงฉากที่โดนตัดออกได้ที่
4. Haley Joel Osment (ฮาลีย์ โจเอล ออสเมนต์) ดังเป็นพลุแตกจากการรับบทในเรื่องนี้ ซึ่ง Michael Cera (ไมเคิล เซรา) เองก็ได้ออกมาเผยว่าเขาเองก็เคยได้ไปแคสต์บทนี้แต่ การแสดงของเขาแตกต่างออกไปจากของออสเมนต์ เพราะเขาแสดงออกมาในโทนที่สดใสกว่า ส่วน Haley Joel Osment ก็ได้เผยว่าระหว่างแสดงการที่ตัวละคร Cole หนาวอยู่ตลอดและหายใจเป็นไอเมื่อวิญญาณเข้ามาใกล้ นั้นเทคนิคเบื้องหลังก็ใช้วิธีบ้านๆ เลยคือการเอาพลาสติกขึงแล้วเป่าลมเย็นเข้ามาในกองถ่ายที่ทำให้เขาหนาวอยู่ตลอดจนเกิดความรู้สึกหนาวยะเยือกจริงๆ เพราะตอนนั้น CGI ยังไม่ดีเท่าตอนนี้ แต่ M. Night Shyamalan เผยว่าถึงสร้างใหม่ในตอนนี้เขาก็อาจจะใช้วิธีเดิม เพราะมันคือสิ่งที่ทำให้นักแสดงรู้สึกได้อย่างสมจริงที่สุด
5. M. Night Shyamalan แอบมารับบทเป็น Dr. Hill คุณหมอที่ดูแลอาการของ Cole ที่เจ้าตัวตั้งใจแสดงเพื่อสดุดีให้กับพ่อแม่ของเขาที่เป็นหมอทั้งคู่ แต่เขาก็เกลียดการแสดงของตัวเองในเรื่องนี้เลยหั่นบทของตัวเองออกไปเยอะกว่าที่เห็นในหนัง
ดูฉากการแสดงของเขาได้ที่
หนังไตรภาคซูเปอร์ฮีโร่หักมุม
Unbreakable (2000) , Split (2016) , Glass (2019)
M. Night Shyamalan เคยสร้างหนังไตรภาคซูเปอร์ฮีโร่มาก่อน แต่เลือกที่จะเล่าเรื่องในแง่มุมของมนุษย์เดินดินทั่วไปที่ไม่ต้องใส่หน้ากาก หรือ ผ้าคลุม ให้สะดุดตา แม้ตอนที่ฉายจะไม่ได้ประสบความสำเร็จมากนักแต่กลับได้รับคำชมในภายหลังอย่างล้นหลาม
Unbreakable (2000)
- เรื่องราวของชายคนหนึ่งที่ได้รู้ถึงความพิเศษในตัวเองหลังจากรอดจากอุบัติเหตุรถไฟตกรางเพียงคนเดียว Bruce Willis นักแสดงคู่บุญของ M. Night กลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง ในบท David Dunn โดยได้ประชันฝีมือกับ Samuel L. Jackson (ซามูเอล แอล. แจ็กสัน) ในบท Elijah Price เจ้าของร้านหนังสือการ์ตูนที่มีความลับ โดยนักแสดงทั้งสองเป็นดาราที่ M. Night อยากให้มาแสดงและมีพวกเขาไว้ในใจตั้งแต่ตอนเขียนบท
- เรื่องนี้ได้ James Newton Howard (เจมส์ นิวตัน ฮาวเวิร์ด) มาประพันธ์เพลงประกอบ ซึ่งเขาเคยร่วมงานกับ M. Night มาหลายครั้ง นอกจากเรื่องนี้ยังทำเพลงให้ The Sixth Sense และ Sign ด้วย
- ไอเดียที่ให้ไม้เท้าของ Elijah Price เป็นแก้ว มาจาก Samuel L. Jackson ซึ่งความลับเรื่องพลังของเขานั้นจะไปเปิดเผยในเรื่อง Glass (2019)
- เมื่อปี 2011 สื่อดัง Time ได้จัดให้หลายเรื่องนี้เป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่ดีที่สุดตลอดกาล ในอันดับที่ 4 และเป็นหนึ่งในหนังเรื่องโปรด 20 เรื่อง (ที่ออกฉายในปี 1992 tถึง 2009) ของผู้กำกับ Quentin Tarantino (เควนติน ทารันติโน )
- กว่าจะมีภาคต่อเรื่อง Split (2016) ผู้กำกับ M. Nigh ต้องใช้เวลาหาเรื่องราวที่เหมาะสมนานมากกว่า 10 ปี ซึ่งเขาได้เชิญ Bruce Willis มาเป็นแขกรับเชิญในช่วงท้ายเซอร์ไพรส์ผู้ชมว่าหนังเรื่องนี้เป็นภาคต่อของ Unbreakable
- มีข่าวว่า บทของ Casey Cooke ซึ่ง Anya Taylor-Joy ( อันยา เทย์เลอร์-จอย) รับบทนั้นตอนแรกจะเป็นบทของผู้ชาย ทำให้เกิด Fan Theory ทฤษฎีที่แฟนๆ คิดกันเองว่าจริงๆ แล้ว Casey คือบุคลิกหนึ่งของ Kevin Wendell Crumb เพราะว่าชื่อย่อ Kevin Crumb = “K.C.” = “Casey” M. Night Shyamalan แอบมารับเชิญในเรื่องนี้ในซีนสั้นๆ แสดงเป็นคนส่งยาเสพติดที่ David Dunn จับพิรุธได้ด้วยพลังของเขาตอนแรกบทนี้ไม่มีชื่อแต่ในในเรื่อง Split เขากลับมาอีกครั้งกับตัวละครเดิมคราวนี้ใช้ชื่อว่า Jai
Split (2016)
James McAvoy (เจมส์ แม็กอะวอย) ใช้เวลานานนับปีในการหาข้อมูลเกี่ยวกับผู้ที่เป็นโรคทางจิตเวชที่เรียกว่า โรคหลายบุคลิก หรือโรคหลายอัตลักษณ์ (Dissociative Identity Disorder) เพื่อรับบท Kevin Wendell Crumb โดยเขาได้ไปพูดคุยกับ นักจิตวิทยาและจิตแพทย์ เพื่อทำความเข้าใจโรคเพราะตัวละครนี้มีบุคลิกที่แตกต่างถึง 23 คน ซึ่งจะสลับสับเปลี่ยนไปมาในตนเอง บทนี้ทำให้ James McAvoyได้รับบาทเจ็บมือหักเนื่องจากแสดงพลาดในฉากชกประตูเหล็ก เขาต่อยไม่โดนจุดนุ่มที่ทีมงานเอาไว้แต่ไปโดนเหล็กเต็มๆ
มีข่าวว่า บทของ Casey Cooke ซึ่ง Anya Taylor-Joy ( อันยา เทย์เลอร์-จอย) รับบทนั้นตอนแรกจะเป็นบทของผู้ชาย ทำให้เกิด Fan Theory ทฤษฎีที่แฟนๆ คิดกันเองว่าจริงๆ แล้ว Casey คือบุคลิกหนึ่งของ Kevin Wendell Crumb เพราะว่าชื่อย่อ Kevin Crumb = “K.C.” = “Casey”
Split ประสบความสำเร็จทางรายได้มากๆ ทำเงินไปถึง 278 ล้านดอลลาร์จากทั่วโลก ทั้งๆที่ใช้ทุนสร้างแค่ 9 ล้านดอลลาร์เท่านั้น ทำให้หนังครองแชมป์หนังที่ทำเงินสูงสุดของ Blumhouse Productions จนกระทั้ง Five Nights at Freddy มาล้มแชมป์เมื่อปี 2023 ด้วยรายได้ 297 ล้านดอลลาร์
West Dylan Thordson (เวส ดีแลน ธอร์ดสัน) เป็นผู้ประพันธ์เพลงประกอบให้กับเรื่องนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้เขาทำเพลงให้กับเรื่อง The Visit (2015) มาก่อน ซึ่งหลังจากนั้นเขาก็ได้ทำเพลงให้กับเรื่อง Glass
M. Night Shyamalan กลับมารับบท Jai อีกครั้งต่อจาก Unbreakable โดยคราวนี้เขาเลิกทำอาชีพค้ายาแล้วเปลี่ยนมาเป็นยามผู้รักษาความปลอดภัยในตึกอพาร์ตเมนต์ของจิตแพทย์ของ Kevin
Glass (2019)
- Samuel L. Jackson กลับมารับบท Elijah Price ซึ่งคราวนี้ผู้ชมได้รู้ว่าเขาเป็นอัจฉริยะผู้ฉลาดรอบรู้ แต่ต้องนั่งรถเข็นเนื่องจากเป็นโรคกระดูกพรุนขั้นรุนแรง กระดูกของเขาหักง่ายมาก ตัวเปราะบางเหมือนแก้ว ซึ่งเป็นที่มาของฉายา Mr. Glass
- M. Night Shyamalan เผยถึงความสำคัญของสีในภาพยนตร์เรื่องนี้ ว่า “ผมเลือกสีเขียวให้กับ David Dunn เพราะในทางจิตวิทยาแล้ว สีเขียวมีความเกี่ยวข้องกับคุณสมบัติในการให้ชีวิต David เป็นผู้ปกป้องชีวิต ผมเลือกสีเหลืองอมน้ำตาลหรือมัสตาร์ดให้กับ Kevin Crumb /The Beast เพราะสีนี้เกี่ยวข้องกับพิธีกรรมทางศาสนา ทั้งฮินดูและพุทธ เป็นสีจีวรของพระภิกษุ ผมมองว่า The Beast เป็นนักเผยแพร่ศาสนา นักเทศน์ที่ต้องการช่วยเหลือ และสุดท้ายนี้ ผมเลือกสีม่วงให้กับ Mr. Glass เพราะสีนี้เกี่ยวข้องกับราชวงศ์ คุณสมบัติที่สง่างาม Elijah มองว่าตัวเองมีความสำคัญ เป็นตัวละครหลักของหนังสือการ์ตูน”
- Glass ได้รับคำวิจารณ์ทั้งดีและไม่ดีจากนักวิจารณ์ บางคนคิดว่าเรื่องนี้ทำออกมาได้ “น่าผิดหวัง” และ “ไม่คุ้มค่า” กับการรอคอยเพราะว่าเรื่อง Split ทำออกมาได้ดีมาก จุดอ่อนของภาคนี้คือเนื้อเรื่องที่สะเปะสะปะไร้ทิศทางในองก์ที่สาม แต่หนังก็ได้รับคำชมเรื่องการแสดงของนักแสดง ที่รวมดาวเด่นจากภาคก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม หนังทำรายได้ทั่วโลก 247 ล้านดอลลาร์ จากทุนสร้าง 20 ล้านดอลลาร์
- เมื่อเป็นภาคปิดตำนาน Jai ก็ต้องกลับมาอีกครั้งคราวนี้ เขาได้พบกับ David Dunn อีกครั้งระหว่าง
ไปซื้ออุปกรณ์รักษาความปลอดภัย เขาได้พูดว่าเมื่อก่อนเขาเคยทำงานกับคนไม่ดีที่สนามฟุตบอลเมื่อหลายสิบปีก่อน ซึ่งอ้างถึงฉากในเรื่อง Unbreakable จึงเป็นการยืนยันว่า M. Night Shyamalan แสดงเป็นตัวละครเดียวกันในทั้งสามเรื่อง และยังตอกย้ำธีมหลักอย่างหนึ่งของไตรภาคนี้ด้วย นั่นคือซูเปอร์ฮีโร่สามารถมีอยู่จริง และพวกเขาอาจมีความสามารถในการมีอิทธิพลต่อโลกในทางร้ายหรือทางดีก็ได้ เพราะ Jai เปลี่ยนมาทำอาชีพสุจริตเพราะ David
Signs (2002)
1.ในเรื่องนี้ M. Night Shyamalan อยากจะให้ตัวละครเอกของเขา Graham Hess เป็นชายสูงวัยหน่อย เขาได้ทาบทามไปยัง Clint Eastwood and Paul Newman ให้มารับบทนี้แต่ทั้งสองปฏิเสธ แต่ Mel Gibson (เมล กิ๊บสัน) คิดว่าบทภาพยนตร์ของเขาน่าสนใจเลยเต็มใจที่จะมารับบทนี้
2.ชื่อเรื่องว่า Signs ที่แปลได้อีกอย่างว่าลางสังหรณ์ มีเรื่องแปลกประหลาดเกิดขึ้นกับนักแสดงของเรื่องที่หลายคนไม่รู้ว่าเขาเล่นเรื่องนี้มาก่อนนั่นก็คือ Mark Ruffalo เขาคือผู้ที่ได้รับบท Merrill น้องชายของ Graham ก่อนจะได้รับการเปลี่ยนตัวเป็น Joaquin Phoenix เพราะว่าหลังจากหนังเริ่มถ่ายทำไปได้ไม่นาน แต่คืนหนึ่ง Mark Ruffalo ได้ฝันแปลกประหลาดขึ้นมาว่าเขามีเนื้องอกในสมอง และฝันนี้ทำให้เขากระวนกระวายใจมาก จนได้ไปตรวจและพบว่ามีเนื้องอกจริง ๆ อยู่ที่บริเวณหลังหูซ้ายของเขา โชคดีที่มันสามารถผ่าตัดได้แต่ว่ามันทำให้เขาสูญเสียการได้ยินที่หูซ้ายไป และนั่นเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตของเขา Mark Ruffalo เคยคิดว่าเขาจะต้องหยุดเส้นทางการแสดง แต่การผ่าตัดครั้งนี้มันยิ่งทำให้เขารู้ว่าเขารักการแสดงมากแค่ไหนและต่อสู้ฝ่าฟันจนสามารถกลับมาในวงการและเป็นนักแสดงแถวหน้าจนถึงทุกวันนี้ส่วน Joaquin Phoenix ต่อมาทั้งสองคนก็สนิทกันตอนที่ทั้งสองเช่าบ้านอยู่ด้วยกันตอนแสดงหนังเรื่อง Reservation Road (2007) และ Mark Ruffalo ก็เผยว่าเขารัก Joaquin Phoenix เพราะเป็นคนที่น่ารัก นิสัยดี และทำงานหนักมาก เป็นนักแสดงที่ทุ่มเทมากๆ คนหนึ่งในวงการ
Mark Ruffalo เล่าฝันว่าเป็นเนื้องอกในสมอง
Mark Ruffalo พูดถึง Joaquin Phoenix
- M. Night Shyamalan รับบทเป็น Ray Reddy ชายที่เป็นเหตุผลที่ทำให้ภรรยาของ Graham Hess เสียชีวิต แต่ต่อมาหลังจากที่โลกได้เผชิญกับภัยจากเอเลียน เขาได้หวนกลับมาขอโทษและเผยว่าเขารู้สึกผิดมาตลอด และได้แนะวิธีเอาตัวรอดจากเอเลี่ยนให้กับ Graham
ดูฉากการแสดงของเขาได้ที่
Hero image and features image credit: IMDB
อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับ ไลฟ์สไตล์คนเมือง ร้านอาหารเด็ดดัง แฟชั่นล่าสุด สุขภาพ และความงาม พร้อมกับ เรื่องราวทางวัฒนธรรมต่าง ๆ ได้ที่ Lifestyle Asia
The information in this article is accurate as of the date of publication.
ความเห็น 0