ฮีโร่นักดำน้ำที่ช่วยเด็กๆ และโค้ชทีมหมูป่า อะคาเดมี ออกจากถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน ยอมรับว่ากลัวจะเกิดผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุด ในปฏิบัติการที่อันตรายที่สุดเท่าที่เคยทำมา และคิดด้วยว่า อาจจะมีเด็กเสียชีวิตถึง 5 คน
เจสัน มัลลินสัน หนึ่งในนักดำน้ำชาวอังกฤษ ให้สัมภาษณ์รายการ "Four Corners" ของสถานีโทรทัศน์ ABC ของออสเตรเลียว่า จะไม่ทำอะไรแบบนี้อีก หลังร่วมหนึ่งในปฏิบัติการที่ยากที่สุดที่แม้กระทั่งเหล่านักดำน้ำระดับมือโปรของโลกยัง "ขยาด"
นักดำน้ำ ซึ่งมีทีมมากกว่า 150 คน ได้แบ่งปฏิบัติการกู้ภัยออกเป็น 9 ส่วน ซึ่งกว่าจะผ่านแต่ละส่วนได้ ต้องใช้เวลามากกว่า 3 ชั่วโมง ซึ่งมัลลิสัน บอกว่า มันเป็นหนึ่งในสิ่งที่ยากที่สุดและเสี่ยงที่สุดที่เขาเคยทำมา และแม้จะเป็นการกระทำที่กล้าหาญ แต่เขาก็ไม่รู้ว่า จะทำได้อีกหรือไม่ ขณะที่พันตรีชาร์ลส ฮอดจ์ส ผู้บัญชาการกองทัพสหรัฐฯ เพื่อภารกิจช่วยทีมหมูป่า บอกว่า เขาคิดว่าจะมีเด็กเสียชีวิต 3 หรือ 4 หรือเป็นไปได้ว่าจะถึง 5 คน
ภายใต้ปฏิบัติการ นักดำน้ำจะประกบเด็กตัวต่อตัว ซึ่งมัลลินสัน กับคริส จีเวลล์ เพื่อนร่วมทีม บอกว่า พวกเขาเห็นพ้องกันว่าจะไม่สวมถุงมือยาง เพราะต้องการสัมผัสกับวัตถุโดยตรง และช่วยให้เด็กรอดพ้นจากการกระแทกกับก้อนหิน เพราะถ้าถังอากาศเกิดขัดข้องหรือเด็กกระแทกผนังถ้ำ อาจทำให้เสียชีวิต พวกเขาจึงยอมบาดเจ็บที่มือนอกจากนี้ ยังมีช่วงหนึ่ง มีเด็กที่อยู่ในความดูแลของคริสหลุดจากเชือกนำทาง ทำให้ต้องหากันท่ามกลางความมืดและหวาดกลัว แต่ยังดีที่ไม่มีใครในทีมหมูป่ามีอาการวิตกกังวล
ในระหว่างปฏิบัติการ มีเด็กบางคนต้องถอดชุดดำน้ำออก ส่วนคนอื่นๆ ถูกพาผ่านแนวเชือก ท่ามกลางสภาพที่มองไม่เห็นภายในถ้ำและเส้นทางที่ไกลกว่า 1 ก.ม. แต่ด้วยความที่เป็นมืออาชีพ มัลลิสันได้สังเกตอาการหายใจของเด็กที่ออกมาในรูปของฟองอากาศออกมาจากหน้ากาก // ส่วนวันที่ 3 ที่เป็นการนำหมูป่า 4 คน กับโค้ชออกมานั้นมัลลิสัน ตัดสินใจดำน้ำ 2 เที่ยว เพื่อนำเด็กคนสุดท้ายออกมา และโค้ชออกมาเป็นคนที่ 9 ไม่ใช่คนสุดท้าย
โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์
เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด
