จับเข่า เล่าเรื่องผี!!!
ตอน เรื่องสยองของคนดวงตก
ขุดความหลอนโดย…มิ้นต์ พรวดี
ระดับความหลอน 5 กระโหลก
คุณเคยรู้สึกไหมว่า “ ผี” แฝงตัวอยู่ทุกที่ทุกแห่งหน ไม่ว่าจะเป็นที่ โรงพยาบาล โรงแรม หอพัก ทุกที่มีหมด แม้กระทั่งที่บ้านของคุณเองก็อาจมีสิ่งลี้ลับที่เรียกกันว่าผีแฝงตัวอยู่ก็ได้ วันนี้ดิฉันขออนุญาตมาเล่าเรื่องสยองที่พึ่งเจอกับตัวเองมาสด ๆ ร้อน ๆ ให้ทุกคนได้ซึมซับความสยองกันถ้วนหน้า
ดิฉันพึ่งเรียนจบปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยชื่อดังในกรุงเทพ ความจริงมหาวิทยาลัยของฉันนั้นก็ขึ้นชื่อเรื่องความเก่าแก่และมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับสิ่งลี้ลับอยู่มากมาย แต่ที่ดิฉันอยู่มา 4 ปี อยู่ทั้งกลางวันและกลางคืนก็ยังไม่เคยได้สัมผัสกับสิ่งลี้ลับอย่างที่เขาเล่า ๆ กันมาเลย ฉันจึงไม่ค่อยเชื่อเรื่องทำนองนี้สักเท่าไหร่ เพราะไม่เคยได้เจอกับตัวเลยไม่รู้สึกอะไรนัก
พอฉันเรียนจบก็ตระเวนสมัครงานไปทั่ว แต่ก็ยังไม่ได้งานสักที (ไม่รู้เพราะเลือกเยอะไปหรือเปล่า) พอดีมีเพื่อนในแก๊งค์ชวนไปทำงานที่มหาวิทยาลัยในตำแหน่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคล ดิฉันจึงลองไปสมัครงานปรากฏว่าได้งานจ้า งานนี้มีเฮนอกจากจะได้อยู่ในสถานที่ที่คุ้นเคยแล้วยังได้อยู่กับเพื่อนอีกด้วย
ฉันทำงานด้วยความสุขโขสโมสร มีแต่เสียงหัวเราะและมิตรไมตรีที่ได้จากเพื่อน ๆ ที่ทำงาน ไม่นานที่มหาวิทยาลัยก็มีการจัดสัมมนาที่ต่างจังหวัด ซึ่งอย่าถามหาวิชาการเพราะงานนี้มีแต่เรื่องเฮฮาปาร์ตี้ล้วน ๆ สัมมนาครั้งนี้ถูกจัดที่หัวหิน พอพวกดิฉันกับเพื่อน ๆ รู้ข่าวว่าจะได้ไปแช่น้ำทะเลก็รีบแพ็คกระเป๋าเดินทางทันที (แหม่ … ไม่ค่อยเลยเนอะ)
การเดินทางเต็มไปด้วยความสนุกสนานเฮฮาปาร์ตี้ มีการเล่นบัดดี้และเต้นกลางรถบัส เป็นอะรที่สนุกสุดเหวี่ยง พอถึงโรงแรมทุกคนก็ต่างแยกย้ายเข้าไปเก็บข้าวของแล้วค่อยมาเจอกันตอนเย็น ฉันนอนพักกับเพื่อนฝ่ายบุคคล 2 คน ชื่อตาล (นามสมมติ) แต่ตอนนั้นฉันเริ่มรู้สึกปวดท้องหนุ่ย ๆ หน่วง ๆ เพราะเป็นประจำเดือนอยู่ สักพักมันก็เริ่มปวดมากขึ้นจนเวลาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง ตาลทักว่าฉันหน้าซีดเลยไปหายาแก้ปวดมาให้กิน ตอนนั้นฉันรู้สึกเพลียเลยไม่ลงไปทำกิจกรรมตอนเย็น
ฉันหลับไปนานเท่าไหร่ไม่แน่ใจ พอลืมตาขึ้นมาตะวันก็ตกดินไปแล้ว แต่เพื่อน ๆ ก็ยังคงทำกิจกรรมกันอยู่จึงทำให้ฉันต้องนอนอย่างเดียวดาย ฉันรู้สึกคอแห้งหากเลยเอื้อมมือไปหยิบขวดน้ำแต่ดันไปเผลอปัดจนขวดน้ำร่วงและกลิ้งเข้าไปใต้เตียง ฉันเลยต้องคลานลงมาและพยายามเอื้อมมือเข้าไปหยิบขวดน้ำใต้เตียง แต่ระหว่างที่กวาดมือเข้าไปใต้เตียงฉันก็ต้องสะดุ้งเฮือก !!!! เมื่อฉันรู้สึกเหมือนมีมือเย็น ๆ มาจับมือฉันที่กำลังคว้าขวดน้ำใต้เตียง ความตกใจทำให้ฉันกระชากมือกลับเข้ามาอย่างเร็ว ใจคอของฉันเริ่มไม่ค่อยดี คิดว่ายังไงก็ต้องเป็นผีแน่ ๆ แต่ก็ยังทำใจดีสู้ผี เอ๊ย สู้เสือ ว่ามันอาจจะเป็นเพราะมือของฉันมันอาจจะคว้าไปโดนของอะไรสักอย่างที่ไม่ใช่ผีก็ได้ แต่ก็ไม่กล้าก้มไปมองใต้เตียงเพราะเกรงว่าอาจจะเจอเจ้าของมืออันเย็นเชียบนั่น ก็เลยคลานขึ้นไปนอนบนเตียงต่อ ตอนนั้นเหมือนกลัวและเครียดเลยทำให้ปวดท้องมากขึ้น ทำให้ฉันเพลียและหลับไปนอนไหนไม่รู้ …
สักพักฉันเริ่มรู้สึกตัวเลยค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา ปรากฏว่ามืดค่ะ มองไปทางไหนก็มืดไปหมด แยกไม่ออกว่าตัวเองหลับตาหรือลืมตากันแน่ !! แต่ที่แน่ ๆ คือขยับตัวไปไหนไม่ได้เลย เหมือนไม่มีแรงแม้แต่จะขยับนิ้ว ฉันรู้สึกว่าชีวิตเริ่มไม่ปลอดภัยแล้ว จึงคิดว่าการสวดมนต์อาจจะทำให้หลุดออกจากภาวะแบบนี้ แต่มันนึกไม่ออกจริง ๆ คิดออกแต่ “นะโมตัสสะ นะโมตัสสะ” วนไปวนมาอยู่อย่างนั้น ฉันกลัวจนตัวเกร็งไปหมด แต่ฉันก็หลุดออกจากพะวังเพราะตาลมาเขย่าตัวและเรียกฉันด้วยเสียงดังจนนึกว่าเอาโทรโข่งมาจ่อหู
ตาลเล่าว่าหลังจากเสร็จกิจกรรมแล้วก็กะจะมาถามว่าฉันหิวหรือเปล่า พอเปิดประตูมาปุ๊บก็เห็นเงาผู้หญิงมานั่งทับหัวของฉันอยู่ ตาลเลยร้องอุทานว่า “เฮ๊ย” เงาผู้หญิงคนนั้นก็หายวับไปกับตา พอเข้ามาใกล้ก็ฉันนอนตัวเกร็งตาค้าง เลยเข้ามาเขย่าตัวและเรียก ฉันเลยตื่นจากภวังค์ ตอนนั้นฉันและตาลตกใจมากจนทำอะไรไม่ถูก สักพักตาลบอกว่าไปนอนรวมกับเพื่อนอีกห้องดีกว่าน่าจะเวิร์ค เราสองคนเลยใส่เกียร์หมาวิ่งหน้าตั้งไปเคาะประตูห้องเพื่อนข้าง ๆ เพื่อขอนอนด้วย ส่วนเรื่องข้าวของช่างมันไม่สนใจแล้ว เราสองคนเล่าให้เพื่อนอีก 2 คนฟัง ทำให้อีกสองคนก็รู้สึกกลัว ๆ หวั่น ๆ ก็เลยตั้งวงนั่งเล่นไพ่กันถึงเกือบ ๆ สว่าง ความหนุดเข้ามาแทนที่ความกลัว จึงทำให้ฉันและทุกคนสามารถข้ามผ่านคืนนั้นได้อย่างสบายใจ พอใกล้สว่างพวกเราก็งีบเอาแรงกันเล็กน้อย รุ่งเช้าพวกเรารีบเผ่นออกจากโรงแรมอย่างรวดเร็ว
ฉันคิดว่าเผ่นออกจากโรงแรมนั่งแล้วคงสบายใจไม่เจอผีแล้วแน่นอน แต่ที่ไหนได้ … คุณผีนั้นเป็นผู้ที่มีความพยายามสูง เพราะเขาตามเรามาถึงกรุงเทพ !! เรื่องมันมีอยู่ว่าเช้าวันที่ฉันขับมอเตอร์ไซค์ไปทำงาน จู่ ๆ ก็โดนพี่ตำรวจเรียก ตอนนั้นก็งงว่าโดนเรียกเรื่องอะไร พี่ตำรวจบอกว่า “น้อง ให้เพื่อนที่ซ้อนท้ายน้องใส่หมวกกันน๊อคด้วยนะ ไม่ใส่หมวกแบบนี้มันอันตราย” ฉันก็งงว่าเพื่อนที่ไหนกันเพราะฉันขับมาคนเดียว ตำรวจก็บอกว่านี่ไงที่นั่งอยู่ ฉันกรี๊ดและถีบตัวออกจากมอเตอร์ไซค์ พุ่งตรงเข้าวัดที่อยู่ใกล้ ๆ ทันที ท่ามกลางความมึนงงของตำรวจ /ฉันไปถวายสังฆทานที่วัดใกล้ ๆ พอถวายและกรวดน้ำเสร็จเรียบร้อย หลวงพ่อที่ดิฉันถวายสังฆทานท่านทักว่ามีวิญญาณตามมา มาขอส่วนบุญและอยากอยู่ด้วย ดิฉันขนส่งซู่ ตัวสั่นแบบควบคุมไม่อยู่ หลวงพ่อเลยปลอบให้ฉันไม่ต้องกลัวและพยายามทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้เขาบ่อย ๆ แล้วเขาจะหายไปเอง
อย่างที่บอกค่ะว่าผีมีอยู่ทุกที่ทุกแห่ง ไม่แน่ว่าตอนนี้เขาอาจอยู่ข้างหลังคุณก็ได้…
GHOST TRICK … ITEM นี้ผีขยาด!!
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่หวั่น ๆ กับพลังอำนาจลึกลับของภูตผีและวิญญาณ วันนี้เราได้รวบรวม ITEM ที่คนกลัวผีต้องมีไว้ติดไม้ติดมือ เพื่อเป็นอาวุธปัดเป่าให้วิญญาณอยู่ห่างไกล อย่างน้อยควรมีไว้สักชิ้นสองชิ้น แต่เอ๋ … แต่ละ ITEM มีคุณสมบัติอย่างไรบ้างน้า ….
1. พระเครื่อง
พระมักเป็นสิ่งแรกที่ทุกคนนึกถึงเวลาเจอสิ่งลี้ลับ แต่หากคุณมีพระเครื่องไว้แต่ใช้ไม่ถูกวิธีก็ไม่มีประโยชน์ หากคุณคิดว่าคุณตกอยู่ในเหตุการณ์อันตรายที่มีโอกาสเจอภูตผีวิญญาณแล้ว ให้นำพระเครื่องมาพนมมือตั้งจิตอธิษฐานแล้วอาราธนาบารมีของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้คุ้มครองคุณด้วย แบบนี้ถึงจะได้ผล
2. คาถากันผี
วิธีนี้เหมาะกับคนที่มีสติครบถ้วน เพราะต้องท่องคาถาซึ่งต้องใช้ทั้งความจำและสมาธิ ซึ่งบางคนสติก็กระเจิงไปตั้งแต่รู้ตัวว่าเจอผีแล้ว คาถาป้องกันผี “ยะนีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ ภุมมานิวายานิวะ อันตะลิกเข สัพเพ วะภูตา สุมะนา ภะวัมตุ อะโถปิ สักกัจจะ สุณันตุ ภาสิตัง.
3. น้ำมนต์
หากคุณตกอยู่ในสถานการณ์ที่หาพระเครื่องก็ไม่เจอ ท่องคาถาก็ไม่ได้ มีอีกวิธีที่จะทำให้คุณพ้นจากสิ่งเร้นลับได้คือน้ำมนต์ ก่อนพรมน้ำมันให้คุณอาราธนาจิตก่อนแล้วค่อยพรม คุณจึงจะปลอดภัยจะสิ่งเร้นลับโดยสมบูรณ์
จะให้ดีควรมีทั้ง 3 ITEM เลยจะดีมาก … รับรองว่าชีวิตคุณจะปลอดจากสิ่งเร้นลับทั้งปวง
พ.พาทินี
ความเห็น 4
ΛᴍᴍΛ 369🎏⛵♾
อ่านแปป
30 ธ.ค. 2560 เวลา 21.41 น.
หลอนใช่ปะ��
30 ธ.ค. 2560 เวลา 21.27 น.
นึกว่าจะน่ากลัวว่านี้ -.- พื้นๆเบๆสไตล์ผีไทยมาก
30 ธ.ค. 2560 เวลา 20.26 น.
Sky ☁️
😂
30 ธ.ค. 2560 เวลา 19.38 น.
ดูทั้งหมด