เมื่อเวลา 10.11 น. วันที่ 12 มี.ค.68 ร.ต.อ.จรัญ กระจ่างแจ่ม รองสารวัตรสอบสวน สภ.ท่าเรือ จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.ฯ ว่าได้รับแจ้งจากตำรวจสายตรวจจุดบริการประชาชนแยกระบบว่า เกิดอุบัติเหตุรถเสียหลักพุ่งตกคลองชลประทานสายระบบท่าเรือ-กำแพงแสน ใกล้เคียงสะพานโภคทรัพย์ หมู่ 6 ต.ดอนชะเอม อ.ท่ามะกา คาดว่าน่าจะมีคนจมน้ำเสียชีวิต หลังรับแจ้ง จึงรีบรายงานให้ พ.ต.อ.จอมพล รุจิรดำรงค์ชัย ผกก.สภ.ท่าเรือ ทราบเรื่อง
จากนั้น จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่า ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ชีพ-กู้ภัยและนักประดาน้ำได้ลงงมค้นหารถยนต์เก๋งคันที่ประสบเหตุเสียหลักตกลงไปในคลองชลประทานฯ เป็นรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้าแจ๊สสีพิเศษเทาโซนิค ทะเบียนกรุงเทพมหานครฯ ภายในรถมีร่างผู้เสียชีวิตรวม 2 ราย เจ้าหน้าที่จึงประสานรถเครนของบริษัทเอกชนมาทำการลากจูงและยกรถคันดังกล่าวขึ้นมาไว้บนบก และนำร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 2 รายเป็นหญิงสาวทราบชื่อผู้ตายชื่อนางสาวกัญจนพร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี อยู่หมู่ 10 ต.บางกร่าง อ.เมือง จ.นนทบุรี ส่วนเด็กหญิงซึ่งเป็นลูกสาวของนางสาวกัญจนพร ชื่อ ดญ.ไลลลิณญ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 6 เดือนเศษ
เบื้องต้นจากการสอบถามนายอนันทชัย (ขอสงวนนามสกุล)ไม่ทราบอายุ ที่นั่งร้องไห้ด้วยความเสียใจที่สูญเสียภรรยาและลูกสาวไปในอุบัติเหตุครั้งนี้ ทราบว่า ตนมีตำแหน่งเป็นนักวิชาการคอมพิวเตอร์ปฎิบัติการอยู่ที่กระทรวงสาธารณสุข วันนี้ตนได้ขับรถยนต์เก๋งพาภรรยาและลูกมาด้วย มาประชุมเชิงปฎิบัติการจัดทำแผนยุทธศาสตร์และแผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ที่โรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งที่ตำบลท่ามะขาม เป็นเวลา 3 วัน โดยวันนี้เป็นวันแรก ก่อนเกิดเหตุ ตนได้ขับรถออกมาจากนนทบุรี ออกมาทางปทุมธานี แล้วอ้อมเข้ามาทางกำแพงแสนลัดเบาะมาตามถนนเลียบริมคลองเพื่อจะไปออกตำบลท่าเรือ อ.ท่ามะกา เพื่อย้อนเข้าตัวเมืองกาญจนบุรี เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ อยู่ก็วูบไปประกอบกับด้วยความไม่ชำนาญ จึงทำให้รถเสียหลักพุ่งตกลงไปในคลองชลประทาน ทำให้ภรรยากับลูกสาวติดอยู่ภายในรถ ส่วนตนพยายามไขกระจกมุดตัวออกมาได้และว่ายน้ำเข้าฝั่งร้องขอความช่วยเหลือให้ชาวบ้านมาช่วย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ น่าจะเกิดจากการหลับใน ประกอบกับประมาทขับรถเร็วจึงทำให้รถเสียหลักพุ่งตกคลองชลฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามสอบสวนปากคำหาข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนร่างผู้เสียชีวิตได้มอบให้มูลนิธิฯ นำส่งแผนกนิติเวช รพ.ศูนย์ราชบุรี เพื่อให้แพทย์ผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตตามระเบียบของกฎหมายต่อไป