ในการประชุมเมื่อวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา โอเปคพลัส หรือกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตรได้ตัดสินใจลดกำลังการผลิตน้ำมันลงวันละ 2,000,000 บาร์เรล เพื่อแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันตกต่ำ โดยจะมีผลทันทีในเดือนพฤศจิกายนนี้
การตัดสินใจดังกล่าวของโอเปคพลัสยิ่งจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับความพยายามที่จะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจโลกซึ่งเต็มไปด้วยความเปราะบางและจะส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นตามมา ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ เนื่องจากราคาน้ำมันถือว่าเป็นประเด็นอ่อนไหวทางการเมือง โดยเฉพาะในสหรัฐฯที่กำลังจะมีการเลือกตั้งกลางเทอมในเดือนพฤศจิกายนนี้
โอเปคพลัส ระบุว่า การตัดสินใจดังกล่าวขึ้นอยู่กับความไม่แน่นอนต่อแนวโน้มของเศรษฐกิจรวมถึงตลาดน้ำมันที่เกิดขึ้นทั่วโลก ขณะที่รัฐมนตรีพลังงานของซาอุดีอาระเบียยังได้เน้นย้ำถึงบทบาทของโอเปคพลัสในฐานะผู้ดูแลตลาดพลังงานให้มีเสถียรภาพ โดยย้ำว่าการดำรงอยู่ของโอเปคพลัสมีเพื่อการกลั่นกรองต่อการสร้างความมั่นคงให้กับตลาดพลังงาน
นอกจากนี้โฆษกทำเนียบขาว เปิดเผยว่า ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯเห็นว่าการตัดสินใจของโอเปคพลัสไม่ได้เป็นการมองการณ์ไกล เนื่องจากเศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญกับผลกระทบทางด้านลบจากการรุกรานยูเครนของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน และการตัดสินใจของโอเปคพลัสในวันนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าจุดยืนของโอเปคพลัสเป็นไปในทิศทางเดียวกับรัสเซีย