วันที่ 17 พ.ย. ชาวนาหลายพื้นที่ในจังหวัดบุรีรัมย์ ยังคงนำข้าวเปลือกออกมาตากบนถนนทางหลวงและถนนในหมู่บ้านเป็นทางยาว โดยให้เหตุผลว่า ลานคอนกรีตในหมู่บ้านไม่เพียงพอมีชาวนานำข้าวเปลือกไปตากเต็มหมดแล้วและยังรอคิวอีกหลายคน เนื่องจากช่วงนี้ชาวนาในหลายพื้นที่ก็เก็บเกี่ยวข้าวพร้อมกันเป็นจำนวนมาก เพราะข้าวแก่สุกเต็มที่แล้ว
สำหรับผลผลิตที่ได้ต้องรีบไปขายตามโรงสีเพื่อนำเงินไปจ่ายค่ารถเกี่ยวและใช้จ่ายในครอบครัว จึงจำเป็นต้องนำข้าวเปลือกออกมาตากตามถนนลาดยาง ทั้งที่รู้ว่ามีการห้ามและผิดกฎหมาย แต่ก็อยากวอนขอความเห็นใจด้วย เพราะไม่รู้จะนำข้าวไปตากที่ไหน หากตากตามพื้นหญ้าก็จะเปียกชื้นแห้งช้า หากไม่อยากให้นำข้าวออกมาตามบนถนนทางหน่วยงานภาครัฐ ก็ควรจะช่วยจัดหาสถานที่ตากที่เป็นลานปูนซีเมนต์ให้เพียงพอ
นางดาวัลย์ เสือพิมพา ชาวนาบ้านสุขสำราญ ต.กระสัง อ.กระสัง บอกว่า จากที่ติดตามดูข่าวก็ทราบว่าทางการห้ามนำข้าวเปลือกมาตากบนถนนเพราะผิดกฎหมาย แต่ก็ไม่มีทางเลือกเพราะสถานที่ที่เป็นลานปูนในหมู่บ้านไม่เพียงพอ เนื่องจากชาวนาส่วนใหญ่จะเก็บเกี่ยวพร้อมกัน จึงจำเป็นต้องนำมาตากบนถนน และหากตากบนถนนลาดยางหรือคอนกรีตข้าวเปลือกจะแห้งเร็วกว่าตากตามทุ่งหญ้า อยากขอความเห็นใจด้วยเพราะขณะนี้ก็ยังไม่มีหน่วยงานใดจัดหาสถานที่ตากที่เป็นปูนซีเมนต์ เพื่อลดปัญหาไม่ให้นำข้าวออกไปตากบนท้องถนน
อย่างไรก็ตามจากข้อมูลพบว่าเมื่อปี 2561 วันที่ 10 พ.ย. เกิดเหตุการณ์นักเรียนชายชั้น ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน ต.ทะเมนชัย อ.ลำปลายมาศ ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปเฉี่ยวชนกองข้าวเปลือก ที่เกษตรกรตากไว้บนถนนทางหลวงหมายเลข 3047 สายบ้านหนองม่วงน้อย–หนองไทร ต.ทะเมนชัย อ.ลำปลายมาศ จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บสาหัส 1 ราย