โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

เพื่อไทย ยก 4 ข้อโต้ 'อาคม' ชี้คนละครึ่ง ตัวคูณการคลังต่ำ ไม่ใช่คำตอบระยะยาว ย้ำเฟส 5 ไม่จำเป็น

Khaosod

อัพเดต 19 ก.ย 2565 เวลา 04.59 น. • เผยแพร่ 19 ก.ย 2565 เวลา 03.59 น.
เพื่อไทย-คนละครึ่ง (1)
เพื่อไทย ยก 4 ข้อโต้ 'อาคม' ชี้คนละครึ่ง ตัวคูณการคลังต่ำ ไม่ใช่คำตอบระยะยาว ย้ำเฟส 5 ไม่จำเป็น

เพื่อไทย ยก 4 ข้อโต้ 'อาคม' ชี้คนละครึ่ง ตัวคูณการคลังต่ำ ไม่ใช่คำตอบระยะยาว ย้ำเฟส 5 ไม่จำเป็น

เมื่อวันที่ 19 ก.ย.65 นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ฐานะผอ.ศูนย์นโยบายพรรคพท.กล่าวกรณีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าวถึงผลงานรัฐบาลและมาตรการคนละครึ่ง ในรายการคุยเรื่องบ้าน คุยเรื่องเมือง คุยทุกเรื่องกับรัฐมนตรีว่า ตนเห็นแย้งกับ รมว.คลังใน 4 ประเด็น ดังนี้

1.คนละครึ่งไม่ได้ดีต่อเศรษฐกิจมากเท่าที่กล่าวอ้าง คนละครึ่งทั้ง 4 เฟสที่ผ่านมา มีค่าตัวคูณทางการคลังเฉลี่ยที่ 1.5 ตัวเลขนี้ชี้ชัดว่าคนละครึ่งนั้นด้อยกว่ามาตรการด้านสวัสดิการสังคม ซึ่งมีตัวคูณฯที่ 1.95 ด้อยกว่ามาตรการประกันสินเชื่อ ซึ่งมีตัวคูณฯที่ 2.1 ด้อยกว่าแม้กระทั่งค่าตอบแทนบุคลากรภาครัฐ หรือการจ่ายเงินเดือนข้าราชการ ซึ่งมีตัวคูณฯที่ 1.87 ดังนั้น หากจะสรุปว่าคนละครึ่งเป็นมาตรการที่มีประสิทธิภาพ เป็นการสรุปที่คลาดเคลื่อน และไม่ตั้งอยู่บนฐานของตัวเลข

นายเผ่าภูมิ กล่าวต่อว่า 2.คนละครึ่ง เฟส 5 ไม่จำเป็นอีกต่อไปในปัจจุบัน คนละครึ่งใช้ได้ในช่วงที่ต้องการประคองกำลังซื้อในช่วงคนกังวล และลังเลที่จะใช้จ่าย แต่ปัจจุบันได้ผ่านจุดนั้นมาแล้ว การใช้คนละครึ่งในช่วงที่การบริโภคฟื้นตัวแล้ว เป็นการไปกระตุ้นและทดแทนกำลังซื้อที่เกิดขึ้นอยู่แล้วแม้ไม่มีมาตรการ นั่นคืองบประมาณในส่วนนี้จะไปลงกับคนที่ไม่ได้เดือดร้อนจริง ควรนำเงินส่วนนี้ไปใช้กระตุ้นตลาดแรงงานมากกว่า เช่น มาตรการกระตุ้นการจ้างงาน แก้ไขเรื่องแรงงานคืนถิ่น-แรงงานไหลกลับสู่ภาคการเกษตร ปัญหาขาดแคลนแรงงาน ซึ่งตรงกับสถานการณ์และเป็นประโยชน์กว่า

นายเผ่าภูมิ กล่าวอีกว่า 3.คนละครึ่ง ไม่เคยใช่คำตอบในระยะยาวในการพัฒนาประเทศ มาตรการในลักษณะนี้เป็นสิ่งที่ใช้แล้วหมดไป ประโยชน์ในการสร้างศักยภาพและผลิตภาพให้กับประเทศในระยะยาวแทบจะเท่ากับศูนย์ และคนละครึ่งใช้เงินจาก พ.ร.ก. เงินกู้ทั้งสองฉบับ ฉะนั้นมาตรการแบบนี้ไม่ได้สร้างอะไรทิ้งไว้ให้กับประเทศในระยะยาวเลย เว้นแต่หนี้สาธารณะ

4.การเปรียบเทียบความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจโดยใช้ตัวเลข GDP แล้วอนุมานว่าวิกฤตโควิดนี้ไม่รุนแรงเท่าวิกฤตในอดีต ไม่ใช่ข้อสรุปที่ถูกต้อง ในอดีตที่ GDP ติดลบหนักๆ เกิดจากวิกฤตกระทบตรงไปที่สถาบันการเงินและกลุ่มทุนใหญ่ เป็นวิกฤตที่แคบ ลงลึก แต่ฟื้นเร็วGDP หดตัวแรง แต่ไม่กระทบประชาชนในวงกว้าง แต่วิกฤตโควิดนี้เป็นวิกฤตที่กว้าง ฝังลึก ฟื้นช้า เกิดแผลเป็น สถาบันการเงินไม่กระทบ แต่ชนชั้นกลางลงไปเดือดร้อนแสนสาหัส ตลาดแรงงานเสียหายถึงชั้นโครงสร้าง ภาคบริการทั้งระบบพังลง ฉะนั้นการเปรียบเทียบโดยใช้มิติตัวเลข GDP อย่างเดียวนั้น นำไปสู่ข้อสรุปที่คลาดเคลื่อนจากสภาพความเป็นจริง

0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0