โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เช็กที่นี่!! ไกด์ไลน์รักษา ‘ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่’ ยาหลักใช้โอเซลทามิเวียร์ ยารองใช้ฟาวิพิราเวียร์

The Bangkok Insight

อัพเดต 03 ต.ค. 2566 เวลา 06.22 น. • เผยแพร่ 03 ต.ค. 2566 เวลา 06.22 น. • The Bangkok Insight
เช็กที่นี่!! ไกด์ไลน์รักษา ‘ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่’ ยาหลักใช้โอเซลทามิเวียร์ ยารองใช้ฟาวิพิราเวียร์

กรมการแพทย์ ออกไกด์ไลน์รักษา "ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่" ยาหลักใช้โอเซลทามิเวียร์ ยารองใช้ฟาวิพิราเวียร์

กรมการแพทย์ ออกคำแนะนำการรักษาโรคไข้หวัดใหญ่ สำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ฉบับปรับปรุงวันที่ 2 ตุลาคม 2566 มีรายละเอียด ดังนี้

ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่
ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่

การรักษาผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ แบ่งออกเป็น การรักษาแบบประคับประคองและการรักษาเฉพาะโดยให้ยาต้านไวรัส โดยให้ยาต้านไวรัสอันดับแรก คือ โอเซลทามิเวียร์ (Oseltamivir)

ส่วนยาอันดับรอง คือ ฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) ใช้ในกรณที่ไม่สามารถใช้ยาอันดับแรกได้ เฉพาะในกรณีที่เป็นไข้หวัดใหญ่อาการไม่รุนแรงเท่านั้น

ทั้งนี้ การให้ยาต้านไวรัสเพื่อการรักษาไข้หวัดใหญ่ ควรเริ่มยาให้เร็วภายใน 48 ชั่วโมงแรก เพื่อผลการรักษาดีที่สุด

กรณีผู้ที่มีอาการรุนแรงหรือเสี่ยงสูง แม้จะเลย 48 ชั่วโมงไปแล้ว ก็ยังมีประโยชน์เมื่อได้รับยา โดยให้ยาต้านไวรัสเฉพาะผู้ป่วยดังต่อไปนี้

1. ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง ต้องนอนโรงพยายาล หรือมีภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง

2. ผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงต่อโรครุนแรง

3. สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง อาจจะพิจารณาให้ยาต้านไวรัส หากมีอาการมาไม่เกิน 48 ชั่งโมง (ผู้ป่วยกลุ่มนี้มักจะมีอาการไม่รุนแรงและหายได้เองโดยไม่มีภาวะแทรกซ้อน แต่ยาต้านไวรัสทำให้อาการหายเร็วขึ้น)

อย่างไรก็ตาม การใช้ยา Oseltamivir ขนาดสูง 2 เท่าของปกติ พบว่าไม่มีประสิทธิผลดีไปกว่าขนาดปกติที่แนะนำ ส่วนการใช้ยาระยะนานกว่า 5 วัน ให้พิจารณาตามความจำเป็นและเหมาะสมตามดุลยพินิจของแพทย์ผู้ดูแล แต่ไม่แนะนำให้ยาต้านไวรัสเพื่อการป้องกัน สำหรับผู้สัมผัสโรค แนะนำให้สังเกตอาการและรีบเริ่มยาเร็วที่สุดเมื่อมีอาการ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ความเห็น 0

ยังไม่มีความเห็น