ทีมข่าวพีพีทีวี รวบรวมวิวัฒนาการของเตาถ่านมาฝากกัน เริ่มจาก เตาอั้งโล่ ซึ่งคนไทยจะคุ้นเคย เพราะมีใช้กันเกือบทุกบ้าน แต่เตาอั้งโล่ค่อนข้างหนัก ให้ความร้อนต่ำ 500-600 องศาเซลเซียส ทำให้มีการพัฒนาเป็นเตาชีวมวล ที่น้ำหนักเบากว่า
ละให้ความร้อนสูงกว่า 600 - 800 องศาเซลเซียส แถมยังใช้เศษไม้ เปลือกผลไม้ เป็นเชื้อเพลิงได้ และวิวัฒนาการล่าสุด คือเตา เตามหาเศรษฐี หรือเตาซุปเปอร์อั้งโล่
ใช้ "เตามหาเศรษฐี" (เตาอั้งโล่) ช่วยประหยัดพลังงานในยุคที่ก๊าซหุงต้มแพง
ย้อนปรากฎการณ์ไข่แพงแต่ละรัฐบาลสู่ไข่ยุคประยุทธ์ดัชนีชี้วัดของแพง
ที่กระทรวงพลังงานแนะนำให้คนไทยใช้ ซึ่งเป็นเตาหุงต้มประสิทธิภาพสูง ให้ความร้อนมากกว่าเตาอั้งโล่ตามท้องตลาดถึง 29% ถ้าหากตามบ้านเรือนหันมาใช้เตามหาเศรษฐีจะสามารถประหยัดไม้ฟืนและถ่านที่นำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงได้ถึง 500-600 บาท/ครัวเรือน/ปี และช่วยลดการใช้แก๊ส LPG ในครัวเรือน
ซึ่งโพสต์แนะนำของกระทรวงพลังงานนี้ มีคนทยอยเข้าไปแสดงความคิดเห็นอย่างต่อเนื่อง แต่ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย และ แซวแนวคิดนี้ เช่น เป็นความคิดที่ยกนิ้วให้เลยค่ะยอด ดีเลิศ เด็ดขาด อันดับหนึ่ง ขอบคุณรัฐบาลชุดนี้ และ รัฐมนตรีทุกกระทรวงที่สร้างความ Surprise ให้ประชาชนได้เสมอ
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สอบถามเจ้าของร้านอาหารตามสั่ง ที่จังหวัดสมุทรปราการ ถึงข้อแนะนำของกระทรวงพลังงานที่ให้ใช้เตามหาเศรษฐี ซึ่งแม่ค้า บอกว่า ไม่ใช่ยุคเก่านะที่จะมาใช้เตาถ่าน โดยเฉพาะที่ช่วงเย็นที่ลูกค้ามาเยอะ ถ้าเป็นเตาถ่าน เราไม่สามารถควบคุมความร้อนได้ กว่าจะทำอาหารเสร็จลูกค้าหายหมด ส่วนการสิ้นเปลืองก็คิดว่าถ่านน่าจะเปลืองกว่า และ กว่าจะจุดไฟให้ติดก็ลำบากกว่า มีทั้งควันไฟ ทั้งกลิ่นอีก ไปรบกวนลูกค้า โดยอยากให้ภาครัฐช่วยเหลือราคาแก๊สมากกว่าที่จะแนะนำมาใช้เตาถ่าน
ขณะเดียวกันสำนักงานพลังงานจังหวัดมหาสารคาม ได้ลงพื้นที่ไปแนะนำให้ครัวเรือนเปลี่ยนมาใช้เตาชีวมวล ที่มีลักษณะพิเศษแตกต่างจากเตาธรรมดาทั่วไปคือการให้ความร้อน และความทนทาน ซึ่งเตาธรรมดาความร้อนของเปลวไฟจะออกมา
เบาบ้างแรงบ้าง แต่เตาตัวนี้ความร้อนจะคงที่ ใส่ฟืนมากเท่าไรจะได้ความร้อนเท่านั้น ซึ่งความร้อนสูงสุดที่วัดได้ คือ 600 - 800 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ยังสามารถใช้ฟืน หรือเศษไม้ เศษของเปลือกผลไม้ อายุการใช้งาน 7-8 ปี เป็นทางเลือกยุคพลังงานแพง
ส่วนที่ร้านทำเตาถ่าน อำเภอวาปีปทุม สองสามีภรรยาเร่งผลิตเตาถ่านเพื่อเตรียมส่งขายให้กับลูกค้า หลังจากมีลูกค้าจากทั่วประเทศสั่งทำเตาเพิ่มมากขึ้น
นางทุมมา พุทธมา เจ้าของร้านทำเตา บอกว่า ตั้งแต่ช่วงที่ราคาแก๊สปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ชาวบ้านหันมาใช้เตาถ่านกันมากขึ้น ลูกค้ายอดสั่งจองเพิ่มขึ้นอย่างไม่ขาดสาย โดยจากเดิมจากที่เคยผลิตได้วันละ 100 เตา แต่ปัจจุบันต้องเร่งผลิตเพิ่มเป็น 200 เตา ก็ยังไม่พอกับความต้องการของลูกค้า ปัจจุบันมียอดขายเตาอยู่ที่วันละประมาณ 6,000 บาท รวมรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายก็ทำให้ครอบครัวมีรายได้เกือบ 100,000 บาท
ทยอยเพิ่มสลากดิจิทัล 10 ล้านใบในปีนี้ เริ่ม 17 ก.ค.65
ผู้ใช้รถเฮ! “โออาร์” ลดเบนซิน 30-50 สต./ลิตร ดีเซลคงเดิม มีผลพรุ่งนี้
รู้ชัด! วัคซีนบูสเตอร์โดส ทางออกสำคัญในการกระตุ้นภูมิป้องกันโควิด-19