เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ นายจิรวุฒิ สิงห์โตทอง นายกสมาคมกลุ่มอาชีพการเกษตรชลบุรี กล่าวถึงกรณีการเผาอ้อยสร้างฝุ่นละอองในอากาศว่า ในพื้นที่ จ.ชลบุรี มีการปลูกอ้อย ประมาณ 100,000 ไร่ ในพื้นที่ อ.บ้านบึง อ.บ่อทอง อ.หนองใหญ่ และ อ.เกาะจันทร์ ผลผลิตประมาณ 1 ล้านตันถือว่าน้อยมากหากเทียบกับจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศ สำหรับปัญหาการเผาอ้อยที่เกิดขึ้นก็เนื่องมาจากราคาอ้อยตกต่ำ ไม่คุ้มทุนตกประมาณตันละ 670 บาท หากจ้างคนงานมาตัดอ้อยวันละประมาณ 330 บาท ตัดอ้อยสดจะได้ประมาณวันละ 1 ตันต่อคน หากตัดอ้อยเผาจะได้ประมาณ 3-4 ตันต่อคน ที่สำคัญหาแรงงานตัดอ้อยลำบาก จ้างก็ไม่คุ้มทุน จึงทำให้เกิดปัญหาต้องเผาอ้อยเข้าโรงหีบ
นายจิรวุฒิ กล่าวว่า ในเรื่องปัญหาของละอองใบอ้อยที่เผานั้นถือว่าน้อย เพราะชาวไร่อ้อยรู้ดีว่า หากเผาอ้อยจำนวนมากก็จะไปรบกวนชาวบ้านข้างเคียง ตนปลูกอ้อย 1,000 ไร่ จะเผาครั้งหนึ่งก็ 5 ไร่ ใช้เวลาไม่ถึง 15 นาที หลังจากนั้นจึงตัด เชื่อว่าชาวไร่อ้อยทุกคนก็ปฏิบัติกันอย่างนี้ เพราะว่าจะรบกวนชาวบ้านเหมือนกัน การที่จะตัดอ้อยสดนั้น ชาวไร่อ้อยก็อยากจะทำเหมือนกัน หากราคาอ้อยตันละ 1,100-1,200 บาท ซึ่งจะทำให้จูงใจในการตัดอ้อย เพราะไม่เสียน้ำหนัก ไม่เสียค่าความหวาน (CCS) ที่สำคัญสามารถรอเข้าโรงหีบได้ หากเผาอ้อยเมื่อรอเข้าโรงหีบ อ้อยก็จะแห้งน้ำหนักก็จะเสียไปอีก แถมถูกตัดราคาตันละ 30 บาทอีกด้วย ชาวไร่อ้อยไม่อยากเผาก็ต้องเผา เพราะหากตัดอ้อยสดก็ไม่คุ้มทุน
“ชลบุรีปลูกอ้อยมานานกว่า 50 ปี มีการเผาอ้อยกันมาตลอดสมัยปู่ย่าตายายไม่เคยมีปัญหา โดยเฉพาะชลบุรีอดีตมีโรงหีบอ้อยนับพันแห่งไม่เคยมีปัญหาในเรื่องมลภาวะ ปัญหาเรื่องฝุ่นละออกนั้นอยากให้แก้ไขให้ถูกทาง ส่วนใหญ่มาจากการก่อสร้าง รถขนดินที่ตกหล่น เมื่ออากาศแห่งก็จะเป็นละอองขึ้นไปในอากาศ ส่วนอ้อยนั้นช่วงเดือนมีนาคมก็จะเลิกตัดกันแล้ว เพราะถึงฤดูปิดหีบอ้อย” นายจิรวุฒิกล่าวและว่า ส่วนการแก้ไขปัญหานั้น เมื่อมีการสร้างโรงหีบอ้อยลงทุนหลายหมื่นล้านบาท ควรจะมีรถตัดอ้อยออกมาบริการชาวไร่อ้อย หากมีผลผลิต 1 แสนตัน ก็ควรมีรถตัดอ้อย 5 หมื่นคันถึงจะแก้ไขปัญหาในเรื่องการเผาอ้อยได้