สวัสดีเพื่อนๆ ชาว Spice กันทุกคน วันนี้เราจะมาเอาใจเพื่อนๆ ที่รักการท่องเที่ยวกันหน่อย ด้วยการพามารู้จัก 5 สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองที่ที่มีลักษณะคล้ายกับเเกรนเเคนยอน ซึ่งคงเป็นที่ทราบกันดีนะครับว่าเเกรนด์เเคนยอนนั้นตั้งอยู่ในในสหรัฐอเมริกา เป็นหุบเขาที่มีความยิ่งใหญ่อลังการที่เกิดจากการกัดเซาะของลมเเละน้ำจนกลายเป็นหุบเขาที่มีภูมิทัศน์สวยงามเเปลกตา ซึ่งในเมืองไทยเราก็มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติสวยงามที่เกิดจากการกัดเซาะเช่นนี้เหมือนกันเเม้ว่าจะไม่ยิ่งใหญ่อลังการเท่าเเกรนด์เเคนยอน เเต่ก็นับได้ว่าน่าสนใจไปเยือน สัมผัสบรรยากาศเเละเก็บภาพถ่ายสวยๆ ไม่น้อย ซึ่งจะมีที่ไหนบ้างนั้นเราลองมาชมกันเลยครับ
#1. “หินชมนภา” หาดชมดาว จ. อุบลราชธานี
สถานที่เเรกที่เราอยากจะเเนะนำให้รู้จักคือ 'หาดชมดาว' ตั้งอยู่ติดริมโขงในจังหวัดอุบลราชธานี จะมีช่วงที่ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสความงดงามได้ในช่วงฤดูน้ำลด ซึ่งจะเผยให้เห็นหินกลางน้ำรูปร่างเเปลกตา มันคือเเก่งหินที่ถูกกัดเซาะโดยน้ำจนเกิดเป็นผาหิน เเละเเองต่างๆ มีลวดลายเเตกต่างกันไป
ผาหินสูงใหญ่ และเว้าแหว่งยาวคล้ายช่องแคบ มีสายน้ำไหลผ่าน ถือเป็นไอไลท์สำคัญของที่นี่
จุดที่เป็นหินผานี้เป็นจุดที่ชมท้องฟ้าที่ได้เเสงสีสวยงามที่สุด
#2. กองแลน (ปายแคนย่อน) จ.แม่ฮ่องสอน
ขึ้นเหนือกันหน่อย ไปที่จังหวัดเเม่ฮ่องสอนเราจะได้พบกับ กองเเลน ซึ่งที่นี่เมื่อมีลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาดินเเดงที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าเต็งรังเเละป่าสน หากคุณเดินสำรวจขึ้นไปเรื่อยจะพบว่าเขาเขาเเละหน้าผาที่นี่เกิดจากการกัดเซาะของลมเเละน้ำคล้ายๆ กับที่เกิดขึ้นในเเกรนเเคนยอน บางเเห่งจะพบการทรุดตัวของดินที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำกลายเป็นเหวลึก เหลือเพียงสันเขาเเคบให้นักท่องเที่ยวพอที่จะเดินสำรวจความงามได้ อากาศยามเช้าเเละยามเย็นของที่นี่เย็นสบาย อากาศดีน่าสูดลมหายใจเข้าไปให้เต็มปอด
เวลาที่เหมาะสมในการเข้าชมคือช่วงเช้า และช่วงเย็น
สันเขาเป็นทางเดินเเคบๆ ที่นักท่องเที่ยวจะต้องเดินสำรวจด้วยความระมัดระวัง
#3. ผาช่อ จ.เชียงใหม่
มาที่จังหวัดเชียงใหม่ ที่นีมีเเกรนเเคนยอนเมืองไทยที่ขึ้นชื่อคือ 'ผาช่อ' ที่มีภูมิประเทศเป็นภูเขาที่ตั้งตระหง่านเป็นเสาดินที่โดดเด่น รูปร่างเเปลกตาน่าสังสัย มีลวดลายที่สวยงาม ความสูงของมันราวๆ 30 เมตร ครอบคลุมพื้นที่กว้างขวาง ซึ่งความพิศดารของผาช่อนั้นเกิดจากปรากฏการณ์การกัดเซาะของน้ำฝนตามธรรมชาติ ที่ให้เวลาหลายร้อยหลายพันปี จากหลักฐานทางธรณีวิทยาทำให้ทราบได้ว่าหุบเขาบริเวณนี้เคยเป็นทางน้ำปิงมาก่อน ก่อนที่เเม่น้ำปิงจะเปลี่ยนสายย้ายทิศทางการไหลไปที่อื่น ซึ่งสังเกตุได้จากเนินเขาสูงเกิดจากตะกอนเเม่น้ำปิงก่อตัวทับถมเป็นชั้นๆโดยกระบวนการทั้งหมดนี้กินระยะเวลายาวนาน
เสาหินตั้งตระหง่าน
สวยงามอลังการ ความสูงไม่น้อยกว่า 30 เมตร
#4. สามพันโบก จ.อุบลราชธานี
สามพันโบกเป็นเเก่งหินในจังหวัดอุบลราชธานี เป็นความสวยงามตามธรรมชาติที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ลำน้ำโขงที่เผยให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสความงามเฉพาะในช่วงฤดูน้ำลด ซึ่งเราจะได้เห็นการกัดเซาะก้อนหินเป็นชั้นๆ เป็นหลุมที่มีความสวยงามพิศดาล
หลุมหินรูปร่างพิสดารที่เกิดจากการกัดเซาะ
หน้าผา ชะง่อนหิน เเละลำธารน้ำไหล
#5. เสาดินนาน้อย-คอกเสือ จ.น่าน
เรามาปิดท้ายกันที่จังหวัดน่าน พาไปชม 'เสาดินนาน้อย' หรือที่ภาษาเหนือเค้าเรียกว่า 'ฮ่อมจ๊อม' ทีมีลักษณะภูมิประเทศเป็นหน้าผาเเละเสาดินคล้ายจอมปลวกตั้งเด่นเป็นเเท่งสีเเดงๆ รูปทรงเเปลกตาที่เกิดจากการกัดเซาะของลมเเละฝนเป็นเวลายาวนาน นักธรณีวิทยาสันนิษฐานว่าที่นี่อาจเคยเป็นก้นทะเลมาก่อนเมื่อ 10,000 - 35,000 ปีที่เเล้ว เเถมยังมีการค้นพบวัตถุโบราณเช่น ขวานโบราณเเละกำไลหิน ซึ่งชี้ให้เห็นว่าที่นี้เคยเป็นเเหล่งที่อยู่อาศัยของคนโบราณในยุคหินเก่ามาก่อน
ที่นี่อาจจะไม่ใหญ่โตมากเเต่ก็สวยเเปลกตาดี
ลักษณะของหินผาที่เกิดจากการกัดเซาะของที่นี่
*เป็นอย่างไรกันบ้างครับ หลังจากที่ได้รู้จักสถานที่สวยงามเเบบเเปลกที่เกิดจากการกัดเซาะของลมเเละน้ำในเมืองไทยเหล่านี้เเล้ว สวยงามคล้ายๆกับเเกรนเเคนยอนในอเมริกาเลยใช่มั้ยล่ะ เเม้ว่าจะไม่ยิ่งใหญ่อลังการเท่าของจริงก็เถอะเเต่ก็น่าจะทดเเทนกันได้ ซึ่งนั่นทำให้เราเรียกขานสถานที่ท่องเที่ยวในลักษณะนี้ในประเทศไทยว่า “แกรนด์แคนยอน เมืองไทย” ใครที่อยากเที่ยวเเกรนด์เเคนยอนจริงๆ เเต่ยังไม่มีเวลาไป ก็น่าจะมาเก็บสถานที่เหล่านี้ให้ครบกันก่อนดีกว่านะครับ *