หากถามคนยุคปัจจุบันว่า อยากย้อนเวลากลับไปใช้ชีวิตในยุคหินไหม เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากไป
โลกยุคที่มนุษย์อาศัยในถ้ำ ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก ไม่มีแปรงสีฟัน ไม่มียาสีฟัน ไม่มีเสื้อผ้าสวย ๆ ไม่มีศูนย์การค้า ไม่มีโรงหนัง ไม่มีวิทยุ โทรทัศน์ ไม่มีโทรศัพท์มือถือ ไม่มีโซเชียลเน็ตเวิร์ก ไม่มีการแช็ต
คนยุคหินคงกินข้าวไม่เป็นเวลา ถ้าล่าสัตว์ไม่ได้ ก็อาจอดไปหลายวัน
นี่ย่อมไม่ใช่โลกที่เราอยากไป
แต่หากถามคนในศตวรรษที่ 25 ว่าอยากมาอยู่ในยุคเราตอนนี้ไหม คำตอบของมนุษย์อนาคตอาจจะคือ “ไม่” เช่นกัน เพราะพวกเขาอาจรู้สึกเหมือนกับที่เรารู้สึกเกี่ยวกับมนุษย์ยุคหิน
สมมุติว่าในศตวรรษที่ 25 ผู้คนไม่ต้องทำงาน มีกินมีใช้เพราะหาทรัพยากรได้จากดาวเคราะห์ต่าง ๆ มีหุ่นยนต์ช่วยทุกเรื่อง ไม่เจ็บป่วยอีกต่อไป สามารถเปลี่ยนอวัยวะที่เสื่อมได้ง่ายดาย ชาวโลกสามารถไปต่างดาวได้ในพริบตา ไปชมจันทร์สามดวงที่ดาว X ชมอาทิตย์สองดวงที่ดาว Y เดินทางข้ามรูหนอนไปดินเนอร์ที่ดาว Z
คนยุคนั้นอาจเห็นว่าการดูหนังในยุคนี้เป็นเรื่องรุงรัง วุ่นวาย เพราะสามารถเสพความบันเทิงที่ฝังในหัวหรือในยีนของเราโดยตรง
สำหรับพวกเขา อาจรู้สึกว่าโลกในศตวรรษที่ 21 น่าเบื่ออย่างยิ่ง การแช็ตในโลกโซเชียล เน็ตเวิร์ก อาจเป็นเรื่องที่ไร้สาระที่สุดในโลก
นี่แปลว่ามนุษย์แต่ละยุคสร้างสภาวะ ‘ตัวกู-ของกู’ จากสิ่งที่มีในโลกยุคนั้น ๆ เช่นที่มนุษย์ยุคหินไม่มี ไม่รู้จักสมาร์ตโฟน ก็ไม่เป็นทาสของมัน ไม่รู้จักโซเชียล แช็ต ก็ไม่รู้สึกยินดียินร้ายกับมัน พวกเขาอาจรู้สึกดีกว่ายามมองดูท้องฟ้า ยอดหญ้า น้ำค้าง อาทิตย์ขึ้นลง
เช่นกัน เราในยุคปัจจุบันไม่สามารถเดินทางข้ามรูหนอนไปดาวดวงใด ก็ไม่รู้สึกว่าเราพลาดอะไรไป
มองแบบนี้จะเห็นว่ามนุษย์เรากำหนดความเป็นทาสวัตถุและตัวตนของเราขึ้นมาเอง
ความสุขต่อวัตถุ สิ่งของ และสภาวะรอบตัวจึงเป็นเพียงสิ่งปรุงแต่งที่เปลี่ยนไปในแต่ละยุคสมัย
วัตถุสิ่งของเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา ถ้าเราผูกตัวเองกับวัตถุจนไม่รู้ตัวว่ากำลังเป็นทาสมัน ก็จะตกอยู่ในกล่องใบหนึ่งที่เราเชื่อว่าคือโลกที่ดีที่สุด
ทุกยุคทุกสมัยมีดีของมัน แตกต่างกันออกไป อยู่ที่เรามองเห็นมันไหม
แต่ละยุคสมัยมีข้อดีข้อเสีย จุดเด่นจุดด้อยต่างกัน สมัยผมเป็นเด็ก ห้องส้วมเป็นแบบส้วมถังเท กลิ่นเหม็นตลบ หากคนยุคนั้นเห็นห้องส้วมในสมัยปัจจุบัน โถส้วมที่ปรับอุณหภูมิได้ ย่อมเห็นว่ามันเป็นยิ่งกว่าสวรรค์
แต่หากไปถึงยุคอนาคตไกลโพ้น เมื่อมนุษย์ไม่จำเป็นต้องเข้าส้วมอีกต่อไป เพราะเราสามารถปรับเปลี่ยนสรีระทางพันธุกรรมให้ไม่ต้องมีของเสียอีกต่อไป มันก็ดีไปอีกแบบ แต่เราไม่ได้อยู่ในโลกนั้น เราจึงไม่รู้สึกว่าพลาดอะไรไป
บางทีเมื่อเรารู้ตัวว่ากำลังเสพติดอะไร ให้ลองนึกถึงมนุษย์ในอดีตกาลกับมนุษย์ในอนาคตกาล เพื่อเปรียบเทียบ แล้วลดความยึดมั่นถือมั่นลง
วินทร์ เลียววาริณ