“รถหรูฟรี” จากภาษีประชาชน! เลือกตั้งยังไม่มี แต่รถใหม่ “กกต.” ต้องมี!

“รถหรูฟรี”จากภาษีประชาชน! เลือกตั้งยังไม่มีแต่รถใหม่“กกต.” ต้องมี!

อีกหนึ่งเรื่องตลกร้ายของประเทศไทยนอกจากปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในวันนี้ คืองบประมาณจำนวน 22,164,000 บาท เพื่อสั่งซื้อ"รถประจำตำแหน่ง" ให้กับเหล่าคุณ ๆ ท่าน ๆ แห่ง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือ กกต. ด้วยคำยืนยันว่า “จำเป็นต้องจัดซื้อใหม่ทั้งหมด”

เงินกว่า 22 ล้านบาทนี้ถูกจัดสรรให้กับการซื้อรถประจำตำแหน่งผู้บริหารบอร์ด กกต. จำนวน 6 คัน แบ่งเป็นของประธาน กกต. 1 คัน คณะกรรมการ 4 คัน และเลขาธิการอีก 1 คัน โดยเป็นงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2652 ที่ไม่เกี่ยวข้องกับงบเลือกตั้ง ส.ส. และ ส.ว. รวมถึงการเลือกตั้งท้องถิ่นที่ได้รับการจัดสรรแยกไปแล้ว 6,000 ล้านบาท

ปัจจุบันนี้ ตำแหน่งผู้บริหารของ กกต. ประกอบไปด้วยคณะบุคคลจำนวน 8 คน โดยแต่ละคนจะมีรถประจำตำแหน่งคนละ 1 คัน โดยรถสองคันแรกที่ได้จัดซื้อไปเรียบร้อยแล้วคือ "เบนซ์ รุ่น E350e" และเราต้องมารอดูว่าของคนอื่น ๆ จะได้ครอบครองรุ่นไหนกันไป ภายใต้วงเงินสูงสุด 4.2 ล้านบาทของท่านประธาน 3.7 ล้านบาทของท่านกรรมการ และเลขาธิการได้วงเงินน้อยสุดที่ 2.7 ล้านบาท

ภายใต้สถานการณ์การเลือกตั้งที่ยังไม่สรุปกันเสียทีว่าจะให้ประชาชนอย่างเรา ๆ ได้ใช้สิทธิ์ของตัวเองกันเมื่อไหร่ เป็นที่น่าสงสัยเหมือนกันว่า การเปลี่ยนรถประจำตำแหน่ง เป็นประเด็นที่เร่งด่วนและรอไม่ได้ขนาดนั้นเลยจริงหรือ?

เหตุผลที่ กกต. ‘ยืนยัน’ ว่าต้องซื้อ เป็นเพราะรถที่ใช้อยู่หมดอายุการใช้งานตามระเบียบอยู่ที่ 6 ปี และรถปัจจุบันต้องซ่อมแซมบ่อยครั้ง แถมยังมีปัญหารถเสีย ทำให้ต้องเปลี่ยนมาใช้รถสำรองอยู่บ่อย ๆ 

แต่ถ้าลองย้อนกลับไปดูเหตุผลของ กกต. ชุดก่อนหน้าที่มีความพยายามจะจัดหารถประจำตำแหน่งใหม่ให้ได้ในวาระของตัวเอง พวกเขาได้ให้สาเหตุว่าเป็นเพราะรถเดิมใกล้จะหมดอายุการใช้งาน 5 ปี เพื่อให้รองรับกับการเข้ารับตำแหน่งใหม่ของ กกต. ชุดปัจจุบัน เลยอยากจะซื้อคันใหม่พร้อมกันไปเลยทั้งหมด

เพื่อไม่ให้เกิดความลักลั่นว่าใครจะใช้รถเก่าหรือรถใหม่

และเมื่อลองมาเทียบงบประมาณจัดซื้อรถจำนวน 22 ล้านบาทที่กำลังจะจัดซื้อ เข้ากับงบประมาณที่ถูกจัดสรรเพื่อทำงานที่เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่ควรจัดให้เกิดการเลือกตั้งอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการให้ความรู้ด้านการเลือกตั้งของประชาชน ดูเหมือนงบประมาณอย่างหลัง จะดูไม่มีความสำคัญเท่ากับความสะดวกสบายในการเดินทางด้วยรถเบนซ์ประจำตำแหน่งเอาเสียเลย

ยกตัวอย่างเช่นการซื้อสื่อหนังสือพิมพ์เพื่อการประชาสัมพันธ์การเลือกตั้ง ส.ส. คิดเป็นงบประมาณ 6 ล้านบาท การผลิตสื่อเผยแพร่ความรู้ จำนวน 9.45 ล้านบาท และการประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งผ่านสื่อออนไลน์อีก 5 ล้านบาท

รวมทั้งสามรายการที่เป็นประโยชน์กับประชาชนอย่างเราที่จะได้มีความรู้มากขึ้นกับการเลือกตั้งยังใช้เงินไม่เท่างบซื้อรถใหม่6 คันเลย!

และถ้าถามว่าประชาชนอย่างเราได้รับการให้ความรู้จาก กกต. อย่างเต็มที่มากแค่ไหน เทียบกับการเข้าถึงสื่อหลักอย่างเว็บไซต์และหนังสือพิมพ์เจ้าต่าง ๆ ก็คงต้องบอกว่า ‘น้อยมาก!’

เห็นอย่างนี้แล้ว ประชาชนอย่างเราที่ต้องนั่งรถเมล์เก่าควันดำ (แถมขึ้นราคาไปแล้วเรียบร้อย) สูดฝุ่นควันไปทำงาน ก็ได้แต่นั่งอิจฉาคุณท่านทั้งหลายในออฟฟิศ ที่เพิ่งรีโนเวตใหม่  ได้ไปดูงานต่างประเทศกันสนุกสนาน แถมยังได้รถประจำตำแหน่งสุดหรูคันใหม่กันทุกคน ไม่ต้องแย่งกัน

ประชาชนเจ้าของเงินอย่างพวกเราก็หวังใจเช่นกันว่าการใช้ชีวิตแสนสะดวกสบายของท่านจะช่วยให้ท่านทำงานอย่างมีประสิทธิภาพได้การเลือกตั้งที่โปร่งใสและเลิกเลื่อนเสียที!