โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

เรื่องสั้น

ถูกวาร์ปมาเป็นสตรีมเมอร์ที่ดังที่สุดในกาแล็กซี่

นิยาย Dek-D

อัพเดต 29 เม.ย. เวลา 18.22 น. • เผยแพร่ 29 เม.ย. เวลา 18.22 น. • เมฆสีรุ้ง/Pempida
ถูกวาร์ปมาเป็นสตรีมเมอร์ที่ดังที่สุดในกาแล็กซี่
วาน่าสตรีมเมอร์สาวไทยเพียงคนเดียวในกาแล็กซี่ี่ห่างไกลจากโลกเป็นล้านๆ ปีแสงเพราะเกิดจาดความผิดพลาด จะให้เรากินอาหารเหลวพวกนี้ไปจนตายเลยรึไง!! จะดูถูกสาวคหกรรมคนนี้มากไปแล้วนะ!!

ข้อมูลเบื้องต้น

อยู่ดีๆ ก็ถูกวาร์ปมา

แสงไฟยามค่ำคืนกับดวงจันทร์กลมโตที่เด่นเป็นสง่าสวยงามโชว์ความงดงามให้กับผู้คนยามที่พระอาทิตย์หายลับฟ้าไปแม้จะมีดวงจันทร์ที่คอยให้แสงสว่างแต่มันก็ไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตในยามค่ำคืนในยุคนี้ ทำให้มนุษย์ได้คิดหลอดไฟและพัฒนาส่งต่างๆ ออกมามากมายที่เมื่อใดที่พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปเสาไฟที่คอยให้แสงสว่างยามค่ำคืนก็จะเปิดขึ้นมาทันที

ตามถนนสายหนึ่งที่ไม่มีอะไรมีเพียงรถยนต์ที่จอดนิ่งเป็นโมเดลกับเสาไฟที่ติด ดับๆ เหมือนกำลังจะดับทำให้มันกระพริบไปมาเหมืออยู่ในสถานบันเทิง แสงไฟพวกนั้นได้ตกกระทบเข้ามาที่ร่างบางที่สมเสื้อยืดสีดำเป็นกางเกงวอร์มสีดำตัวเก่ง ในมือหิ้วของมากมายหลังจากที่ไปเดินซื้อของมาเก็บทำอาหารและเอามาเติมตู้เย็นก่อนที่จะมีการล็อคดาวน์

วาน่าเป็นผู้หญิงวัยรุ่นที่กำลังหอบข้าวของที่เดินไปซื้อในห้างมาเพื่อที่จะนำมาเติมตู้เย็นที่ว่างเปล่าที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากนมกับน้ำเอาไว้ประทังชีวิต

“เฮ้อ…เมื่อไรจะถึงสักทีเนี่ย โอ๊ย! หนักก็หนักบ้านก็ไกลรถรับจ้างก็ไม่มีอะไรมันจะน่าสงสารอย่างนี้วะเรา”

ถ้าไม่ติดว่าโควิดระบาดนะเราไม่มีทางวิ่งไปแย่งคนอื่นซื้อหรอกพอโควิดระบาดเท่านั้นละราคาของสูงลิบแค่ราคาข้าวสารก็ปาไปไม่รู้กี่บาท ข้าวทำมาจากทองรึไงวะถามจริงไหนจะมะนาว ผักชีอีกมันจะแพงไปไหนแต่ไม่เป็นไรเรามีมาม่า ฮาๆๆ

วาแต่ไฟพวกนี้มันจะติดๆ ดับๆ อยู่อย่างนี้ตลอดเลยรึไงนี่ถ้ามีคนสวมเป็นผีมายืนตรงแถวๆ เสาไฟนะแม่เจ้าไม่ต้องบอกก็รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

ร่างบางที่เดินอยู่เพียงคนเดียวกับถนนทั้งสายนี้มือบางที่กำลังหอบข้างของมากมายประนึ่งคนที่ออกกำลังกายมาเป็นอย่างดี ร่างบางที่เดินไปไม่นานก็พบว่ามีอะไรบ้างอย่างอยู่ตรงหน้าเธอไม่ไกลมากนักมันเป็นลำแสงสีฟ้าใสเหมือนแสงของหลอดไฟนีออนลอยอยู่กลางอากาศขัดกับแรงโน้มถ่วงของโลกเป็นอย่างมาก ทำเอาร่างบางที่กำลังเดินกลับบ้านไปเพียงลำพังต้องหยุดชะงักลงเพราะเจ้าสิ่งแปลกตาที่เหมือน CG ที่คนชอบเอามาเล่นกันตามในหนัง

“ไอเจ้านี้มันคือ…อะไรหรือว่ามีใครมาแกล้งโชว์มายากลอะไรแถวนี้หรือเปล่า” ใครมันจะมาแกล้งอะไรตอนนี้ นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้วจะมาโชว์มายากลหรือมาทำบ้าบออะไรก็ควรจะเลือกเวลาบ้างสิ ช่างมันเราเดินต่อดีกว่าแค่ทำเป็นมองไม่เห็นเราทำเก่งจะตายไป

วาน่าที่ขมวดคิ้วด้วยความสงสัยจนคิ้วผูกกันเป็นปมแต่เจ้าตัวกลับไม่คิดอะไรมากเพราะมันมีให้เห็นตามอินเทอร์เน็ตได้ทั่วไปทำให้ร่างบางของสาววัย 17 ปี ที่ไร้ซึ่งญาติสนิทมิตรสหายเลือกที่จะเดินไปอีกทางเพื่อหลีกทางให้เจ้าลำแสงที่เป็นวงกลมและดูเหมือนว่ามันจะขยายขึ้นมากกว่าเก่าด้วยให้มันอยู่ที่เดิมไป

แต่แทนที่เธอจะได้เดินอ้อมเจ้าลำแสงนั้นไปมันกลับกลายเป็นขยายใหญ่กว่าเดิมเพียงไม่กี่เสี่ยววินาทีก่อนที่มันจะดูดร่างของสาวเจ้าที่เดินผ่านไปเข้าไปในนั้น ความรู้สึกที่เหมือนกับลมแรงหรือลมดูดอะไรสักอย่างดูดมาที่ร่างของหญิงสาวทำให้เจ้าตัวถูกดูดเข้าไปในแสงนั้นโดยไม่รู้ตัว เมื่อเธอมารู้ตัวอีกทีภายในไม่กี่วินาทีเท่านั้นแผ่นหลังอันงดงามของเธอที่ดูแลมาอย่างดีก็อยู่ในลำแสงนั่นเรียบร้อยแล้ว

วูบ…

“อ้ากกก อะไรมันเกิดอะไรขึ้นไม่! ไม่! ไม่! อาหารของกินของฉาน…อย่าลอยไปสิมันแพงนะ อ้ากกกก”

ใบหน้าของเธอที่ตกใจเป็นอย่างมากถึงมากที่สุดสมองของเธอกำลังเรียบเรียงว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับตัวของเธอในตอนนี้ ริมฝีปากเล็กที่ไวกว่าสมองและความคิดส่งเสียงกรีดร้องแหกปากเท่าที่จะดังได้ มือไม้คว้าอาหารที่ลอยไปลอยมาอยู่ต่อหน้าเธอไม่ได้มันเละหรือกระจายไปมากกว่านี้ตัวของเธอเหมือนอยู่ที่ไหนสักทีที่มองไปทางไหนก็เห็นแต่ความมืดมิดและแสงดาวอ่อนๆ ไปทั่วบริเวณเหมือนอยู่ในเครื่องเล่น

อ้ากกก พ่อจ้าแม่จ้า หนูไม่อยากตาย ช่วยหนูด้วย แม่จ้า….

ตุบ!

ร่างของเธอตกมาที่พื้นกระเบื้องแข็งแสงไฟจากน้ำมือของสิ่งมีชีวิตที่ไม่ได้แสงจากธรรมชาติสงกระทบเข้ามายังร่างของเธอจนร่างบางที่ตกลงมาที่ไหนสักทีมองไม่เห็นอะไรเลยเนื่องจากปรับสายตาไม่ทัน เสียงที่ดังจากทั่วทุกทีทำให้เธอรู้ว่าที่นี่วุ่นวายมากพอสมควรเลยเสียงวิ่งไปมา เสียงพูดคุยกันเอง เสียงคนทำงานดังเข้ามาในโสนประสาทของเธอจนสามารถรับรู้ได้ว่าที่นี่ได้ใช่ถนนที่เธอพึ่งจะเดินผ่านเพื่อไปยังบ้านพักที่ผู้ให้กำเนิดสร้างขึ้นมาให้อย่างแน่นอนแม้แต่ภาษาที่พูดกันเองเธอยังไม่เข้าใจว่าพวกเขาพูดอะไรกันแน่ในตอนนี้

ผู้คน ณ ตอนนี้ที่กำลังวิ่งกันให้ทั่วไปหมดเนื่องจากเครื่องวาร์ปที่ทำการซ่อมแซมและเสียหายไปได้มีคนหรือมีสิ่งมีชีวิตทะลุออกมาจากเครื่องทำให้ทุกคนในยานลำนั้นและในโซนนั้นต้องพากันแตกตื่นกันไปทั่ว นักวิทยาศาสตร์ที่เป็นคนทำหน้าที่ซ่อมหรือช่างซ่อมเครื่องประจำยานที่มีความคิดอยากจะซ่อมและพัฒนาเจ้าเครื่องนี้แต่ไม่รู้ว่ากดหรือปรับไปโดนตัวอะไรหรือแม้แต่ระบบสุริยะของที่นี่ส่งผลกับเครื่องหรือไม่ทำให้นำพาสิ่งมีชีวิตอย่างอื่นหรือใครหลุดเข้ามาในยานได้แบบนี้

อะไรคนพวกนี้มันอะไรกันแล้วนั้นตัวอะไรทำไมปลาถึงสวมเสื้อผ้าแล้วคนพวกนี้เป็นใคร เราอยู่ที่นี่แล้วมันเกิดอะไรขึ้น!

วาน่าที่ตอนนี้มองไปรอบๆ ด้วยสายตาที่หวาดระแวงแบบขีดสุดกับสิ่งรอบตัวแม้แต่อาหารที่ลงทุนไปแย่งซื้อมาได้ก็กระจัดกระจายไปทั่วพื้นและร่างของเธอเหมือนว่าพวกมันไม่อยากจากเธอไปไหนอย่างไรอย่างนั้นทั้งนม แป้ง ไข่ไก่ และอื่นๆ อีกมากมายที่เธอไปซื้อมาเสียชุดใหญ่ตอนนี้กลับสร้างผลงานสุดตระการตาเป็นที่น่าจดจำและเป็นหน้าที่ของแม่บ้านที่จะต้องทำความสะอาดให้เหมือนเดิม

สงสารแม่บ้านจังของกินเรา เงินเราหายไปหมดแล้วอ้ากกก ฝัน ต้องฝันแน่ๆ เราอยู่ในความฝันสินะ

ท่องไว้ว่ามันไม่ใช่เรื่องจริงไม่มีปลาสวมเสื้อผ้า ไม่มีคนตัวสีฟ้าเหมือนในหนังฮีโร่ ไม่มีคนมีเขาเหมือนปีศาจตาโตเป็นไข่หาน ไม่มี!! ไม่มีทาง!!!

ลาก่อนนะอาหาร ลาก่อนนะขนมปัง ลาก่อนน้องไก่น้อยที่อุสาซื้อมา ทำไมมันต้องเป็นแบบนี้ด้วย เพราะไอเจ้าแสงฟ้าๆ นั่นมันเป็นคนมันเป็นคนทำให้เราต้องมาเจอเรื่องแบบนี้!! แค้นนัก

“#*#@p+=_*-%7{‘?*&%”

(-_-?) หน้าวาน่า

เจ้าพวกนั้นพูดอะไรกันนะ ภาษาต่างประเภทหรือเปล่านะ ว่าแต่มองมาทางเราทำไมกันอย่าเข้ามานะโว๊ย!! ถึงจะตัวแค่นี้แต่สู้เป็นนะ

สายตาของแต่ละคนที่มองมาทางเธอด้วยความตกใจปนความไม่เข้าใจและประมวลผลไม่ทันทำให้ในตอนนี้คนที่น่าจะเป็นดาวเด่นมากที่สุดคงจะหนีไม่พ้นสาวร่างเล็กที่ดูยังไงก็ไม่น่าจะถึง 20 ปี เลยก็ว่าได้ สีหน้าของทุกคน ณ ตอนนั้นและบริเวณนั้นที่กำลังตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อสมองกลับมาทำงานแล้วหนึ่งในกลุ่มคนที่กำลังยืนมองเธอเหมือนเจอสัตว์ประหลาดแปลกตาก็เดินเข้ามาพูดอะไรบางอย่างกับเธอ ซึ่งคนที่เดินเข้ามาพูดกับเธอจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากผู้ชาย (น่าจะ) มีตาสี่ตาผิวสีเขียวแก่เดินเข้ามาช่วยวาน่าที่นั่งกองอยู่ที่พื้น

หลังจากที่เธอลุกขึ้นมาจากพื้นแข็งได้แล้วก็มีชายอีกคนเดินเข้ามาพูดอะไรบางอย่างกับผู้ชายผิวสีเขียวแล้วหันมามองหน้าเธออีกครั้งก่อนที่จะยิ้มให้อย่างคนมีมารยาทรูปร่างของเขาเหมือนคนปกติธรรมดาทั่วไป ต่างกันแค่ว่ามีดวงตาสีแดงสดซึ่งแน่นอนว่ามนุษย์ปกติไม่มีทางที่จะมีสีดวงตาแบบนี้ได้ ผมของอีกฝ่ายยาวไปถึงกลางหลังใบหน้าเข้ารูปกันแบบฉบับหน้าตาฟ้าประทานมาให้ จมูกโด่งได้รูป ผิวกายสีเนื้อไข่น่าสัมผัส

เสื้อผ้าของอีกฝ่ายต่างจากคนอื่นที่อยู่บริเวณนั้นเหมือนเสื้อผ้าเป็นเครื่องยืนยันตำแหน่งของคนที่นี่ บวกกับท่าทีของทุกคนที่ให้ความเคารพผู้ชายตรงหน้าเป็นอย่างมาก ทำให้เธอรู้สึกได้ว่าคนนี้น่าจะมียศมากกว่าคนอื่นๆ

“5={“?>0@$%*#@%” อีกฝ่ายมองมาที่วาน่าพร้อมพูดอะไรบางอย่างทำให้อีกฝ่ายทำได้แค่เอียงคอมองและใช้สมองของตัวเองจินตนาการเท่านั้นว่าผู้ชายตรงหน้าพูดว่าอะไร

เขาพูดอะไร เราก็ไม่ได้เก่งภาษาด้วยสิเขาคงถามว่าเราเป็นยังไงบ้างหรือเปล่า พยักหน้าไปก่อนล่ะกันนะ

สถานที่ที่เธออยู่เป็นเหมือนบ้านหรือศูนย์อะไรสักอย่างเพราะมีแต่คนสวมเครื่องแบบเหมือนกันเต็มไปหมด ทางเดินเป็นทางโค้งไปมาเหมือนอยู่ห้างที่มีพื้นที่จำกัดอย่างไรอย่างนั้น ผู้คนมากมายที่มีหน้าตาและสีผิวรวมถึงน่าจะไม่ใช่มนุษย์เดินไปเดินมากันเต็มไปหมดเหมือนเป็นเรื่องปกติของคนที่นี่กัน เมื่อมองนอกหน้าต่างก็จะเห็นเป็นอวกาศที่มืดมิดและมีดาวเคราะห์อะไรไม่รู้เต็มไปหมดยังไม่รวมถึงยานอากาศที่ลอยไปมา

มันต้องเป็นภาพ 3D แน่ๆ เลย ล้ำยุคสุดๆ เลยว่าแต่สุดหล่อคนนี้จะพาเราไปที่ไหน เราเดินตามมานานแล้วนะไหนจะคนอื่นที่มองเราเหมือนเป็นมนุษย์ต่างดาวอีก ไม่เคยเห็นวัยรุ่นหรือไงกันก็นะเขาว่ากันว่าเด็กสาวคหกรรมมักจะน่ารัก

ใช่หรือเปล่านะ แต่มันคงจะไม่ใช่เรื่องจริงเพราะถ้าเราน่ารักจริงเราคงไม่โสดมาถึงตอนนี้หรอก

อีกฝ่ายที่เดินนำหน้าเธอมาพาเธอมาที่ไหนสักแห่งที่อยู่ลึกมากและไม่มีคนเดินไปมาเหมือนพวกมันเป็นที่เฉพาะสำหรับหัวหน้าหรือเจ้าหน้าที่เท่านั้น อีกฝ่ายพูดอะไรบางอย่างด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจส่งมาทางเธอก่อนที่จะใช้บัตรสแกนไปที่ประตูที่ไม่มีกลอนล็อค

“$_)%*(^&@@%&#%9{“>”

เขาน่าจะบอกให้เราเข้าไปในนี้แน่เลย นี้คงจะเป็นห้องเราสินะ “ขอบใจนะ”(v)

ทางฝั่งของคนทั้งลำยานที่ตอนนี้ไม่ต่างจากมรสุมที่ทุกคนต่างยุ่งมากเพราะเรื่องของใครบางคนที่แปลกหน้าและไม่รู้ที่มาปรากฏอยู่ในยานของพวกเขา ยานสหพันธ์เป็นยานที่มีอยู่ทั่วกาแล็กซี่มีหน้าที่คอยดูแลความเรียบร้อยของกาแล็กซี่ทั้งหมดนี้

“นางมาจากที่ไหน รูปร่างเหมือนมนุษย์มากแต่ไม่มีประวัติหาข้อมูลของนางมา”

เจ้าหน้าที่ที่รองเอาใบหน้าของหญิงสาวที่โผล่มาในยานของพวกเขาแต่พอหาประวัติกลับหาไม่เจอเลยแม้แต่ชื่อก็ไม่มีเหมือนกับว่าเธอเป็นคนจากที่อื่นที่ไม่ใช่คนที่นี่ทำให้ไม่มีชื่ออยู่ในทะเบียนรายชื่อนั่นทำให้พวกเขาที่เป็นฝ่ายข้อมูลต้องทำงานกันหนักกว่าเดิมเพื่อที่จะสืบประวัติของสาวเจ้าตัวที่ปรากฏบนยานของสหพันธ์

ปกติแล้วเครื่องวาร์ปจะทำหน้าที่วาร์ปสิ่งมีชีวิตจากที่หนึ่งไปยังอีกทีหนึ่ง แต่การวาร์ปจะอยู่ได้แค่รัศมีที่กำหนดเท่านั้น มันคอยส่งคนจากยานลำหนึ่งไปยังอีกลำหนึ่งแต่เพราะมันเกิดเสียขึ้นมาจากการไปดาวเคราะห์ดวงอื่นมาหลังจากที่กลับมาพลังงานของดาวดวงนั้นอาจจะไปทำให้เครื่องวาร์ปเสียได้ซึ่งข้อนี้น่าจะทำให้สาวไร้ที่มาได้มาอยู่บนยานของสหพันธ์ได้อย่างง่ายดาย

“ติดต่อศูนย์ใหญ่ว่ายานของเราได้ตัวของคนจากกาแล็กซี่ทางช้างเผือก ผมจะคุยกับท่านเอง”

“ครับท่าน”

ประชุม

หลังจากที่เครื่องวาร์ปเสียไปในครั้งแรกที่เธอมาถูกพามาที่นี่เครื่องมันก็พังไปแล้วเรียบร้อย หลังจากนั้นเธอจึงรู้ว่าที่นี่คือที่อื่นหรือให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือมันคือกาแล็กซี่อื่นเมื่อเธอรู้สาเหตุว่าเจ้าเครื่องนี่เป็นเครื่องวาร์ปที่เกิดอาการขัดข้องเล็กน้อยมันเลยพาเธอมาอยู่ในที่แปลกแต่แบบนี้หลังจากนั้นมันก็พังไปเลย “นางเป็นใครรู้หรือเปล่าฉันจะได้ส่งเรื่องไปได้ถูกว่าต้องพาส่งกลับไปดาวไหน”

“หาประวัติไม่มี ตรวจสอบหน้าตาแล้วก็ไม่พบถิ่นที่อยู่ดาวเกิดหรือสายพันธุ์ครับ” หลังจากที่กัปตันพาสาวปริศนาที่อายุไม่น่าจะเกิด 15 เสียด้วยซ้ำพาไปพักในห้องพักรับรองชายใบหน้าคมคายที่มีแต่รอยยิ้มพิมพ์ใจต่างจากก่อนหน้านี้ที่บหน้าเต็มไปด้วยความตึงเครียด

กาแล็กซี่นี้มีดาวเคราะห์อยู่ประมาณ 92,580 ดวงเป็นกาแล็กซี่ที่ดาวเคราะห์ทุกดวงมีสิ่งมีชีวิตหมดไม่ว่าจสายพันธ์ไหนก็ตาม โดยภาษาและหน้าตาจะมีต่างกันออกไปตามสายพันธ์และดาวเคราะห์ซึ่งดาวทุกดวงสามารถสื่อสารและไปมาหาสู่กันได้ตามปกติ ซึ่งเมื่อมีการติดต่อกันและไปหามาสู่กันจนเหมือนว่าอยู่ใกล้ๆ ทำให้ทางสหพันธ์ตั้งให้มีภาษากลางเพื่อที่จะติดต่อกันได้ง่ายๆ อีกทั้งเทคโนโลยียังก้าวไปไกลทำให้มีเครื่องแปลภาษาออกมาเพื่อความสะดวกมากยิ่งขึ้น

“รายชื่อของนางหาไม่พบเป็นไปได้อย่างเดียวคือมาจากกาแล็กซี่อื่น”

“ผมหาเจอแล้วครับ แต่สายพันธ์ที่เราได้ตรวจมาเป็นว่านางมาจากกาแล็กซี่อื่น DNA ของนางพบที่นั่นครับ”

หลังจากที่ติดอยู่ที่นี่มาเป็นเวลา 2 วัน ทำให้เธอได้รับรู้เรื่องหนึ่งคืออาหารของที่นี่เป็นอาหารแปรรูบหรือไม่ก็เป็นอาหารสำเร็จไปเลย อีกทั้งรสชาติยังแย่มาก ไม่รู้ว่าคนพวกนี้จะกักเธอไว้อีกนานแค่ไหนและตอนนี้เธอสามารถเรียนรู้ภาษาของที่นี่ได้แล้วแม้จะนิดหน่อยก็ตามที

คนพวกนี้ส่วนใหญ่จะทำงานและเธอก็เสียเวลาไปกับการหาของกินที่ถูกใจสองวันที่ผ่านมาพวกเขาเริ่มที่จะสื่อสารกับเธอผ่านทางจอข้อความเพราะเราคุยกันผ่านเครื่องแปลภาษาที่มันแปลได้ไม่ดีเท่าไรนักเพราะมันไม่มีภาษาไทยหรือภาษาของเธอเลย

เธอใช้เวลาไปกับการศึกษาเรื่องพวกนี้ถึงแม้จะมีพืชและผักแต่ไม่ค่อยมีอาหารที่ทำเองโดยส่วนใหญ่จะเป็นอาหารสำเร็จรูปที่ถูกจัดมาแล้ว หรือที่โรงงานผลิตมาแล้วเพราะคนที่นี่เมื่อโลกเจริญเติบโตมากขึ้นก็ลืมเรื่องสิ่งจำเป็นไปด้วยความที่ว่าสมัยก่อนเคยมีสงครามเกิดขึ้นทำให้อาหารเป็นสิ่งที่ยากที่สุดที่จะทำได้

เธอต้องมาเสียเวลาศึกษาทั้งหมดเพื่อที่จะเรียนรู้ให้ได้มากที่สุดเพราะมันต้องใช้ตลอดทั้งชีวิตต่อจากนี้มันจึงทำให้เราต้องเรียนรู้อะไร อะไรอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นพืช ผัก อาหารและภาษาอีกส่วนคนอื่นก็มีหน้าที่คอยดูแลและหาเครื่องแปลภาษาให้เธอก่อนเพราะอย่างนั้นพวกเขาจึงต้องเริ่มจากการศึกษาคำพูดและภาษาของเธอก่อน ในตอนแรกเราก็เสียใจนะที่ไม่ได้กลับบ้านแต่พอมาคิดดูอีกทีมันคงจะเป็นเรื่องของโชคชะตามากกว่าแม้ความฝันของเราคือการเปิดร้านอาหารเล็กๆ อยู่ตามธรรมชาติก็ตาม

เมื่อได้ข้อตกลงจากทางสหพันธ์มาแล้วในเรื่องของการรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดกับคนแปลกหน้าที่หลุดเข้ามาในกาแล็กซี่ของพวกเขา ด้วยเหตุนั้นทำให้การรับผิดชอบจึงมาแทนที่ด้วยการดูแลเรื่องการเงิน ที่อยู่และอื่นๆ อีกมากมาย เพราะอย่างนั้นเธอจึงได้รับเงินเดือนทุกๆ เดือนเพื่อใช้กินอยู่ในชีวิตประจำวันต่อๆ ไป

คนพวกนั้นคงสงสารเธอที่พากลับบ้านไม่ได้จึงให้ของอย่างอื่นเป็นการตอบแทนก็ถือว่าดีที่พวกเขายังรับผิดชอบ

“หนู จะได้ไปอยู่ที่ไหนเหรอ”

วาน่าที่กำลังนั่งอยู่กลางห้องประชุมขนาดใหญ่ในลำยานที่เธอวาร์ปมาและมานั่งอยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ทั้งหลายพร้อมกับผู้ใหญ่หลายสายพันธุ์ที่มีแต่คนระดับใหญ่ๆ เรื่องของผู้หญิงแปลกหน้าที่ไม่รู้ที่มากลายเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับคนที่นี่ทำให้ไม่ว่าจะไปที่ไหนข่าวของเธอก็จะการะจายไปทั่วทุกดวงดาวเพื่อเป็นการแจ้งให้ทราบ

วาน่านั่งเงียบๆ มาเกือบชั่วโมงแม้เราจะไม่ค่อยจะรู้เรื่องเท่าไรแต่พวกเขาน่าจะเคลียดกันนะ ยังไงเราก็พยักหน้าเอาไว้ก่อนก็แล้วกัน วาน่าหันไปทางคนดูแลของเธอซึ่งเขาทำหน้าที่พูดและแปลภาษาในสิ่งที่คนอื่นไม่รู้เรื่องหรือฟังไม่เข้าใจ เขาเป็นผู้ชายอายุน่าจะประมาณ 40 ปีที่ยังหนุ่มและดูเด็กมากคนหนึ่ง ถ้าไม่รู้อายุเธอคงจะคิดว่าเขาอายุ 20 ปี ตัวสีฟ้านวลแบบฟ้าแต่ไม่ฟ้าเกินไป ออกไปทางพาสเทลผมสีขาวสวยตาสีน้ำตาลเข้มให้แปลให้เธอฟังเพราะเธอฟังไม่ทัน

ทำไมคนพวกนี้ไม่พูดให้ช้ากว่านี้หน่อยนะ พูดหรือแร็ปว่ะเก่งเวอร์

“พวก ท ท่านบอกว่าจะส่งเธอไปดาว B เป็นดาวที่อยู่ใกล้ที่สุดเพราะไม่ว่าจะเป็นดาวดวงไหนทุกคนก็จะอยู่ด้วยกัน”

“(._.)”

“หมายถึง ทั้งกาแล็กซี่นี่ไม่ได้อยู่ตามถิ่นกำเนิดของตัวเองนะ เพราะอย่างนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องของเธอนะเข้าใจไหม”

“ออ”

“เจ้าหนู ฉันพูดถูกไหม” ชายแก่ที่นั่งอยู่ทางฝั่งซ้ายใช้มือเท้าโต๊ะเพื่อที่จะยื่นหน้าเข้ามาหาร่างบางเพื่อดูหน้าให้ชัดเจนเพราะเขานั่งห่างจากเธอไปประมาณ 4 ที่นั่งได้ เมื่อเขาได้รับสัญญาณว่าพูดได้ทำให้หน้าที่นั้นกลายเป็นหน้าที่ของคนแปลภาษาที่ทำหน้าที่พูดกับเธออีกที

“(*v*)” หน้าวาน่า

“เธออายุเท่ากันแน่ ทำไมหน้าตาดูเด็กกว่าที่คิดเอาไว้อีก ฉันอ่านประวัติดาวมาแล้วพวกเขาจะมีผมหลายสีแล้วจะมีตาสีฟ้าหรือไม่ก็น้ำตาลอ่อน แล้วที่ว่าเธอเรียนเกี่ยวกับค ค คะ อะไรนะ คหกรรมใช่ไหมมันคืออะไร” พอคนหนึ่งเริ่มพูดคนอื่นก็หันมาถามทำให้วาน่าได้รู้ว่าพวกเขาคงจะอ่านประวัติของคนต่างชาติมาทำให้ไม่ได้สนใจสาวเอเชียอย่างเธอ

นี้คนเอเชียถูกเมินขนาดนั้นเลยเหรอ อย่างรู้จังว่าในประวัติมีอะไรบ้าง(-_-!)

“หนูอายุ 17 ปี เป็นคนเอเชียมาจากประเทศที่เรียกว่าไทย คนเอเชียส่วนใหญ่จะมีรูปร่างหน้าตาแบบนี้นะเป็นเรื่องปกติ ส่วนเรื่องการเรียนพอดีหนูเรียนคหกรรมเป็นวิชาเกี่ยวกับการทำอาหารนะ”

“%%#@*_)$&#@($^#&($)”

“$_@)^$@(”

“$@&!%”

“(&#@^$”

เสียงพูดคุยของคนในที่ประชุมดังไม่หยุดเมื่อได้ยินสิ่งที่คนสนิทแปลให้ฟังก็มีท่าทีตกเหมือนคนไม่เคยรู้จักวิชาหรือคณะนี้มาก่อน ทำเอาเจ้าของร่างบางตกจทันทีที่ได้เห็นปฏิกิริยาของคนพวกนี้ทุกคนที่กำลังนั่งอยู่เลย

เกิดอะไรขึ้น? พวกเขาไม่รู้จักคหกรรมหรือไงแปลกคน ก็นะขนาดอาหารของที่นี่ยังแย่มากขนาดนี้ไม่แปลกหรอกที่จะไม่รู้จัก

โลกที่การทำอาหารเป็นเรื่องที่ไม่มีคนมีความรู้เลยก็ไม่แปลกที่จะตกใจ แม้จะมีวัตถุดิบมากมายแต่ไม่มีใครทำเป็นของพวกนั้นจึงเหมือนของไร้ประโยชน์ ส่วนวัตถุดิบของที่นี่ที่นำมาวางขายก็จะนำไปแปลรูปเป็นอาหารอีกทีแล้วแต่ความชอบทำให้ร้านอาหารที่สร้างวัตถุดิบขึ้นมาเพื่อที่จะพัฒนาไม่ได้รับความนิยมมากนัก อาหารที่มีความหลากหลายไม่ว่าจะเป็นอาหารแปลรูปแบบเหลวหรือแบบสำเร็จรูปที่มีหน้าตาเหมือนอาหารปกติเลยก็สามารถหาพบได้ง่ายแม้แต่อาหารที่ปรุงสุกขึ้นมาก็ใช่ว่าไม่มีเลยต่างกันเพียงแค่ราคาที่สูงกว่าอาหารอื่นๆ

เห็นค่าเงินของที่นี่แล้วมองไปที่ราคานี้คือ เอาเงินไปซื้อที่มาสร้างบ้านได้เลย ค่าเงินสูงมาก…มากจนคนเห็นค่าเงินอย่างเรายังตกใจแต่ไม่ต้องห่วงเรื่องพวกนั้นเพราะเราจะไม่ได้ทำงานให้เหนื่อย พวกสหพันธ์คงจะมีเงินเหลือใช้นั่นแหละนะ

“เดี๋ยวนะ เธอพูดว่าเธอเรียนทำอาหารเหรอ”

“ใช่ หนูเรียนด้านนี้มีอะไรหรือเปล่า”

“เธอ ทาม อาหารได้” ชายหนึ่งในคนที่นั่งอยู่ในห้องประชุมพูดผิดพูดถูก (0_0)( )(0_0)

สีหน้าของทุกคนที่ตกใจเรื่องนี้เป็นอย่างมากเหมือนกับว่ามันเป็นเรื่องที่น่าตกใจและควรค่าแก่การยินดีพอสมควรเมื่อสีหน้าของแต่ละคนหันไปพูดคุยกันเองเป็นภาษาบ้านเกิดของตน ทำให้ร่างบางที่มานั่งอยู่ในห้องประชุมเหมือนเป็นคนต่างด้าวที่ไม่รู้ภาษาอะไรเลยนอกจากภาษาบ้านเกิดกับภาษากลางของที่นี่ที่พูดได้ไม่กี่คำเท่านั้น

หลังจากที่ทุกอย่างจบลงหน้าที่ต่อไปของคนที่ได้รับมอบหมายนั่นก็คือพาเธอไปส่งยังที่หมายที่ต่อจากนี้จะเป็นบ้านพักของเจ้าตัวต่อไปและตลอดกาล พวกเขาให้เวลาเธอไปเก็บข้าวของต่างๆ ก่อนที่จะมีคนมารับเธอแล้วพาไปยังบ้านแสนน่าอยู่ต่อไป

บ้านใหม่

หลังจากที่ประชุมกันเสร็จแล้วและมอบหมายหน้าที่กันเรียบร้อยก็ได้เลามานั่งยานอวกาศขนาดเล็กที่นั่งกันได้โดยประมาณ 3-5 คนด้านในมีแต่อุปกรณ์มากมายเต็มไปหมดแต่ไม่มากเท่าเครื่องบินที่บ้านเรา ตัวยานมีหน้าต่างเหมือนอยู่ในรถเมร์หรือเครื่องบินทำให้สามารถมองวิวของอวกาศอันกว้างใหญ่ได้อย่างชัดเจน

วาน่ามองไปด้านนอกที่ไม่ได้มีแค่ความมืดมิดเท่านั้นแต่มันกลับกลายเป็นว่ามียานหลายลำบินขับผ่านไปผ่านมาเหมือนอยู่บนท้องถนน ยานลำใหญ่ที่น่าจะเป็นยานขนส่งเหมือนรถประจำทางขับผ่านหน้ายานที่เธอนั่งอยู่ไป มันค่อนข้างแปลกใจเพราะเธอก็ไม่คิดว่าจะมีคนหรืออะไรทำอย่างนี้ได้การเดินทางไปดาวนั้นไปดาวนี้เหมือนมันเป็นเรื่องปกติทำให้เธอแปลกใจ

ใช้เวลาเพียงไม่นานเจ้าหน้าที่ของสหพันธ์ก็พาเธอมาส่งยังบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ในยานการค้าและยานที่น่าจะมีบ้านและที่ดินราคาแพงเพราะมันสภาพแวดล้อมและบ้านหลังน้อยใหญ่เต็มไปหมดผู้คนเดินไปมากันจับจ่ายใช้สอยกันมีห้างอยู่ใกล้ๆ และยานการค้าดีๆ เต็มไปหมด บ้านพักที่มีทั้งตั้งอยู่ที่พื้นและลอยอยู่บนฟ้ามันเป็นเหมือนโดมหรือเครื่องบินแต่ไม่มีปีกและไม่ได้หลังใหญ่เหมือนบ้านเป็นเหมือนคอนโดลอยฟ้ามากกว่า หนึ่งหลังก็อาจจะอยู่ครอบครัวหนึ่งหรืออาจจะอยู่คนเดียวก็ได้

ประหยัดพื้นที่ดีจังเลย ว่าแต่เราจะได้ที่พักที่ไหนนะแบบลอยฟ้าก็น่าอยู่เหมือนกันนะแต่มันเสียวไปถ้าเดินพลาดเราตกมาตายทำไง

คนของสหพันธ์ที่มากันไม่กี่คนได้รับหน้าที่พาผู้หญิงคนนี้ไปยังบ้านหลังใหม่ที่ทางสหพันธ์ใช้เงินซื้อให้เพราะต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น ทั้งเรื่องที่พักเงินทั้งหลายและประวัติที่ต้องสร้างขึ้นมาใหม่แน่นอนว่าเรื่องนี้เป็นข่าวด้วยและเป็นข่าวใหญ่มากพอสมควรแต่อีกฝ่ายไม่รู้เรื่องนี้ว่าตัวเองได้เป็นข่าวใหญ่ระดับกาแล็กซี่ที่ทุกคนต่างให้ความสนใจเป็นอย่างมาก

ปกติแล้วกาแล็กซี่อื่นอย่างกาแล็กซี่ทางช้างเผือกมีสิ่งมีชีวิตน้อยมากที่จะดำรงอยู่และการดำรงอยู่ของพวกเขาในเรื่องเทคโนโลยีก็ล้าสมัยเกินไปแม้คนพวกนั้นคิดว่าตนเองล้ำสมัยก็ตาม ขนาดส่งยานอวกาศมายังอยู่ได้ไม่นานก็ต้องกลับเพราะไม่สามารถอยู่ในอวกาศได้นานและไม่สามารถเดินทางไปได้ไกล เพราะอย่างนั้นจึงไม่เคยรู้เรื่องการมีอยู่ของพวกเขาก็ไม่ใช่เรื่องที่จะแปลกใจอะไรมากนัก

อีกฝ่ายมองวาน่าที่ตนกำลังพาไปส่งที่มีสีหน้าเปล่งประกายตามประสาคนไม่เคยเห็นราวกับเด็กน้อยที่พึ่งจะได้มาเที่ยวสวนสนุกครั้งแรก เขาและเพื่อนพาอีกฝ่ายขับไปยังที่หมายที่อยู่ไม่ไกลจากยานการค้าที่คึกคักนี้ด้วยความที่ทางสหพันธ์ไม่ได้จนเกินไปออกจะร่ำรวยเสียด้วยซ้ำเพราะอย่างนั้นมันจึงเป็นเรื่องปกติกับแค่การดูแลและรับผิดชอบมนาย์คนหนึ่ง มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย

“ที่นี่แหละบ้านพักของวาน่า ชอบหรือเปล่า”

“ว้าว มันเออ ดูดีมากเลย”

“กัปตันเห็นว่าเธออยู่คนเดียวเลยซึ่งหลังนี้ให้มันน่าจะสะดวกและน่าอยู่กว่า” ร่างบางมองบ้านตรงหน้าของเธอมันเป็นบ้านที่ภายนอกปกติธรรมดาไม่ได้มีอะไรโดดเด่นมากเกินไปต้องขอบคุณคุณกัปตันคงจะศึกษาเรื่องของเธอมาเป็นอย่างดีเลย บ้านหลังนี้เป็นบ้านสองชั้นออกแนวมินิมอลชั้นที่สองมีเหมือนลานจอดยาน

ด้านหลังกับด้านหน้ามีหญ้าขึ้นพร้อมที่จะปลูกต้นไม้ตามที่เธอชอบและเป็นบ้านไม่กี่หลังที่มีต้นไม้ปลูกเพราะบ้านส่วนใหญ่แถวนี้จะมีแต่ลานจอดยานหรือไม่ก็ปูนไปเลยอาจมีกระเบื้องอยู่ในบางหลังบ้านทั้งหลังมีโทนสีน้ำเงิน-ขาว ออกแนวเนคโนโลยีเมื่อเปิดประตูเข้าไปจะเห็นเป็นห้องรับแขกถัดมาเป็นห้องนั่งเล่นมีชั้นหนังสือและตู้เก็บของ ด้านซ้ายถัดจากห้องรับแขกจะมีห้องครัวที่ค่อนข้างใหญ่ไม่มีประตูเป็นชั้นวางติดกับพื้นเลยมีอุปกรณ์ครบพร้อมทำ

“ขาดเหลืออะไรสามารถแจ้งทางสหพันธุ์ได้ตลอดเลยนะครับ”

“ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายทางสหพันธ์ได้ทำการโอนเข้าบัญชีของคุณวาน่าแล้วเรียบร้อยนี้เป็นบัญชีธนาคารและเอกสารอื่นๆ อีกมากมายส่วนนี้เป็นกำไลเอาไว้ใช้จ่ายและยังเป็นเครื่องยืนยันเหมือนบัตรประจำตัวด้วยมีสลักชื่อจริงของคุณด้วยไม่ต้องกลัวว่ามันจะหายนะครับ มันเก็บDNA ไว้ไม่มีใครเอาไปได้แน่นอน”

“ว้าว…สุดยอดเลย” (*0*)

“ที่นี่มีเทคโนโลยีครบพร้อมใช้งานทันที สัญญาณอื่นๆ ก็พร้อมอาจจะคึกคักเกินไปหน่อยเพราะเป็นย้ายที่ค่อนข้างจะมีราคาและเป็นจุดศูนย์รวม ทางเราจะส่งหุ่นยนต์พี่เลี้ยงมาให้นะครับ ส่วนนี้เป็นมือถือเชื่อมต่อกับทั้งกาแล็กซี่สามารถติดต่อหรือดูได้ทุกช่องได้สบายๆ เลยครับ” ทั้งสามคนพูดจบและเมื่อแจ้งรายละเอียดอื่นๆ เสร็จก็ลาจากเธอไป

เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายรวมถึงอย่างอื่นที่เธอต้องการถูกทางสหพันธ์เตรียมและส่งมาให้จัดเก็บแบบเรียบร้อยแล้ว วาน่ามองไปรอบๆ ด้านนอกบ้านของเธอมีถนนผ่านไปมาและผู้คนคึกคักมากเพราะเป็นเหมือนนครหลังหรือเป็นศูนย์กลางคล้ายๆ สยาม จัตุจัก กรุงเทพ หัวลำโพงอะไรพวกนี้มีห้างและมีตลาดขนาดใหญ่อีกทั้งยังมีท่าขนส่งอยู่มากมายพูดง่ายๆ คือเธอมาอยู่ในบ้านและที่ดินที่น่าจะแพงและสูงลิบจนชาตินี้ไม่น่าจะหาได้จากที่ไหน

บ้านมีแต่เทคโนโลยีเต็มไปมดเลยขนาดประตูบ้านยังมีรหัสกับสั่งการด้วยเสียงเลยอยากรู้จังว่าถ้าไฟฟ้าดับจะเป็นยังไง ไม่ตายกันหมดทั้งกาแล็กซี่เลยเรอะ

กว่าจะได้ออกมาต้องไปตรวจร่างกายทำประวัติตัวเองไหนจะต้องถูกกักตัวอีกเพราะเป็นข่าวทางสหพันธ์นี่ก็โปร่งใสเกิ๊น…ไม่น่าละถึงไม่มีโจรหรือคนคิดร้ายเลยไม่แปลกหรอกก็เล่นเอาทั้งกาแล็กซี่ให้มามัดรวมกันเป็นก้อนได้ขนาดนี้คนที่ทำได้ต้องเก่งขนาดไหน คงจะมี IQ 250++ เลยมั่ง

สุดยอด!!! แม่เจ้านี้เรารวยแล้วใช่ไหมเนี่ย เงินขนาดนี้

ร่างบางกดไปที่ปุ่มที่อยู่บริเวณกำไลเธอพอรู้ว่ากาแล็กซี่นี่มีแต่คนที่เจริญแล้วทำให้อะไรๆ หลายๆ อย่างเจริญตามกันไปด้วยอย่างเช่นการเงินและเรื่องอื่นๆ ค่าของเงินที่นี่คือ 1เหรียญเท่ากับ 100 บาทไทย มหาของความแพง แต่เพียงแค่เอานิ้วสัมผัสกับลำแสงที่ขึ้นลอยออกมาเป็นหน้าจอที่มีได้แค่ในหนังซุปเปอร์ฮีโร่เท่านั้นมันหลับมีในชีวิตของเธอและอยู่ต่อหน้าต่อตาเธอเลยด้วย ที่น่าตกใจจนร่างบางอยากจะกรี๊ดใหม่ทุกคนได้รู้ว่าเธอรวยแล้วก็เพราะเธอมีเงินในบัญชีถึง 300,000 บาท และทางสหพันธ์ก็เป็นคนบอกเธอในที่ประชุมว่าเธอจะได้เงินเดือนเทียบเท่ากับกัปตันของสหพันธ์

นี่แค่เทียบเท่านะยังขนาดนี้อยากรู้จังเลยว่ากัปตันได้เท่าไร

เราดังแล้วสินะเนี่ยดูข่าวออกเรื่องของเราด้วยทำอย่างกับเจอมนุษย์ต่างดาวเลยว่าแต่คนพวกนี้ดูไม่ตกใจเรื่องของการมีอยู่ของเราเลยเหมือนรู้อยู่แล้วว่ากาแล็กซี่ทางช้างเผือกมีดาวโลกที่เป็นดาวน้อยๆ สีฟ้าๆ สวยๆมีสิ่งมีชีวิตอยู่

ปกติแล้วถ้ารู้ก็ต้องมีคนอยากจะได้ไปหรือไม่ก็บุกโลกให้เป็นของตัวเองไม่ใช่หรือไง หรือเพราะว่าดาวโลกไม่มีค่าพอให้บุก

คงจะเป็นอย่างหลังก็นะนี้สินะประเทศ(กาแล็กซี่) ที่เจริญแล้วมันเป็นอย่างนี้เองสินะ จะทำอะไรก็ได้ที่อยากทำ จะทำอาชีพอะไรก็ได้ที่อยากเป็นไม่มีขอทาน ไม่มีคนจนมีแต่คนที่มีเงินแบบว่ารู้จักใช้เงิน

อย่างน้อยก็มีบ้านอยู่

30 นาทีต่อมา

‘เออ ท่านคงจะชื่อวาน่าสินะ’ วาน่าที่นั่งๆ นอนๆ ดูTV ของที่นี่ที่มีช่องเป็นแสนๆ ช่องเพราะสามารถดูได้ทั้งกาแล็กซี่เป็นของที่ดีที่สุดเพราะเป็นเครื่องใหม่ล่าสุดที่สามารถดูได้ทั้งกาแล็กซี่แถมยังสามารถดู VDO ที่มีคนกำลังสตรีมสดอยู่ก็ได้ที่สำคัญถ้ามีช่องไหนที่ขายของเราสามารถซื้อและจ่ายผ่าน TV แล้วเรายื่นมือไปหยิบผ่านจอได้เลย

ไม่มีอะไรดีกว่านี้แล้วถ้าไม่ติดตรงที่ว่าเราว่างจนเกินไป

วาน่าที่กำลังนั่งนอนเหมือนคนขี้เกียจเพราะเธอไม่ต้องไปเรียนอีกแล้วและไม่ต้องไปเปิดร้านหรือดูแลร้านอาหารของครอบครัวเพราะไม่ได้อยู่ที่โลกแล้วทำให้ว่างจนไม่มีอะไรทำ แต่อยู่ดีๆ มือถือของเธอก็เกิดกระพริบขึ้นมาก่อนที่มันจะแสดงหน้าจอลายฟ้าแบบใสขึ้นมาให้เห็น โดยรายชื่อที่หน้าจอขึ้นว่าศูนย์ใหญ่สหพันธ์

ทำเอาเธอที่ไม่รู้จักแต่พอได้ยินจากล่ามแปลภาษามาว่าที่นี่เป็นศูนย์ใหญ่เลยเธอก็ตกใจแต่ไม่ทันจะได้ร้องออกมาก็ปรากฏให้เห็นเป็นร่างของใครบางคนที่มีสายพันธ์ที่ต่างจากเธอตัวสีเขียวนวลๆ มีตาสีทองประกายที่เธอจำไม่ได้เพราะอ่านไม่หมดว่าเป็นสายพันธ์อะไรแต่ที่รู้แน่ๆ คือไม่ใช่มนุษย์จุดเด่นของพวกเขาคือมีผิวสีเขียวนวลที่ไม่เขียวจนเกินไปละมีตาสีทองหรืออาจจะมีสีม่วงประกายเหมือนมีหมู่ดาวนับล้านอยู่ในนั้น

สวยจัง

“ค่ะ”

‘ไม่ต้องตื่นเต้นก็ได้ ฉันแค่ได้ข้อมูลจากทางนั่นว่าเธอมาจากดาวโลกแถมยังมีความรู้เกี่ยวกับการทำอาหารอีกและมีอย่างอื่นอีกใช่ไหม’ อีกฝ่ายพูดด้วยสีหน้าเป็นมิตรพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้าสีหน้าเหมือนคนที่ไม่น่ากลัวอะไรออกจะขี้เล่นเสียด้วยซ้ำ เพราะอีกฝ่ายเห็นว่ามนุษย์น้อยกำลังตื่นเต้นจนเก็บอาการไม่อยู่จึงนึกคึกอยากแกล้งขึ้นมาเจ้าตัวเลยเล่นหูเล่นตาสักหน่อย

“( )(--)( _)”

‘เธอรู้จากประวัติของเราแล้วสินะว่าพวกเราจะสนใจหรือลืมเรื่องพวกนี้ไปแล้วถึงจะมีอาหารปรุงสุกอยู่บางแต่มันก็ไม่ถูกปากคนส่วนใหญ่ของที่นี่ก็กินแต่อาหารแปรรูปกันทั้งนั้น ทุกบ้านและทุกครอบครัวจะมีเครื่องแปรรูปอาหาร อีกอย่างคนส่วนใหญ่ก็ลืมเรื่องพวกนี้ไปหมดแล้วฉันเลยอยากจะให้เธอช่วยหน่อย’

“…”

‘ไหนๆ เธอก็ไม่สามารถกลับดาวเกิดของเธอได้อีกต่อไปแล้วและฉันคิดว่าเธอน่าจะเบื่อเลยอยากให้เธอหาอะไรทำเป็นงานที่เธอน่าจะชอบนะ เธอได้ดูการสตรีมหรือยัง’

“ดูแล้วคะ คือท่านจะให้หนูสตรีมเหมือนยูทูปเบอร์อะไรพวกนี้เหรอ”

‘ใช่ๆ รายได้ดีด้วยนะอีกอย่างกาแล็กซี่ของเราก็หลงลืมเรื่องพวกนี้ไปแล้วหลังจากจบสงครามไม่มีใครมีความรู้หรือจำสูตรอาหารอะไรพวกนี้ได้เลยเพราะข้อมูลหายไปหมด อีกอย่างเธอคงไม่อยากกินอาหารแปรรูปพวกนั้นตลอดไปใช่ไหมเพราะตามที่ฉันดูจากคลิปเห็นเธอบ่นตลอดเลยว่าอาหารไม่อร่อยเลยอยากจะสอนคนที่นี่ให้รู้กันคำว่าอาหารที่แท้จริงสักหน่อยอะไรพวกนั้นนะ’

แม่เจ้า! พระเจ้าช่วยเขาดูคลิปของเราตอนอยู่ในห้องพักเรอะ! แปลว่าห้องพักที่เป็นห้องรับแขกที่ให้เรานอนมีกล้องเพื่อส่องการกระทำของเราตลอดแล้วส่งไปให้ศูนย์ใหญ่อย่างนั้นเรอะ!!

แบบนี้ก็ได้ยินที่เราบ่นตลอดหลายวันเลยนะสิ พวกเขาคงจะไม่โกรธเราหรอกนะ ใช่ไหม

อ่านต่อนิยายเรื่องนี้

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0