นามิเบียเตือน! โรคไข้เลือดออกไครเมียน-คองโก CCHF โรคติดต่อร้ายแรงจากเห็บ ทำผู้ป่วยเลือดออกจากตา เสียชีวิต 40%
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงาน นามิเบียได้ประกาศการระบาดของโรคไข้เลือดออกไครเมียน-คองโก (Crimean - Congo hemorrhagic fever: CCHF) หลังจากมีผู้เสียชีวิตด้วยโรคนี้ 1 รายในเมืองหลวงวินด์ฮุก ซึ่งบันทึกการระบาดของโรค 6 ครั้งตั้งแต่ปี 2559 โดยมีผู้เสียชีวิตทั้งหมดรวม 3 ราย
กระทรวงสาธารณสุขระบุในแถลงการณ์ว่า เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ผู้ป่วยชายถูกสงสัยว่าติดเชื้อไวรัสเข้ารับการรักษาครั้งแรกที่คลินิกในเมืองโกบาบิส ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากพรมแดนด้านตะวันออกของนามิเบียกับบอตสวานา ต่อมาผู้ป่วยถูกย้ายไปที่โรงพยาบาลกลางวินด์ฮุก ซึ่งเขาเสียชีวิตในวันที่ 18 พฤษภาคม
ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการยืนยันว่าเขามีอาการของโรคไข้เลือดออกไครเมียน-คองโก ซึ่งเป็นไวรัสที่มีเห็บและสัตว์ที่ติดเชื้อเป็นพาหะ สามารถแพร่เชื้อระหว่างมนุษย์ได้ด้วยการสัมผัสใกล้ชิดกับเลือดหรือของเหลวในร่างกาย มีอัตราการเสียชีวิตระหว่าง 10% - 40%
รัฐบาลได้เปิดใช้งานคณะกรรมการฉุกเฉินด้านสุขภาพเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อเพิ่มเติม และติดตามการติดต่อของผู้เสียชีวิตทั้งหมดอย่างใกล้ชิดในโกบาบิสและวินด์ฮุก จนถึงขณะนี้สามารถระบุผู้ติดต่อได้ 27 ราย ในจำนวนนี้เป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุข 24 ราย
ตามข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า โรคไข้เลือดออกไครเมียน-คองโก (CCHF) เป็นหนึ่งในเก้า "โรคติดต่ออันตราย" ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อสุขภาพของประชาชนที่ใหญ่ที่สุด ทำให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 500 รายในแต่ละปี มีถิ่นกำเนิดในแอฟริกา รวมถึงตะวันออกกลางและเอเชีย พบครั้งแรกในไครเมียในพ.ศ. 2487
โดยอาการโรคไข้เลือดออกไครเมียน-คองโก ได้แก่ มีไข้, ปวดกล้ามเนื้อ, ปวดคอ, เวียนศีรษะ,ตาเจ็บ, ท้องเสีย,หัวใจเต้นชา, ไวต่อแสง และอาเจียน และอาจทำให้อวัยวะล้มเหลวและมีเลือดออกง่ายทั้งในตา ในคอ และในกระเพาะอาหาร ตาขาวเปลี่ยนเป็นสีแดงและมีจุดแดงเริ่มพัฒนาบนผิวหนัง ซึ่งในปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคไข้เลือดออกไครเมียน-คองโก
ขอบคุณที่มาจาก Thesun Reuters The Health Site
