ศุภวุฒิประธานสภาพัฒน์ เตือนจุดเปลี่ยนของ “ระเบียบโลก” ชี้ทางรอดไทยคือ การเกษตร อาหารและบริการ ชี้เป็นข้อได้เปรียบดันส่งออกสินค้าไทยไปประเทศจีน
ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ ประธานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และที่ปรึกษากลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร เปิดเผยถึงแนวโน้มโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลง ว่าการกลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่สองของโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งอาจไม่ได้หมายถึงเพียงการเปลี่ยนแปลงผู้นำของสหรัฐ แต่เป็นการสั่นคลอนโครงสร้างระเบียบโลกแบบที่ทุกคนรู้จัก
เพราะทรัมป์ได้แสดงความต้องการถอนตัวหรือการลดบทบาทองค์กรหรือความร่วมมือระหว่างประเทศ เช่น NATO, WHO และ COP ซึ่งสหรัฐเคยเป็นผู้สนับสนุนสำคัญมาโดยตลอด “การเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น จึงจะไม่ใช่แค่ Presidential Change แต่เป็น Paradigm Shift และเป็นความไม่แน่นอนระดับโลก
ในด้านของจีนจะชี้ให้เห็นถึงภาวะ “อ่อนใน-แข็งนอก” จากเศรษฐกิจภายในประเทศที่เปราะบาง เห็นได้จากปัญหาสินค้าคงค้างในภาคอสังหาริมทรัพย์ เงินหยวนที่อ่อนค่า ทำให้กำลังซื้อในประเทศตกต่ำจนกระทั่งเสี่ยงต่อการเข้าสู่ภาวะเงินฝืด แต่ในเวทีโลก จีนยังคงแข็งแกร่ง โดยเฉพาะการครองตลาดโลกในสินค้าอุตสาหกรรมก้าวหน้า เช่น แผงโซลาร์เซลล์ และรถยนต์ไฟฟ้า
ขณะที่ยุโรปซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลกนั้น ประเทศหลักมีการเติบโตต่ำกว่า 1% และมีความไม่แน่นอนและความเปราะบางทางด้านการเมืองและความมั่นคง ดังนั้นความมั่นใจในด้านเศรษฐกิจคงจะไม่สามารถพลิกฟื้นได้ใน 1-2 ปีข้างหน้า
ดร.ศุภวุฒิกล่าวว่า โอกาสท่ามกลางความผันผวนในบริบทของเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน โดยจีนและสหรัฐเผชิญหน้ากันอย่างรุนแรงและยุโรปอ่อนแอ มองว่าประเทศไทยมีทางเลือกใน 3 ด้านหลัก ได้แก่ การเกษตร อาหาร และบริการ
“จีนแม้จะมีประชากรมากถึง 20% ของโลก แต่มีพื้นที่เพื่อการเกษตรน้อยกว่า 10% ของพื้นที่ของโลก และมีทรัพยากรน้ำเท่ากับ 6% ของโลก ดังนั้น จีนจึงจะต้องเป็นผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์เกษตรรายใหญ่ของโลกไปอีกนาน และนี่คือโอกาสที่ประเทศไทยจะใช้ความได้เปรียบในด้านการเกษตรและอาหารในการขับเคลื่อนการขยายตัวของเศรษฐกิจ เพราะในอนาคตความต้องการอาหารของจีน จะโตกว่าความต้องการอาหารโลก” ดร.ศุภวุฒิกล่าว
นอกจากนี้ จีนก็ยังนำเข้าสุทธิการบริการ มีความต้องการในด้านการท่องเที่ยว รวมทั้งการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ ซึ่งในส่วนนี้ไม่น่าจะได้รับผลกระทบจากการเก็บภาษีของสหรัฐอเมริกา “เพราะไม่ว่าจีนหรือสหรัฐก็ไม่มีแนวคิดที่จะเก็บภาษีนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเมืองไทย ส่วนภาคอุตสาหกรรมไม่ใช่ว่าจะหายไป แต่จะยังคงมีอุตสาหกรรมเฉพาะเจาะจง เช่น เซมิคอนดักเตอร์ในส่วนของ Assembly, Testing and Packaging แต่อาจจะไม่ใช่หัวจักรในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ (Economic Engine) ของประเทศไทยในบริบทของโลกที่เปลี่ยนไป
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ศุภวุฒิชี้ “การเกษตร-อาหาร-บริการ” ทางรอดไทย ดันส่งออกสินค้าไปจีน
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net
ความเห็น 0