J Ventures, Index Creative Village, Eventpass, WARRIX, Prakit Holdings และมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ร่วมจัดตั้ง D.OASIS แหล่งเชื่อมต่อองค์ความรู้และเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะสปริงบอร์ดประเทศไทยเป็นผู้นำ Web3 และ Metaverse ของเอเชีย ควงแขนเหล่าพาร์ทเนอร์สร้าง Ecosystem พร้อมพัฒนา Metaverse, NFTs, DAPPs และ Lab รูปแบบใหม่ซึ่งจะอวดโฉมสู่ตลาดในเร็วๆนี้ คาดมูลค่าตลาด Metaverse ทั่วโลกโตทะยาน 8 แสนล้านดอลลาห์สหรัฐในปี 2571 และคนจะย้ายไปสู่โลกเสมือนจริงกว่า 70% ในอนาคต แนะองค์กรต้องเร่งเตรียมคนและจัดทัพเตรียมพร้อมต่อ Disruption ครั้งใหญ่ของ Web3 เพื่อสร้างโอกาสและความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง ประเดิมเปิดคอร์ส Metaverse Developer เดือนเม.ย.นี้ จัดเต็มความรู้และเทคนิคการสร้าง Metaverse ผนวกเวิร์คชอปสุดเข้มข้นที่ให้ผู้เรียนได้ทดลองสร้าง Metaverse ผ่านการแชร์ความรู้และประสบการณ์จากผู้เชี่ยวชาญตัวจริงในวงการ อาทิ SmartContract Blockchain Studio, ANT จาก DPU, GAMEINDY และ Tokenine
นายสิริเกียรติ์ บุญวรเศรษฐ์ กรรมการผู้จัดการ D.OASIS (Mr. Sirikiat Bunworaset, Managing Director of D.OASIS) กล่าวว่า J Ventures, Index Creative Village, Eventpass, Warrix, Prakit Holdings และมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ได้ร่วมกันจัดตั้ง D.OASIS เพื่อเป็นแหล่งรวบรวมองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญทุกมิติที่เกี่ยวกับ Web3 และ Metaverse ให้ทุกองค์กรและทุกหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา ได้มารวมตัวและเชื่อมต่อกันในการพัฒนา Web3 และ Metaverse ของประเทศไทยให้ก้าวสู่ระดับ Top ของเอเชีย ซึ่ง D.OASIS เปิดกว้างในการรับพาร์ทเนอร์เพิ่มเติมเพื่อได้มาร่วมกันแชร์เทคโนโลยี เครื่องมือ และความรู้ด้านต่างๆ โดยปัจจุบันมีพาร์ทเนอร์จากทั้งบริษัท Avalant, BitToon, Bridge Consulting, Daydev, GAMEINDY, Hal Finney, I AM Consulting, Satoshi, SmartContract Blockchain Studio และ Tokenine พร้อมตั้งเป้าปีหน้าจะมีพาร์ทเนอร์มากกว่า 100 ราย
“ในอนาคต Web3 จะมีความสำคัญเทียบเท่าหรือมากกว่าการเกิดขึ้นของอินเทอร์เน็ตและโลกของ Web2 ที่ผ่านมา โดยจะเปลี่ยนระบบจากการมีตัวกลางในการทำธุรกรรมมาเป็นระบบกระจายศูนย์หรือไร้ตัวกลาง (Decentralized) และเปลี่ยนการใช้ชีวิตบน Physical World ไปสู่ Virtual World ปัจจุบันเริ่มเห็นภาพมากขึ้นจากการเข้ามาของ Metaverse, NFTs (Non-Fungible Tokens) และ DAPPs (Decentralized Applications) ซึ่ง D.OASIS จะเป็นกลไกที่ช่วยให้องค์กรและหน่วยงานต่างๆ ปรับตัวเข้าสู่โลก Web3 ได้อย่างรวดเร็ว”
ทั้งนี้ D.OASIS ได้วางผังการทำงานหลักไว้ 4 ด้าน ครอบคลุมทุกมิติที่เกี่ยวกับ Web3 ได้แก่ D.OASIS Lab, Metaverse, NFTs และ DAAPs ซึ่งทั้งหมดจะถูกสร้างสรรค์ออกมาเป็นนวัตกรรมรูปแบบใหม่ที่สอดรับกับองค์กรแห่งอนาคต โดยปีนี้จะเห็นภาพการดำเนินงานของทุกกลุ่มตลอดทั้งปี และในส่วนของแผนงานที่กำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้คือ D.OASIS Lab ที่ดำเนินงานด้านการวิจัยและพัฒนา รวมถึงพัฒนาบุคลากรเพื่อให้มีความรู้ความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์สำหรับเตรียมพร้อมก้าวสู่ยุค Web3 และ Metaverse”
นายสถาพน พัฒนะคูหา ผู้อำนวยการ D.OASIS Lab ของ D.OASIS (Mr. Sathapon Patanakuha, Director of D.OASIS Lab of D.OASIS) ให้ข้อมูลว่า บทบาทของ D.OASIS Lab จะช่วยเพิ่มทักษะด้านต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับ Web3 ให้กับคนไทยผ่านคอร์สเรียนระยะสั้นและงานสัมมนา ซึ่งได้วางคอร์สแรกคือ Metaverse Developer โดยเนื้อหาของคอร์สจะเริ่มจาก IT Architecture ที่มีความสำคัญต่อการสร้าง Metaverse หลังจากนั้นจะอัดแน่นด้วยความรู้และเทคนิคของเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับการสร้าง Metaverse ไม่ว่าจะเป็น 3D, Interactive Web, Cryptocurrency, WebGL, WebXR เป็นต้น พร้อมทั้งมีเวิร์คชอปที่ให้ผู้เรียนทดลองสร้าง Metaverse ขึ้นมาอีกด้วย โดยผู้สอนจะเป็นผู้เชี่ยวชาญตัวจริงที่อยู่ในวงการ Web3 เช่น SmartContract Blockchain Studio, วิทยาลัยครีเอทีฟดีไซน์ แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์เทคโนโลยี (ANT) ของมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU), GAMEINDY และTokenine นอกจากนั้น จะมีการเชิญผู้ทำโปรเจ็ค Metaverse ที่ประสบความสำเร็จมาร่วมแชร์แนวคิดและประสบการณ์อีกด้วย
สำหรับคอร์ส Metaverse Developer เหมาะกับนักพัฒนาระบบหรือผู้บริหารฝ่ายไอทีซึ่งอยู่ในองค์กรที่ต้องการ Disrupt ตัวเอง และย้ายองค์กรเข้าไปอยู่ในโลก Metaverse โดยองค์กรที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูงนั้นจะมีทีม Innovation ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับองค์กร ซึ่งเรียกว่าเป็น Metaverse Developer ก็ได้ เพราะเมื่อโลกอินเทอร์เน็ตในอนาคตคือ Web3 คนกลุ่มนี้ยิ่งมีความสำคัญที่ต้องนำนวัตกรรมต่างๆ มาพัฒนาองค์กรให้ทันต่อการเกิดขึ้นของ Web3 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้องค์กรสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคงในระยะยาว
“ข้อมูลจาก Emergen Research ระบุว่าเมื่อปี 2563 มูลค่าตลาดของอุตสาหกรรม Metaverse ทั่วโลกอยู่ที่ 4 หมื่นกว่าล้านดอลลาห์สหรัฐ และจะเพิ่มขึ้นแตะ 8 แสนล้านดอลลาห์สหรัฐในปี 2571 พร้อมคาดว่าอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) จะอยู่ที่ 43.3% ในช่วงปี 2564-2571 ขณะเดียวกัน มีการประเมินว่าธุรกรรมหรือกิจกรรมต่างๆ ที่ผู้คนทำอยู่บนโลกปัจจุบันในทุกวันนี้จะย้ายไปอยู่บน Metaverse เกินกว่า 60-70% ในอนาคต ดังนั้น องค์กรต้องเข้าใจและเตรียมพร้อมต่อ Web3 ที่จะเข้ามาเปลี่ยนธุรกิจของตัวเอง โดยวิธีการที่จะปรับตัวได้เร็วที่สุดคือพัฒนาทักษะให้กับกลุ่ม Metaverse Developer เพื่อนำไปสู่การหาไอเดียและทดลองสร้าง Metaverse ขึ้นมา ซึ่งจะทำให้องค์กรสามารถต่อยอดและทรานสฟอร์มธุรกิจไปได้รวดเร็วกว่าผู้เล่นรายอื่นๆ”
ทั้งนี้ คอร์ส Metaverse Developer จะเปิดสอนในเดือนเมษายน ทุกวันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 9.00 – 16.00 น. จำนวน 8 ครั้ง ที่มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ราคาคอร์สอยู่ที่ 55,000 บาท โดยมีโปรโมชั่นช่วง Early Bird สมัคร 1 คน ราคา 45,000 บาท และสมัครพร้อมกัน 2 คน ราคาคนละ 40,000 บาท เริ่มสมัครแล้วตั้งแต่วันนี้ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง www.doasislab.io หรือโทร.02-954-7300 ต่อ 209
ความเห็น 0