นิตยสาร ESPN ฉบับบอดี้ อิชชู (Body Issue) ซึ่งเป็นฉบับพิเศษประจำปี 2019 เพิ่งวางแผงเมื่อต้นเดือนกันยายน
ปีนี้เป็นปีที่ 11 ที่นิตยสาร ESPN ออกฉบับบอดี้ อิชชู และจะเป็นฉบับสุดท้าย
ปีหน้าและปีต่อๆ ไปไม่ทำขายอีกแล้ว
เพราะยอดขายสื่อสิ่งพิมพ์ลดความนิยมลงมาก
ทุกครั้งที่นิตยสารฉบับนี้วางแผงก็เป็นที่ฮือฮาทุกปี
เพราะบรรดานักกีฬาที่ให้เกียรติมาเปลือยกายถ่ายภาพล้วนเป็นนักกีฬาดังระดับโลก
ซึ่งภาพถ่ายนั้นถ่ายอย่างมีศิลปะ แสดงให้เห็นความงามของสรีระนักกีฬา
ปีนี้มีนักกีฬาดังระดับโลกทั้งหญิงและชาย 17 คนมาเปลือยกายให้ถ่ายภาพแนวศิลปะ
ไม่อนาจาร
หนึ่งในยอดนักกีฬาระดับโลกที่มาเปลือยกายและได้ขึ้นปกนิตยสาร ESPN ฉบับบอดี้ อิชชู คือ บรู๊กส์ เค็ปค่า (Brooks Koepka) นักกอล์ฟหนุ่มชาวอเมริกัน วัย 29 ปี ที่ตอนนี้เป็นนักกอล์ฟหมายเลข 1 ของโลก
แม้จะเป็นนักกีฬาระดับโลกที่ต้องออกกำลังกายดูแลรูปร่างให้ฟิตเปรี๊ยะตลอดเวลา แต่เมื่อต้องมาเปลือยกายถ่ายรูปให้คนทั่วโลกเห็น ก็ต้องยิ่งฟิตหุ่นลดน้ำหนักกันสุดขีดจนเสียสุขภาพเลยทีเดียว
บรู๊กส์ เค็ปค่า เป็นหนึ่งในนักกอล์ฟที่มีหุ่นฟิตมากใน PGA Tour โดยนับจากที่เทิร์นโปรในปี 2012 ก็ฟิตหุ่นจนดูตัวใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทุ่มเทกับการเข้ายิม เขาออกกำลังกายกับเพื่อนซี้ คือ ดัสติน จอห์นสัน (Dustin Johnson) นักกอล์ฟหมายเลข 2 ของโลกเป็นประจำ
บรู๊กส์ เค็ปค่า เคยหนัก 96 กิโลกรัม ซึ่งค่อนข้างเยอะสำหรับคนที่สูง 183 เซนติเมตร
เขาเคยให้สัมภาษณ์ในปี 2018 เกี่ยวกับระเบียบวินัยการกินอาหารและฟิตหุ่น
โดยบอกว่า ปกติเขาใช้เวลาเฉลี่ยวันละ 5-6 ชั่วโมงดูแลจัดการเรื่องร่างกายของตัวเอง
ซึ่งเขาคิดว่าเป็นเรื่องที่จำเป็นสำหรับนักกีฬาอาชีพ
ทุกครั้งที่มีคนพูดกับเขาว่าการออกกำลังกายเพิ่มความแข็งแรง (strength workout) จะทำให้นักกอล์ฟขาดความยืดหยุ่น
เขาก็จะยกตัวอย่างนักกีฬายิมนาสติก เพราะนักยิมนาสติกร่างกายแข็งแรงมาก แต่พวกเขาก็ยังมีความยืดหยุ่นอย่างสุดยอด
ดังนั้น จึงอยู่ที่วิธีในการดูแลร่างกายของเรามากกว่า
แต่นับจากเดือนพฤศจิกายน 2018 เค็ปค่าลดน้ำหนักลงไป 10 กิโลกรัม
เขาให้สัมภาษณ์ในเดือนมีนาคม 2019 ช่วงของการแข่งขันกอล์ฟ รายการ The Players Championship ยอมรับว่าเหตุผลที่สถิติไดรฟ์ของเขาแย่ลง
ตีสั้นลง 10-11 หลา จนอันดับสถิติการไดรฟ์หล่นจากที่ 9 ลงไปอยู่อันดับที่ 46
นั่นเป็นเพราะช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาเขาตั้งใจลดน้ำหนักมาก ทำทุกอย่างหนักขึ้น ออกกำลังวันละสองรอบ วิ่งเยอะขึ้นสองเท่า แต่กินอาหารน้อยลง จนน้ำหนักลดจาก 96 กิโลกรัม เหลือ 86 กิโลกรัม
ซึ่งทำให้เขาส่งพลังในการตีลูกได้ไม่แรงเท่าเมื่อก่อน
บรู๊กส์ เค็ปค่า ยอมรับว่าช่วงนั้นเขากินอาหารวันละ 1,800 แคลอรี่ ซึ่งน้อยกว่าที่คนทั่วไปกิน
และไม่ได้อยู่ในสภาพร่างกายที่ดีที่สุด
แต่ตอนนั้นเขาตั้งใจจะลดน้ำหนักลงจริงๆ ซึ่งเขาทราบดีว่าเป็นการกระทำที่ค่อนข้างบ้าบิ่นและทำเป็นเวลานานไปหน่อย
แต่เขาก็แก้ต่างว่านั่นเป็นเวลาแค่ 4 เดือนในช่วงอาชีพของเขา
ซึ่งเป็นการเสียสละที่คุ้มค่า
หลังจากนี้เขาจะกลับมากินแบบปกติ และไม่ต้องฝึกหนักๆ เหมือนเดิมแล้ว
และเขาจะเพิ่มน้ำหนักกลับขึ้นมาอีกหน่อย
ย้อนกลับไปในนิตยสาร ESPN ฉบับบอดี้ อิชชู ปี 2015
มีนักกีฬาจำนวน 6 คนที่ได้ขึ้นหน้าปกเดี่ยวของตัวเอง
หนึ่งในนั้นคือ ไบรซ์ ฮาร์เปอร์ (Bryce Harper) นักเบสบอลมาดเท่ ทีมฟิลาเดลเฟีย ฟิลลีย์ส (Philadelphia Phillies) วัย 26 ปี ซึ่งโด่งดังตอนที่เล่นให้กับทีมวอชิงตัน เนชั่นแนล (Washington National) ระหว่างปี 2012-2018
และได้รับรางวัล MVP ในปี 2015
ฮาร์เปอร์เคยเปิดเผยเรื่องราวเบื้องหลังกับ Washington Post ว่าก่อนที่เขาจะมาถ่ายแบบโชว์เรือนร่างเปลือยที่ฟิตเปรี๊ยะไร้ไขมันนั้น เขาต้องผ่านกิจวัตรการลดน้ำหนักที่ทรหด และค่อนข้างอันตราย
จนเมื่อถึงเวลาเข้ากล้องเพื่อถ่ายแบบให้บอดี้ อิชชู
ตอนนั้นระบบต่างๆ ทั้งร่างกายเขาหมดสภาพอย่างสิ้นเชิง
สําหรับการเตรียมร่างกายของไบรซ์ ฮาร์เปอร์ ช่วงแรกเขาออกกำลังกายวันละ 3 เวลา กินอาหารวันละ 6 มื้อ จากนั้นก็ลดมื้ออาหารลงเรื่อยๆ จนในสัปดาห์สุดท้ายไม่กินอะไรเลยนอกจากน้ำผลไม้วันละ 4 มื้อ เป็นเวลา 7 วัน
นอกจากนี้ ในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายก่อนถึงวันถ่ายแบบ เขาใส่เกลือผสมลงไปในน้ำดื่มเพื่อจะเติมน้ำให้ร่างกายโดยที่น้ำหนักตัวไม่เพิ่มขึ้น
เช้าของวันที่มีนัดถ่ายแบบ เขาตื่นขึ้นมาออกกำลังกายเป็นครั้งสุดท้าย
พอออกกำลังกายเสร็จแล้วตามหลักเราควรดื่มน้ำให้ร่างกายกลับมาสดชื่น แต่เขากลับอมน้ำแล้วบ้วนทิ้ง
และเมื่อมาถึงสถานที่นัดถ่ายแบบ ตอนนั้นร่างกายเขาหมดสภาพอย่างสิ้นเชิง อาหารที่เขากินคือมันฝรั่งดิบ เพราะกลูโคสและไกลซีนในมันฝรั่งจะส่งตรงไปยังกล้ามเนื้อ
ทำให้กล้ามเขาดูสวยเด่นเมื่อถึงเวลาต้องเปลื้องผ้าถ่ายแบบ
ซึ่งรูปที่ออกมาก็เป็นที่น่าพอใจของทุกคน
เป็นเรื่องปกติที่นักกีฬาอาชีพจะโหมใช้ร่างกายอย่างหนักในการออกกำลังฝึกฝนร่างกายและกินอาหารในระดับที่คนทั่วไปไม่สามารถทำได้และไม่สมควรทำ
นั่นคือสิ่งที่ทำให้พวกเขาเป็นนักกีฬาอาชีพ
แต่อย่างกรณีของไบรซ์ ฮาร์เปอร์ ที่โหมร่างกายทุกทางเพียงเพื่อการถ่ายแบบขึ้นหน้าปก ฟังแล้วก็น่าตกใจ
เพราะกิจวัตรที่ทรมานร่างกาย เช่น การดื่มน้ำผสมเกลือเพื่อเลี่ยงไม่ให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นนั้น ขัดกับวัตถุประสงค์ของทางนิตยสาร ESPN ฉบับบอดี้ อิชชู ที่ต้องการนำเสนอรูปร่างนักกีฬาที่หลากหลายและแตกต่าง
ไบรซ์ ฮาร์เปอร์ บอกว่าเป้าหมายของเขาคือการลบล้างความเชื่อของคนส่วนใหญ่ที่คิดว่านักเบสบอลไม่ใช่พวกที่มีร่างกายฟิตหรือมีกล้ามสวยงามอย่างนักกีฬาประเภทอื่น
แต่การที่เขาอดอาหาร ดื่มแต่น้ำผลไม้ หรือการอมน้ำแล้วบ้วนออกมา เหล่านี้ไม่ใช่กิจวัตรที่เขาทำในการเป็นนักเบสบอล MLB
ดังนั้น นี่จึงเป็นสิ่งที่ผิดเป้าหมาย
มีงานศึกษาเมื่อปี 2014 สำรวจเด็กผู้ชายวัยรุ่นอเมริกันอายุระหว่าง 12-18 ปี จำนวน 5,527 คนในระหว่างปี 1999-2010
พบว่า ผู้ชายวัยรุ่นจำนวนเกือบ 18% มีความกังวลเรื่องน้ำหนักตัวและรูปร่างของพวกเขาอย่างสุดขีด
นอกจากนี้ ทางสมาคมความผิดปกติเกี่ยวกับการกินแห่งชาติสหรัฐ (National Eating Disorders Association) บอกว่าช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ระดับความกังวลเรื่องรูปลักษณ์ในกลุ่มผู้ชายเพิ่มมากขึ้นเป็น 2 เท่า จนขึ้นไปอยู่ในระดับเดียวกับกลุ่มผู้หญิง
สังคมมีจำนวนผู้ชายที่ให้ความสำคัญกับความสวยความงามของตัวเองอย่างยิ่งเพิ่มมากขึ้น อาจเป็นสังคมที่ขาดความสมดุลในหลายๆ ด้าน