พบแล้วรถจยย.คนร้ายชิงทองโลตัส อยุธยา แล้ววางระเบิดปลอมหลอกตำรวจ อยู่ข้างถนนสายวัดบางปลาหมอ-หัวเวียง ห่างจุดเกิดเหตุ 4 กม. ตร.พบรถยนต์ต้องสงสัยที่อาจมีการสับเปลี่ยน เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่
10 พฤศจิกายน 2565 จากกรณีคนร้ายเป็นชาย สวมหมวกกันน็อกบุกเดี่ยวเข้าไปภายในห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขาเสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ใช้อาวุธปืนยิงตู้โชว์กวาดทองรูปพรรณหนัก 95 บาท มูลค่ากว่า 2.8 ล้าน ก่อนหลบหนีวางระเบิดปลอมข่มขู่ หวังถ่วงเวลาเจ้าหน้าที่ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 พ.ย. ที่ผ่านมา ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งรางวัลนำจับจำนวน 20,000 บาท สำหรับผู้ที่ให้เบาะแสและนำไปสู่การจับกุมคนร้ายได้ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- ตร.เร่งล่าโจรชิงทอง 80 บาท กลางห้างดังกรุงเก่า พบวางแผนมาอย่างดี (มีคลิป)
- คนร้ายบุกเดี่ยวปืนยิงใส่ ชิงทอง 70 บาท วางระเบิดปลอมถ่วงเวลาหนี (คลิป)
ล่าสุดเมื่อเวลา 21.00 น. วานนี้ (9 พ.ย.) พ.ต.อ.ธีทัต สีดารักษ์ ผกก.สภ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งมีผู้พบเห็นรถจักรยานยนต์ ถูกนำมาทิ้งไว้ในพงหญ้าข้างทาง ถนนสายวัดบางปลาหมอ-หัวเวียง บริเวณ หมู่ 6 ต.น้ำเต้า อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ฟีโน่ สีขาวดำ เบาะสีน้ำตาล ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ถูกทิ้งไว้ในพงหญ้า ด้านข้างเป็นทุ่งนามีน้ำท่วมเพิ่งจะลดระดับลงไป จึงนำรถขึ้นมาตรวจสอบ
พบว่ากุญแจรถยังเสียคาอยู่ มีน้ำไหลออกมาจากรถ ลักษณะรถจักรยานยนต์ เป็นคันเดียวกับที่คนร้ายใช้ก่อเหตุชิงทองรูปพรรณมาจาก ร้านทองในห้างสรรพสินค้าโลตัส ระยะทางห่างจุดเกิดเหตุประมาณ 3-4 กิโลเมตร จึงนำรถจักรยานยนต์ขึ้นมา แล้วนำไปตรวจสอบหาที่มาของรถทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ถนนที่คนร้ายนำรถจักรยานยนต์มาทิ้ง เป็นถนนเส้นทางเชื่อมต่อชุมชนไม่ค่อยมีบ้านเรือนบ้านประชาชน ซึ่งจะต้องเป็นคนในพื้นที่ถึงจะรู้เส้นทางนี้ว่า เชื่อมต่อไปเส้นทางใดได้บ้าง ในเส้นทางจะมีทางแยกลัดเลาะเชื่อมต่อกันได้หลายเส้นทาง พบว่า มีการตัดต้นไม้และหญ้าข้าง จนมีคนหาปลามาพบอยู่จึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ
ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนที่ติดตามคดีนี้ ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด หลังจากที่คนร้ายก่อเหตุแล้ว พบว่า คนร้ายหลบหนีมุ่งหน้ามาทางวัดบางปลาหมอ แล้วหายไป จึงสันนิษฐานว่า คนร้ายน่าจะมีการทิ้งรถจักรยานยนต์ หรือมีการเปลี่ยนรถจักรยานยนต์ เพื่อใช้ในการหลบหนีต่อ ซึ่งล่าสุดพบรถยนต์ต้องสงสัยคันหนึ่ง ผ่านในเส้นทางดังกล่าว ช่วงเวลาที่รถจักรยานยนต์หายไป เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ส่วนบุคคลต้องสงสัยที่มีท่าทางบุคลิกใกล้เคียงกับคนร้าย จากการตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่าไม่มีความเกี่ยวข้อง
สัมฤทธิ์ รายงานจากจ.อยุธยา
ความเห็น 0