ผู้เลี้ยงจระเข้จังหวัดขอนแก่น ต้องหันมาชำแหละเนื้อขาย หลังโควิดกระทบการส่งออก ประกอบกับช่วงหมูแพง คนหันมาบริโภคแทนเนื้อหมู เนื่องจากราคาถูกและรสชาติอร่อยถูกปาก
นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วยปศุสัตว์ ประมง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ตรวจเยี่ยมฟาร์มเลี้ยงจระเข้ ของนายปริญญา ขวามาตร นายก อบต.ใหม่นาเพียง อำเภอแวงใหญ่ จังหวัดขอนแก่น หลังจากปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ทำให้ไม่สามารถส่งออกจระเข้ไปยังต่างประเทศได้ ประกอบกับในช่วงนี้เนื้อหมูมีราคาแพง ทางฟาร์มจึงหันมาชำแหละเนื้อจระเข้ขายในราคาถูก
นายปริญญา ขวามาตร เจ้าของฟาร์มจระเข้ กล่าวว่า ตอนแรกที่เริ่มเลี้ยงเพราะส่วนใหญ่ผู้ประกอบการยังไม่ค่อยมีใครรู้จัก เพราะจระเข้เป็นสัตว์เศรษฐกิจ โดยจระเข้ที่ฟาร์มส่วนใหญ่เมื่ออายุระหว่า 3-4 ปี จะส่งขายไปยังต่างประเทศ เพราะต้องใช้หนังในการผลิตสินค้า เฉลี่ยราคาอยู่ที่ตัวละ 5,500-10,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาด แต่หลังจากมีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ทำให้การส่งออกเป็นปัญหาไม่สามารถส่งจระเข้ไปขายยังต่างประเทศได้ ทำให้ต้องแบกรับภาระค่าอาหารจระเข้ที่มีอยู่กว่า 1,500 ตัว เดือนละกว่าแสนบาท จึงหาวิธีที่จะขายจระเข้ที่ฟาร์มออก เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย ด้วยการจำหน่ายจระเข้ให้กับชาวบ้านที่สนใจนำไปเลี้ยงเป็นอาชีพ โดยจระเข้ อายุ 1-2 ปี ขายตัวละ 2,500 บาท ส่วนจระเข้อายุ 3-4 ปี ก็ชำแหละขายเนื้อและชิ้นส่วน ราคาตั้งแต่กิโลกรัมละ 150 บาท ถึง 400 บาท หรือขายแบบทั้งตัว โดยในช่วงที่เนื้อหมูมีราคาแพง ชาวบ้านได้นิยมหันมาบริโภคเนื้อจระเข้มากขึ้น เพราะเนื้อจระเข้เองก็มีสรรพคุณในการดูแลสุขภาพด้วย โดยเมนูที่นิยมนำไปประกอบอาหาร เช่น เนื้อจระเข้ผัดเผ็ด ปิ้ง ย่าง จิ้มแจ่ว ซึ่งมีรสชาติหอมไม่มีกลิ่นสาป หรือเหม็นคาว เหมือนเนื้อหมูหรือไก่ เนื้อนุ่ม ไม่เหนียว จึงเหมาะกับผู้บริโภคทุกช่วงวัย
สำหรับประชาชนที่สนใจ สามารถเยี่ยมชมฟาร์มจระเข้ที่บ้านใหม่นาเพียง อ. แวงใหญ่ จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นฟาร์มเปิด ชาวบ้าน เกษตรกร หรือผู้ประกอบการรายอื่นสามารถเข้ามาเยี่ยมชม หรือศึกษาดูงานได้ ส่วนผู้ที่สนใจจะซื้อเนื้อจระเข้ไปรับประทาน ต้องโทรมาแจ้งล่วงหน้าก่อน เพราะการซื้อขายต้องขออนุญาตกรมประมง เนื่องจากจระเข้ เป็นสัตว์คุ้มครอง
