โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

แบมแบม โดนเปรียบเทียบกับนิชคุณ ใช้เวลาพิสูจน์ตัวเอง 10 ปี กว่าเกาหลีจะยอมรับ

The Bangkok Insight

อัพเดต 30 มี.ค. เวลา 10.22 น. • เผยแพร่ 30 มี.ค. เวลา 10.14 น. • The Bangkok Insight
แบมแบม โดนเปรียบเทียบกับนิชคุณ ใช้เวลาพิสูจน์ตัวเอง 10 ปี กว่าเกาหลีจะยอมรับ

แบมแบม กันต์พิมุกต์ โดนเปรียบเทียบกับนิชคุณ ใช้เวลาพิสูจน์ตัวเอง 10 ปี กว่าเกาหลีจะยอมรับ เผย GOT7 กลับมารวมตัวแน่นอน

เป็นอีกหนึ่งความภูมิใจของคนไทยที่ดังไกลระดับโลกอย่าง แบมแบม-กันต์พิมุกต์ ภูวกุล โดยล่าสุดมาเปิดใจในรายการ WOODY FM ถึงเรื่องราวหนักที่สุดในชีวิต เคยโดนเปรียบเทียบกับนิชคุณ และโดนดราม่าว่าไม่เหมาะสมที่จะอยู่ในวง GOT7 ต้องใช้เวลาถึง 10 ปีกว่าจะเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับที่เกาหลี พร้อมคอนเฟิร์ม GOT7 คัมแบ็กแน่นอน ดูดวงชีวิตการทำงานแล้ว!

แบมแบม กันต์พิมุกต์
แบมแบม กันต์พิมุกต์

รู้สึกว่าที่ผ่านมา แบมแบม จะมีดราม่าเรื่อย ๆ เคยสังเกตไหมว่าเราเจอเยอะกว่าคนอื่น ?

แบมแบม : เรื่องนู่นนี่ไร้สาระครับ จะบอกว่าหลังจากที่ชีวิตโซโล่ผมมันเริ่มคลี่คลาย เริ่มโดนเยอะ ช่วงแรกก็แคร์นะครับแต่ว่าหลัง ๆ ผมเริ่มไม่แคร์แล้ว การที่มีคนเข้ามาเกลียด มันคือคนที่ เราเป็นศูนย์กลางของกระแสแล้ว คือคนเขาก็สนใจเราตลอดเวลา 24 ชั่วโมงเลยครับ แต่คนที่ไม่มีคนเกลียดเลยก็คือ เอาจริง ๆ ไม่มีคนสนใจ ซึ่งมันไม่ใช่ผมคนเดียวนะ ผมอาจจะอ่านทุกภาษาออกมันเลยจะรู้สึกว่าผมโดนเยอะหน่อย แต่ว่าตามจริงวงอื่นเขาก็โดนเยอะเหมือนกัน ซึ่งโดนเยอะกันอย่างนี้ทุกคน

คุณจัดการยังไง ?

แบมแบม : ตอนนี้เริ่มไม่แคร์นะครับ ด่ามาผมก็ด่ากลับตลอดเลย (หัวเราะ) อาจจะเป็นอะไรที่ไม่เข้ากับอาชีพของผมมาก ผมก็มีใช้คำหยาบบ้างนะบางที เพราะว่าเขาไม่เคารพเราก่อน เราก็สามารถไม่เคารพเขากลับได้ มันก็ 1 ต่อ 1 เท่ากัน

หลัง ๆ ปล่อยผ่านไหม ?

แบมแบม : มีปล่อยผ่านเยอะครับผม แต่จริง ๆ คนพวกนี้เวลาเจอตัวจริง ทำไรไม่ได้เลยนะแบบแข็งทื่อ ผมก็เลยแบบ พวกคนที่เกลียดเรา บางทีก็ไม่ชอบเขาเอาจริง ๆ ก็คือไม่มีคงดีกว่า แต่ว่าถ้ามีบางทีก็รู้สึกขอบคุณบ้าง ผมก็เคยมีช่วงที่ผมคิดว่าเขาต้องโตมากับสภาพแวดล้อมแบบไหน เขาต้องขาดความสนใจหรือความรักมากขนาดไหนถึงเป็นยังงี้ แต่หลัง ๆ มาผมก็คิดว่าคนพวกนี้ไม่ควรได้ความเมตตา ปล่อยไปชีวิตจะทำอะไรทำเลย ไม่แคร์จริง ๆ ครับผม ไม่รู้สิผมรู้สึกว่าความเมตตาหรือว่าความรักที่ผมจะให้ คนพวกนี้ทำไม ให้คนของเราผมยังให้ได้มากไม่พอเลย แล้วผมจะแชร์ให้กับคนพวกนี้ทำไม ปล่อยมันไป

กว่าจะเป็นศิลปินหลายคนอาจจะมองว่าเป็นความสวยงาม แต่ในเชิงจิตวิทยามันบ้าบอมากเลย เพราะผ่านมาหลายเรื่องตั้งแต่เด็กจนถึงวันนี้ความกดดันที่มันเกิดขึ้นมันหนักไหม ?

แบมแบม : ถามว่าหนักไหม ก็หนักนะ มันหนักในช่วงแรก ๆ จะมีช่วงที่หนักเป็นพิเศษหน่อย แต่ว่าช่วงนี้พอมันมีแผนในอนาคตตลอด มีเป้าหมายใหม่ที่ผมตั้งทุกอย่างมันจะราบรื่นตลอด กับตอนที่เขาสั่งให้เราทำอะไร เราก็ทำตามเขา ตอนนั้นมันจะเป็นช่วงกดดัน บางทีสิ่งที่เขาสั่งให้เราทำ เรารู้สึกได้ว่าอันนี้กระแสตอบรับมันไม่น่าจะดี แต่พูดอะไรไม่ได้เราก็ต้องทำตาม แต่ว่าพอคนที่ร่วมงานกับผม ทางแฟนคลับ เขาเริ่มที่จะยอมรับในตัวตนกับสกิลของผม เริ่มเชื่อมั่นกันและกันมากขึ้น พอเรารู้ว่าเป้าหมายของเราคืออะไร สิ่งที่อยู่ในหัวและแพลนหรือสิ่งที่ผมจะทำมันลงไปมันจะเพื่อเป้าหมายนั้นโดยเฉพาะ ซึ่งมันทำให้กดดันน้อยลงนะ สมมติว่าผมทำเพลงออกมาแล้วรู้สึกว่ามันไม่พอที่จะไปถึงเป้าหมายนั้นได้ ผมว่ายังไม่ปล่อยเพลงเลยดีกว่า ก็ทำใหม่เรื่อย ๆ จนกว่ามันจะออกมา ซึ่งไม่ค่อยกดดันสักเท่าไหร่ครับ อาจจะมีคลาดจังหวะที่ดีที่สุดบ้าง แต่ว่าจังหวะที่ดีที่สุดมันเป็นเวลาที่เราสามารถสร้างเองได้ครับ ซึ่งกดดันน้อยลงแล้วก็เริ่มเอ็นจอยกับงานมากขึ้นครับช่วงนี้

แบมแบม กันต์พิมุกต์
แบมแบม กันต์พิมุกต์

อะไรที่คุณไม่ชอบ ?

แบมแบม : การพูดครับ เมื่อก่อนพูดอะไรที่มันไม่ได้อยู่ในหัวของเราครับ ต้องอ่านสคริปต์ ต้องตามสคริปต์อยู่ตลอด ซึ่งผมไม่ค่อยชอบ ผมเริ่มที่จะได้รับความสนใจมากขึ้นที่เกาหลี เริ่มได้ไปออกรายการเยอะ ๆ หลังจากที่ผมเริ่มไม่อ่านสคริปต์ครับ (หัวเราะ) เพราะว่าทุกอย่างมันจริงใจไงครับ คนดูเดี๋ยวนี้ไม่ว่าจะประเทศไหนเขาดูรู้ครับ ว่าตอนนี้จริงใจหรือตอนนี้เขาเฟคอยู่ ยุคนี้เป็นแบบนี้แล้ว เมื่อก่อนสคริปต์อาจจะปลอดภัยกว่า แต่ว่าถ้าเกิดเราสามารถคอนโทรลได้แล้ว ถ้าหัวใจของเรามันบริสุทธิ์จริง ๆ พอไม่มีสคริปต์ก็ไม่อันตรายครับ

เรื่องยากที่สุดในชีวิต ตอนที่ไปเดบิวต์อยู่ที่โน้นตอนฝึกยากที่สุดไหม ?

แบมแบม : ยากครับ ถามว่าเหนื่อยไหม เหนื่อยครับ แต่ผมก็เอ็นจอยกับช่วงเวลานั้น ๆ เพราะว่าผมก็ได้เรียนรู้หลาย ๆ อย่าง ผมว่าน่าจะมีช่วงเวลาหนึ่งที่เดบิวต์ใหม่ ๆ แล้วคนแรกที่เดบิวต์คือพี่นิชคุณที่เป็นคนไทย คือพี่เขาหุ่นดี พี่เขาหล่ออยู่แล้ว แต่ตอนที่ผมเดบิวต์แรก ๆ คือเหมือนโดนเปรียบเทียบเยอะครับผม GOT7 ทุกคนดูดีหมด แต่พอผ่านผมแล้วทำไมต้องเอาคนนี้ใส่เข้าไปในกลุ่ม การที่ได้ฟังคำแบบนั้นช่วงแรก ๆ รู้สึกว่าจากที่เด็กฝึกตอนนั้นในค่าย JYP ยอมรับกับสกิลของผมมาก เขาไม่ได้ชมมั่ว เขาไม่ชอบอะไรก็บอกไม่ชอบ ถ้าเขาชอบแล้วก็จะบอกว่ามันดี ในเด็กฝึกผมจะอยู่เป็นตัว TOP มาตลอด ไม่ว่าจะทำอะไรเรื่องงาน เรื่องซ้อม เรื่องเต้น เรื่องทัศนคติ ซึ่งตอนเป็นเด็กฝึกมันทำให้ผมมั่นใจมาก แต่พอเดบิวต์แล้วมันไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย พอมาเจอโลกจริงแล้วแบบมันเกิดอะไรขึ้นทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้ ก็น่าจะมีแค่ช่วงนั้นถ้าต้องเลือกที่เหนื่อยที่สุดนะครับ แต่ผมก็เอ็นจอยกับตรงนั้น ผมก็เลยเอาความแค้นตรงนั้นมาเปลี่ยนเป็นพลังเพื่อผลักดันตัวเองครับผม เพราะว่าผมเพิ่งจะได้ยอมรับที่ประเทศเกาหลีจริง ๆ เลยน่าจะเป็น 3 ปีที่แล้ว หลังจากที่ไม่อ่านสคริปต์ คือตอนนี้ผมอยู่ที่เกาหลีหรืออยู่ที่ไทย คือไปไหนก็มีคนรู้จักเพราะว่าตอนนี้มันเริ่มบาลานซ์กันแล้ว ตอนแรกผมไปเกาหลีไม่มีคนรู้จักเลยครับขนาดเดบิวต์ไปประมาณ 7 ปีแล้วยังไม่มีคนรู้จักเลย มีแค่แบบในวงการ K-POP เท่านั้น แต่เวลามาไทยไปไหนมาไหนหลาย ๆ คนจะรู้จักผมอยู่แล้ว แต่พอมันเริ่มบาลานซ์ผมก็เริ่มที่จะไม่ชินกับการที่คนเริ่มรู้จักผมที่เกาหลี

แปลกมาก คือเรารู้ว่า GOT7 ดังระดับโลกแต่ว่าในเกาหลีเองเขาก็อาจจะไม่ได้ติดตาม K-POP ทุกคน ?

แบมแบม : เป็นไปได้ครับ ก็ 10 ปีนะครับกว่าจะได้การยอมรับที่เกาหลีแบบนี้ครับ นานมากครับ

ในฐานะที่เป็นหนึ่งในสมาชิก GOT7 อากาเซ่มีความต้องการเหลือเกินที่จะให้มีการมารวมตัว มีการคุยกันบ้างไหม ?

แบมแบม : มีการคุยกันเรื่อย ๆ ครับผม ถามว่ากดดันไหมก็กดดันครับ เราจะกดดันที่ว่าจะสามารถทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับแฟนคลับได้ไหม ทั้งในเรื่องของเวลาด้วย ซึ่งตอนนี้มี 2 คนที่เป็นทหารอยู่ เราต้องรอให้เขาออกมาก่อน คือตอนนี้ก็มีหน้าที่ของแต่ละคนที่ต้องทำอะไรเยอะ เราก็เลยปล่อยให้ปีนี้เป็นช่วงที่ให้ทุกคนโฟกัสกับเรื่องของตัวเองไปก่อน แล้วพอ 2 คนออกจากกรมแล้วค่อยมาว่ากันอีกที คือจริง ๆ ผมรับปากว่ากลับมารวมแน่นอนอยู่แล้ว คือเพลงอะไรออกมาหมดแล้ว ทำเสร็จเรียบร้อย รอแค่เวลาที่เหมาะสมเท่านั้น

แปลว่าอาจจะปี 2025 ?

แบมแบม : ส่วนตัวผมคิดว่าแพลนที่ผมคิดว่าเป็นเวลาที่ดี คือต้นปี 2025 หรือว่ากลางปี 2025 ประมาณนั้นครับ

ในชีวิตเคยดูดวงไหม ?

แบมแบม : ดูครับผม เดบิวต์แรก ๆ ก็ดูครับ แล้วก็ไม่ได้ดูอีกเลย แล้วก็เพิ่งไปดูมาล่าสุดเมื่อต้นปีนี้ครับ เพราะว่าปีนี้มีอะไรหลาย ๆ อย่างที่ต้องทำ นาน ๆ ทีก็ลองดู

ดูกับหมอไทยหรือต่างชาติ ?

แบมแบม : เกาหลีครับผม เขาจะเป็นคล้าย ๆ ร่างทรง ไม่ได้ถึงขั้นเข้า แต่ละที่เขาก็จะดูแตกต่างกัน แต่ว่าที่ ๆ ผมไปดูเขาจะรับแค่ 50,000 วอน ถ้าเกินเขาบอกว่าจะโดนทรงของเขาทำโทษอะไรแบบนี้ครับ เขาก็จะจับเงินที่ผมให้แล้วก็ดูใบหน้าด้านซ้าย ด้านขวา เขียนชื่อวันเดือนปีเกิด แล้วเขาก็จะเริ่มวาดในกระดาษของเขา เขียนเป็นภาษาจีนบ้าง ภาษาเกาหลีบ้าง เป็นตัวเลขบ้าง ก็วาดไป 2-3 ใบ แล้วก็จะเริ่มพูดจากที่เขาเห็นก่อน ประมาณ 10-15 นาที หลังจากนั้นเขาก็จะให้ผมถามได้ 2-3 คำถามเท่านั้น ผมก็ถามไป แล้วเขาก็จะเอาที่วาดนั้นล่ะครับมาตอบกับผม ก็สนุกดีครับ

คุณอยากรู้เรื่องอะไรในปีนี้ แชร์ได้ไหม ?

แบมแบม : ได้ครับ จริง ๆ ผมก็ไม่ได้ถามอะไรมาก ถามเรื่องเวิลด์ทัวร์ แล้วก็ถามถึงว่าจนกว่าผมจะอายุ 30 ผมควรเป็นห่วงในเรื่องอะไรครับไหม และเรื่องวันจัดคอนเสิร์ตอังกอร์ที่ประเทศไทยที่กำลังเตรียมตัวอยู่ตอนนี้ครับ ผมไม่ได้สงสัยอะไรในเรื่องส่วนตัว

ส่วนใหญ่เขาจะถามกันว่าจะมีแฟนไหม ?

แบมแบม : ผมไม่ถาม เพราะว่าเรื่องนี้มันไม่ได้เกี่ยวกับดวง มันอยู่ที่ว่าถ้ามีคนที่ใช่เข้ามาก็ใช่ ถ้าตอนนี้เรามีเวลาพอที่จะสามารถเทคแคร์คนอื่นได้ก็อาจจะหาโอกาสให้ตัวเองบ้าง แต่ว่าตอนนี้ผมยังไม่ได้กลับเกาหลีมาประมาณ 4 อาทิตย์แล้วครับ บ้านผมก็จะร้างแล้วครับ (หัวเราะ) หลังจากเริ่มเวิลด์ทัวร์มาเพื่อนก็ไม่ได้เจอครับผม ส่วนใหญ่ก็จะอยู่กับทีมงาน อยู่กับแดนเซอร์ผม แล้วก็ทีมค่ายผมมากว่า

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/

Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight

Twitter: https://twitter.com/BangkokInsight

Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/

Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0