โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

‘ดาวโจนส์’ ปิดพุ่ง 450.02 จุด ข้อมูลจ้างงานอ่อนแอ หนุนคาดการณ์เฟดลดดอกเบี้ย

The Bangkok Insight

อัพเดต 04 พ.ค. เวลา 01.43 น. • เผยแพร่ 04 พ.ค. เวลา 01.27 น. • The Bangkok Insight
‘ดาวโจนส์’ ปิดพุ่ง 450.02 จุด ข้อมูลจ้างงานอ่อนแอ หนุนคาดการณ์เฟดลดดอกเบี้ย

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดซื้อขายเมื่อวานนี้ (3 พ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ "ดาวโจนส์" ทะยานขึ้น 450.02 จุดเนื่องจากการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐที่อ่อนแอเกินคาด สนับสนุนแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 38,675.68 จุด เพิ่มขึ้น 450.02 จุด หรือ +1.18% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 5,127.79 จุด เพิ่มขึ้น 63.59 จุด หรือ +1.26% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 16,156.33 จุด เพิ่มขึ้น 315.37 จุด หรือ +1.99%

ดาวโจนส์
ดาวโจนส์

ดัชนีหุ้นทั้ง 3 ตัวปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง นำโดยดัชนีแนสแด็ก ที่พุ่งขึ้นเกือบ 2% โดยได้แรงหนุนจากหุ้นแอปเปิ้ลที่พุ่งขึ้น 6% หลังจากประกาศซื้อหุ้นคืนมูลค่าสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 1.10 แสนล้านดอลลาร์

หุ้น 10 ใน 11 กลุ่มของอ ยกเว้นหุ้นกลุ่มพลังงาน ปิดตลาดในแดนบวก โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้นมากที่สุด 3.0%

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 175,000 ตำแหน่งในเดือนเมษายน ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 238,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราว่างงานปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.9% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.8%

นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐ ยังได้ปรับตัวเลขการจ้างงานในเดือนมีนาคม โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 315,000 ตำแหน่ง จากเดิมรายงานว่าเพิ่มขึ้น 303,000 ตำแหน่ง โดยภาคเอกชนมีการจ้างงาน 167,000 ตำแหน่ง ขณะที่ภาครัฐมีการจ้างงาน 8,000 ตำแหน่ง

ขณะเดียวกัน ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 3.9% ในเดือนเมษายนเมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 4.0% และเมื่อเทียบรายเดือน ค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงานเพิ่มขึ้น 0.2% ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.3%

ทั้งนี้ ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงนับเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ

ข้อมูลการจ้างงานดังกล่าว ทำให้นักลงทุนเทน้ำหนักต่อคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะลดดอกเบี้ยครั้งแรกของปีนี้ในเดือนกันยายน และปรับลดอีกครั้งในเดือนธันวาคม

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 49% ที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมเดือนกันยายน และให้น้ำหนัก 37% ที่จะลดดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.75-5.00% ในการประชุมเดือนธันวาคม

ส่วนข้อมูลจาก LSEG บ่งชี้ว่า บริษัท 397 แห่งในดัชนีเอสแอนด์พี 500 รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกออกมาแล้ว โดย 77% รายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาด

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
X (Twitter):https://twitter.com/BangkokInsight
Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
Youtube:https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0