โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

เศรษฐาย้ำ ไม่เคยกดดันให้ผู้ว่าฯ ธนาคารแห่งประเทศไทยลาออก หรือพูดว่าจะปลด ขออย่าเอาความเห็นต่างยกระดับเป็นความขัดแย้ง ต้องทำงานเพื่อประชาชน

THE STANDARD

อัพเดต 06 พ.ค. เวลา 09.12 น. • เผยแพร่ 06 พ.ค. เวลา 09.12 น. • thestandard.co
เศรษฐาย้ำ ไม่เคยกดดันให้ผู้ว่าฯ ธนาคารแห่งประเทศไทยลาออก หรือพูดว่าจะปลด ขออย่าเอาความเห็นต่างยกระดับเป็นความขัดแย้ง ต้องทำงานเพื่อประชาชน
เศรษฐาย้ำ ไม่เคยกดดันให้ผู้ว่าฯ ธนาคารแห่งประเทศไทยลาออก หรือพูดว่าจะปลด ขออย่าเอาความเห็นต่างยกระดับเป็นความขัดแย้ง ต้องทำงานเพื่อประชาชน

วันนี้ (6 พฤษภาคม) เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความเห็นต่างระหว่างรัฐบาลกับ เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่มองว่าเป็นอุปสรรคต่อการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต

เศรษฐากล่าวว่า ตนไม่เคยบอกว่าธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นอุปสรรคของเงินดิจิทัล หากมีข้อสงสัยตนก็มีหน้าที่ในการอธิบาย ส่วนนี้ไม่ใช่ปัญหา ส่วนที่มีความเห็นต่างกันตนก็ได้ชี้แจงไปชัดเจนแล้ว

เมื่อถามถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า รัฐบาลมีแนวคิดจะแก้พระราชบัญญัติเกี่ยวกับอำนาจของผู้ว่าฯ ธปท. เศรษฐากล่าวว่า ตนไม่ได้มีแนวคิด ซึ่งเป็นหน้าที่ของกระทรวงการคลังที่ต้องไปดูแล ตนไม่เคยพูดเลย อย่างไรก็ตาม ตนว่าประเด็นตรงนี้ไม่ว่าจะเป็นผู้ว่าฯ ธปท. รัฐบาล หรือสภาผู้แทนราษฎร เรามาอยู่ด้วยกันเพราะว่าเราต้องดูแลพี่น้องประชาชน เรื่องนี้สำคัญสุด ส่วนเรื่องการแก้ไขกฎหมายต้องมีการส่งเรื่องมาจากกระทรวงการคลัง ซึ่งตนยังไม่เห็นมีการส่งขึ้นมา

เมื่อถามว่า รัฐบาลประกาศเดินหน้าดิจิทัลฯ แต่ธนาคารแห่งประเทศไทยมีข้อทักท้วง จะเป็นอุปสรรคต่อการจ่ายเงินอีกหรือไม่ เศรษฐากล่าวว่า ไม่มี มั่นใจ หากมีคำถามมาก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องตอบ ซึ่งโครงการก็เริ่มเดินและเป็นไปตามแผนทุกอย่าง

เมื่อถามว่า รัฐบาลจะยื่นให้กฤษฎีกาตีความการใช้เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เมื่อใด เศรษฐากล่าวว่า จะให้ จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นผู้ชี้แจง เมื่อถามย้ำว่า มีแนวคิดที่จะแก้ไขกฎหมายลดอำนาจความเป็นอิสระของธนาคารแห่งประเทศไทยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตนไม่เคยพูด แต่อนาคตไม่ทราบ ต้องถาม พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

เมื่อถามว่า จากกระแสข่าวและภาพที่ออกมาตอนนี้ทำให้ประชาชนเกิดความสับสนเรื่องเงินดิจิทัลฯ แม้รัฐบาลยืนยันว่าได้แน่ในไตรมาส 4 โดยส่วนตัวจะมีโอกาสพูดคุยกับผู้ว่าฯ ธปท. แบบส่วนตัวเหมือนช่วงแรกๆ หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตนพูดไปชัดเจนแล้ว แต่เรื่องของเงินดิจิทัลที่บอกว่ามีปัญหาตนเพิ่งได้ยิน แต่ก็ไม่เห็นว่ามีปัญหาอะไร มีการแถลงข่าวไปเรียบร้อย แต่พวกท่านเองก็พยายามบอกว่ามีปัญหา มันไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย ตอนนี้โครงการก็เดินไปแล้ว และได้มีการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตไปแล้วเมื่อวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา ตอนนี้ทุกฝ่ายต่างคนต่างมีหน้าที่ต้องไปทำงานกัน ตรงไหนที่ต้องมีการตรวจเช็กที่กฤษฎีกาก็มีการทำงานกันไป

เมื่อถามว่า แม้นายกฯ จะบอกว่าไม่เคยมีความขัดแย้ง แต่ภาพที่ออกมาสื่อถึงความขัดแย้งระหว่างกัน นายกฯ กล่าวว่า ตนว่าอย่าดูที่ภาพดีกว่า ดูที่เนื้องานดีกว่า อย่างที่บอกเรื่องดอกเบี้ยตนชัดเจนไม่เคยปฏิเสธ ตนคิดว่าดอกเบี้ยสูงควรจะลด แต่ทางผู้ว่าฯ ธปท. บอกดอกเบี้ยไม่สูง ไม่ควรจะลด ใช่หรือไม่ ก็ชัดเจน ตนก็ต้องไปหาวิธีการอื่นที่จะบรรเทาทุกข์ของพี่น้องประชาชน โดยเชิญ 4 ธนาคารมาพูดคุย ซึ่งตนไม่เคยไปมีประเด็นอะไรกับท่านเลย ตนก็ได้เชิญธนาคารในกำกับอยู่แล้ว ก็ลดไปประมาณ 0.25% ซึ่งตนได้ขอบคุณไป และก็เดินหน้าบรรเทาทุกข์ของพี่น้องประชาชนต่อไป ตนไม่ได้ไปต่อว่าอะไรทางผู้ว่าฯ ธปท.

เมื่อถามย้ำว่า ภาพที่ออกมาเหมือนเป็นการกดดันให้ผู้ว่าฯ ธปท. ลาออก นายกฯ กล่าวว่า ผมไม่เคยพูดให้ผู้ว่าฯ ธปท. ลาออก รวมถึงเรื่องการปลดผู้ว่าฯ ธปท. ด้วยความเคารพ ถ้าท่านผู้ว่าฯ ธปท. ฟังอยู่ ผมไม่เคยกดดันนะครับ และไม่เคยพูดด้วยนะครับ ผมกดดันผมอาจจะมีการพูดคุยถึงเรื่องเนื้องานเป็นหลัก ผมเป็นผู้นำรัฐบาลพูดมาแค่นี้โดยตลอด ก็แค่นี้นะครับ

เมื่อถามว่า ดูเหมือนนโยบายการเงินการคลังไปคนละทางกันจะทำให้บริหารงานยากหรือไม่ เศรษฐากล่าวยอมรับว่า ก็มีความลำบากเหมือนกัน ซึ่งต้องมีการพูดคุยกัน อย่างที่ผู้สื่อข่าวเคยมีคำแนะนำมา ซึ่งตนก็พูดผ่าน สศค. ไป

เมื่อถามว่า ธปท. อาจจะต้องรักษาหนี้สาธารณะ ขณะที่รัฐบาลเองก็ต้องแก้ไขหนี้ครัวเรือน จะทำอย่างไรให้ประสานกันได้ เศรษฐากล่าวว่า มีหลายองค์ประกอบ หนี้สาธารณะก็เป็นเปอร์เซ็นต์ของ GDP ถ้าสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ GDP โต เราก็กู้ได้อีก เปอร์เซ็นต์ของหนี้สาธารณะก็ไม่ได้สูงขึ้น เราก็ต้องมีกรอบชัดเจน ต้องไม่สูงกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ของ GDP ตรงนี้เป็นข้อตกลงร่วมกันอยู่แล้ว ไม่ได้มีความขัดแย้งอะไร หน้าที่ตนคือเอานโยบายการคลังมาดูแลพี่น้องประชาชน มีการกระตุ้นเศรษฐกิจ

เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไรกับกระแสโซเชียลมีเดียที่ติดแฮชแท็กเซฟผู้ว่าฯ ธปท. เศรษฐากล่าวว่า ไม่มีคอมเมนต์ครับ เพราะผมมองว่าท่านไม่มีอะไรที่จะต้องถูกเซฟ เพราะท่านก็มาถูกต้อง ท่านก็มีหน้าที่ของท่าน ก็ทำงานไป หลายๆ อย่างที่ท่านทำผมเห็นด้วยก็มี ก็เหมือนกัน หลายๆ อย่างที่ผมทำเชื่อว่าท่านก็เห็นด้วย และหลายอย่างที่ผมทำก็อาจจะไม่เห็นด้วย แต่เราเป็นผู้ใหญ่ด้วยกันแล้ว อย่างน้อยนะครับ ฝ่ายผมก็มาทำเพื่อประชาชน ไม่ได้มีความตั้งใจที่จะไปขัดแย้งกับใคร ไม่มีข้อคิดเห็นที่ว่าจะต้องเซฟ ผมว่าท่านไม่ต้องการการเซฟ เพราะไม่มีใครจะไปปลดท่าน ไม่มีใครพูด รัฐมนตรีคนใหม่ก็ไม่ได้พูด ผมเองก็ไม่ได้พูดใช่ไหม

เพียงแต่ท่านแปลเรื่องเราเห็นไม่ตรงกันในบางเรื่องใช่หรือไม่ พยายามยกระดับขึ้นไปให้เกิดความขัดแย้ง แต่ผมยืนยัน ณ ที่นี้ ไม่ว่าจะในสาธารณะหรือส่วนตัวก็ตาม ผมก็พูดแบบนี้เรื่องดอกเบี้ยเรื่องเดียว ผมไม่ได้พูดเรื่องการกำกับดูแลธนาคาร หรือหนี้เสียก็ไม่ได้พูด ท่านก็ดูหนี้เสียให้มีอัตราที่ดีแล้ว

ผมก็มั่นใจว่าสิ่งที่รัฐบาลทำอยู่ในหลายๆ เรื่อง เช่น การลงพื้นที่ใน 2 วันที่ผ่านมา ก็เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน แต่เราก็ไม่เห็นด้วยในเรื่องการลดดอกเบี้ย ก็ต้องว่ากันไป ซึ่งผมก็มีวิธีการที่จะดูแลปัญหาตรงนี้ เช่น เชิญผู้บริหารธนาคารมาคุยซึ่งเป็นธนาคารรัฐ เพื่อบรรเทาความทุกข์ยากของพี่น้องประชาชน

ทั้งนี้ มีรายงานว่าการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีเป็นที่น่าสังเกตว่า จุดที่วัดท่าสะแบง ตำบลมะบ้า อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ของพรรคเพื่อไทยให้การต้อนรับ แต่ปรากฏว่า สุภาพร สลับศรี สส. ยโสธร พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) มายืนรอต้อนรับนายกฯ ร่วมกับ สส. พรรคเพื่อไทย โดยก่อนหน้านี้สุภาพรได้ไปต้อนรับและถ่ายรูปกับ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งอยู่ระหว่างพักโทษ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย (พท.) เมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมาด้วย

0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0