โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ตวัดปลายแปรงเติมแต่งความฝัน.. บนเส้นทางที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบดอกไม้ของช่างแต่งหน้าที่ชื่อ ‘อาร์ต-ศุภเศรษฐ์ พึ่งสุจริต’ (Destiny Melody)

INTERVIEW TODAY

เผยแพร่ 09 มิ.ย. 2564 เวลา 17.00 น. • pp.p

ยังคงต่อเนื่องกับช่วงเดือนแห่ง Pride Month หรือเดือนแห่งความภาคภูมิใจของกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+) ด้วยอาชีพที่เชื่อว่าหลายๆ คนจะต้องนึกถึงเป็นอันดับแรกๆ นั่นก็คือ ‘เมคอัพอาร์ทิสต์’ เพราะนอกจากจะมีบุคคลที่มีชื่อเสียงโลดแล่นให้เห็นมากมาย ยังเป็นอาชีพในฝันของอีกหลายๆ คน เพราะเป็นงานที่ได้ปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ ใช้จินตนาการอย่างเต็มที่ สัปดาห์นี้เรามีโอกาสได้พูดคุยกับคุณอาร์ต หนึ่งในช่างแต่งหน้ามากประสบการณ์ผู้อยู่เบื้องความสวยความหล่อของเหล่าดาราและพิธีกรหลายรายการ..

แนะนำตัว

“ชื่อจริงชื่อ ศุภเศรษฐ์ พึ่งสุจริต หรือที่ทุกคนจะรู้จักในนาม ‘Destiny Melody’ ค่ะ เป็นช่างแต่งหน้าอิสระ รับงานแต่งหน้าทั่วไป และอยู่กองถ่ายละครเป็นหลักค่ะ”

จุดเริ่มต้นการเดินเส้นทางสายอาชีพนี้

“เริ่มแรกเลยคือตั้งแต่ตอนเด็กๆ ชอบวาดรูป ชอบเรื่องความสวยความงาม ชอบเครื่องสำอาง ก็คือค้นพบตัวตนมาตั้งแต่เด็กๆ ชอบอ่านแมกกาซีนแฟชั่นบิวตี้ ชอบดูงานแต่งหน้านางแบบดาราที่ขึ้นปก แล้วลองวาดรูปตามจากภาพที่เห็นในแมกกาซีน จากนั้นก็ลองเริ่มมาแต่งหน้าจริงๆ ตอนเรียนมหาวิทยาลัย เราเรียนเกี่ยวกับศิลปะการละครก็จะมีวิชาแต่งหน้า พอได้ลงเรียนจนเริ่มเข้าที่ ก็ไปอาสารุ่นพี่ที่ต้องทำธีสิสละครตอนจะเรียนจบ ขอไปเป็นหนึ่งในทีมงานอยู่ฝ่ายแต่งหน้าฝึกปรือฝีมือสั่งสมประสบการณ์ไปเรื่อยๆ จากงานละครเวทีมหาวิทยาลัยก็เริ่มตามรุ่นพี่ไปทำงานระดับโรงละคร อยู่ที่โรงละครกรุงเทพ แล้วก็ไปเรียนเพิ่มที่สถาบัน MTI สมัยก่อนย้อนไปประมาณ 20กว่าปีที่แล้ว ใครอยากเป็นช่างแต่งหน้าต้องไปเรียนที่นี่ รับใบประกาศจากเจ้ากอแก้ว ประกายกาวิล ณ เชียงใหม่ สมัยนั้นท่านดังมาก เป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของเราเลยนะ สมัยนั้นแวดวงความงามอะไรดีอะไรเด็ดต้องเป็นเจ้าป้าการันตีให้”

“จากนั้นก็มีรุ่นพี่มาชวนไปแต่งหน้าให้รายการทีวี รายการแรกเลยคือรายการ ‘แวร์เอฟเวอร์’ (wherever) ตอนนั้นมีอ้น สราวุธ เป็นพิธีกร ก็ได้มีโอกาสแต่งหน้าให้ดาราแขกรับเชิญหลายคน ทำประจำอยู่รายการนี้มาเรื่อยๆ จนกระทั่งรายการปิดตัวลง จากนั้นน้องที่เป็นพีอาร์ของรายการนี้ก็ย้ายไปอยู่ที่รายการ ‘สตรอเบอรี่ชีสเค้ก’ ก็ชวนเราไปร่วมทีมเป็นช่างแต่งหน้าประจำให้รายการนี้ตั้งแต่ปีแรกจนถึงเทปออกอากาศเทปสุดท้ายเลย ตลอด 6 ปีอยู่กับรายการนี้มา พอจบรายการไปก็มีทีมงานชวนมาทำละคร ก็เลยแต่งหน้าให้กองละครไปด้วย แล้วก็รับแต่งหน้าทั่วไปเป็นงานเสริม”

“จนกระทั่งมีโอกาสได้เป็นหนึ่งในทีมแต่งหน้าให้ละครสุภาพบุรุษจุฑาเทพ พอจบจากงานนั้นทีมงานซึ่งเป็นทีมของป้าแจ๋ว (ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์) เขาจะเปิดกองละครเรื่องใหม่ก็ชวนไปทำด้วยกัน จึงได้มีโอกาสรู้จักกับป้าแจ๋ว แล้วก็ทำงานให้ละครของป้าแจ๋วเรื่อยมา รู้ตัวอีกทีตอนนี้ก็ 8ปีกว่าแล้วค่ะ”

ศาสตร์ในการแต่งหน้าแต่ละโอกาสมีความเหมือนหรือต่างกันอย่างไร?

“ตอนที่ไปเรียนแต่งหน้าก็ได้พบว่าการแต่งหน้านั้นเป็นศาสตร์ที่มีหลายแขนงเลย แต่งหน้าออกทีวี - ออกงานอิเวนท์ – เดินแฟชั่นโชว์ - ถ่ายแบบแฟชั่นภาพนิ่ง ฯลฯ แต่ละโอกาสก็ใช้ศาสตร์ที่แตกต่างกันไป ยกตัวอย่างความแตกต่างของเนื้องานที่จะเห็นได้ชัดที่สุดก็คือเรื่องค่าของแสงไฟสปอทไลท์ที่ใช้ส่องลงมา ไฟที่ใช้ส่องบนเวทีแฟชั่นโชว์ก็มีค่าของแสงไม่เหมือนกับไฟที่ส่องในกองละคร หรือการแต่งหน้ารับปริญญาออกไปเจอแสงธรรมชาติ แต่ละงานก็ต้องใช้หลักในการเลือกเฉดของรองพื้นแตกต่างกัน แต่ละสถานการณ์ต้องใช้เทคนิคที่ต่างกัน ซึ่งพอเรารับงานทุกอย่างก็ทำให้ได้ฝึกฝนอยู่เรื่อยๆ ทำให้สิ่งที่ได้เคยร่ำเรียนมานั้นไม่ลืมหรือหายไปไหน งานทุกจะถูกกำหนดโดยเจ้าของคอนเซ็ปต์นั้นๆ อย่างเช่นงานเดินแฟชั่นโชว์ก็ต้องคุยกับดีไซเนอร์เจ้าของคอลเลคชั่น เขาต้องการการแต่งหน้าสไตล์ไหนที่จะเข้ากับเสื้อผ้าของเขา เรามีหน้าที่ทำตามโจทย์ที่เขามอบหมายและทำออกมาให้สวยที่สุด ซึ่งตรงนี้ประสบการณ์จะเป็นสิ่งที่สอนเราเอง”

สีสันความสนุกของเส้นทางสายอาชีพนี้

“ความสนุกของงานนี้คือการได้พบเจอกับผู้คนเยอะแยะมากมาย แต่ละงานก็ไม่ซ้ำกัน แม้จะเป็นงานเดียวกันอย่างตอนที่รับงานแฟชั่นโชว์งานเดียวติดกัน 5วัน บรรยากาศในการทำงานและทุกอย่างที่ได้เจอก็จะไม่เหมือนกันเลยสักวัน ทั้งโจทย์ที่ได้รับมอบหมาย หรือเพื่อนร่วมงานที่ผลัดเวียนมาเจอกันบ้าง ได้เพื่อนใหม่บ้าง สำหรับเราที่ชอบพบปะผู้คนถือว่าเป็นงานที่สนุกและมีความสุขมากๆ”

อุปสรรคในการทำงาน และผ่านมันมาได้อย่างไร?

“ด้วยความที่พบปะผู้คนเยอะ และการทำงานส่วนใหญ่เป็นทีมที่ค่อนข้างใหญ่ บางครั้งก็จะมีความคิดเห็นที่ไม่ค่อยตรงกัน อุปสรรคก็คือการปรับมุมมองให้มองไปในทิศทางเดียวกัน ด้วยความที่มันเป็นเหมือนงานศิลปะ บางทีสวยของเขากับสวยของเรามันไม่เหมือนกัน แต่มันก็ปรับเข้าหาไม่ยากหาก เรามีคนเจ้าของคอนเซ็ปต์เป็นคนสรุปทิศทางของงานชิ้นนั้นว่าต้องการให้ออกมาเป็นแบบไหน เคยทำงานกับทีมงานต่างชาติก็พบว่านิยามความสวยของแต่ละชาติก็ไม่เหมือนกันอีก ทีมงานไทยจะชอบให้แต่งหน้าแบบกลมกลืนไปกับสีผิว แต่กับบางงานก็ชอบให้ปรับสีผิวให้ขาวที่สุดเท่าที่จะทำได้ หรือบางงานก็ขอให้ปัดชิมเมอร์วาวๆ จัดเต็มจนบางทีเราเองยังตกใจ แต่เราก็จัดให้ได้ตามคำขอ”

“อีกอุปสรรคที่เคยเจอในส่วนของการถ่ายละครคือเรื่องของความต่อเนื่องของการทำงาน หลายคนคงทราบกันว่า 1 วันในละครบางทีก็ต้องใช้เวลาในการถ่ายทำมากกว่า 1วันในชีวิตจริง เราต้องจดจำรายละเอียดทุกอย่าง เช่นจำว่าฉากนี้นางเอกแต่งหน้าแบบนี้ ทาลิปสติกสีนี้นะ ถ่ายคนละวันกันแต่เป็นฉากเดียวกันก็ต้องแต่งออกมาให้เหมือนเดิม สวยแบบแนบเนียนที่สุด ถ้าเราทำตามใจเราโดยไม่จำรายละเอียดมันอาจจะพลาดในแบบที่ นางเอกเดินเข้าบ้านผ่านประตูแล้วสีปากเปลี่ยนก็เป็นได้ ดังนั้นทำงานตรงนี้ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบให้มาก ผิดพลาดไม่ได้ มีสายตาหลายคู่ที่จับจ้องมองเห็น”

“แต่ถ้าเล่าย้อนไปยังสมัยที่เริ่มวัยทำงาน ยังเป็นเด็กใหม่ในวงการ อุปสรรคตอนนั้นน่าจะเป็นเรื่องของโอกาส บางครั้งการที่เรามีงานเข้ามาก็จริง แต่เวลาทำงานมันก็ไม่ได้ราบรื่นเสมอไป เคยไปเป็นทีมแต่งหน้าให้บรรดานางแบบเดินแฟชั่นโชว์ ปรากฏว่าไม่มีนางแบบคนไหนมานั่งให้เราแต่งหน้าให้เลย เราก็เข้าใจเขานะเพราะเรามาใหม่ เขาอาจจะยังไม่มั่นใจในฝีมือของเรา เคยมีนางแบบที่คุ้นหน้าคุ้นตากันเขาสงสารมานั่งให้เราแต่งหน้าให้ แต่สุดท้ายเราก็เห็นเขาแอบไปล้างออกอยู่ดี ตอนนั้นเรายังเป็นเด็ก เจอแบบนั้นเข้าไปก็รู้สึกเสียใจนะ เคยร้องไห้เหมือนกัน แต่พอเวลาผ่านไปก็เข้าใจได้”

ประสบการณ์สนุกๆ ในการทำงาน

“เรารับงานแต่งหน้าหลายแบบ ก็จะเจอเรื่องสนุกอยู่เรื่อยๆ อีกเรื่องที่อยากเล่าให้ฟังคือนอกจากงานแต่งหน้านั้น ก็เคยได้รับเชิญให้ไปสอนแต่งหน้า สอนเรื่องการดูแลตัวเองให้กับแอร์โฮสเตสกับสจ๊วต สมัยนั้นเขามีวิชาที่ต้องลงเรียนเพื่อใช้ในการปฏิบัติงานจริง มีงานอบรมหลักสูตรบุคลิกภาพพนักงานในส่วนของการแต่งหน้าเราก็รับสอน ตอนนั้นสวมบทบาทวิทยากรให้ความรู้ เหมือนเป็นครูอาจารย์ก็สนุกดีเหมือนกัน ต้องขอบคุณทุกงานทุกโอกาสที่เข้ามา ทำให้เราได้มีโอกาสเรียนรู้ สั่งสมประสบการณ์อยู่เรื่อยๆ”

ความประทับใจที่ได้จากอาชีพนี้

“เวลางานของเราปรากฎสู่สายตาสาธารณะ ทุกงานไม่ว่าจะเป็นงานถ่ายโฆษณาที่เราไปแต่งหน้าให้ เวลาเราเห็นเราก็มีความสุข มันเป็นความภูมิใจ แต่ที่ตื่นเต้นทุกครั้งคือเวลาละครที่เราเป็นทีมแต่งหน้าให้ออกอากาศ เราจะรอลุ้นเลยว่าชาวเน็ตจะว่าอะไรไหม จะถูกใจแฟนคลับรึเปล่า ชื่อของเราได้ออกทีวีเป็นหนึ่งในทีมงานเราก็รู้สึกปลาบปลื้ม หรือบางทีแค่ไปแต่งหน้างานแฟชั่นโชว์แล้วนางแบบลงรูปในอินสตาแกรมแล้วแท็กมา แค่นี้เราก็อมยิ้มได้แล้ว คือมีความสุขกับทุกผลงานเลยค่ะ”

อย่างที่เราได้เห็นหันแล้วว่าอาชีพนี้ต้องทำงานกับผู้คนมากมายในระยะที่เรียกว่าอยู่ระยะชิดใกล้จนแทบจะหายใจรดกัน และนั่นเป็นปัญหาใหญ่ในการทำงานในยุคนี้ที่ยังคงต้องรักษาระยะห่าง และงานต่างๆ มีอันต้องสะดุดไป แต่เขาคนนี้ก็หาได้ย่อท้อ

วิธีรับมือกับสถานการณ์โควิดที่อยู่ยากอย่างนี้ได้อย่างไร?

“ช่วงนี้ก็ต้องยอมรับว่าไม่มีงานเลยค่ะ เชื่อว่าทุกคนทุกอาชีพได้รับผลกระทบจากภาวะนี้ เราก็ต้องคิดเสียว่าเป็นเวลาที่ต้องพักผ่อนอยู่บ้านก่อน ยังไม่คิดจะเบนเข็มเปลี่ยนสายอาชีพ เหตุผลแรกคือเราอาศัยอยู่ในคอนโด เราไม่สามารถเปิดร้านทำอาหารขายได้แน่นอน ยิ่งระลอกนี้ที่รุนแรงมาก ตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงอย่างต่อเนื่อง เราไม่กล้าออกไปไหน จะไกลสุดก็คงแค่ร้านค้าที่หน้าปากซอย ดังนั้นจะไปหาวัตถุดิบอะไรก็คงลำบาก ทุกวันนี้โชคดีที่พอมีเงินเก็บอยู่บ้างก็กินอยู่อย่างประหยัดให้ได้มากที่สุด เพื่อนๆ หลายคนยุให้เปิดช่องยูทูปหรือทำคลิปให้ความรู้สอนแต่งหน้าหรือรีวิวแนะนำเครื่องสำอาง แต่เรายังไม่ได้ตัดสินใจ เพราะยังไงเราก็ยังรักงานแต่งหน้าเป็นงานหลักมากกว่า อาจจะต้องรอจนกว่าทุกอย่างจะเริ่มดีขึ้น คงจะสามารถออกไปทำงานได้เหมือนเดิม”

ฝากถึงคนที่อยากจะก้าวเข้ามายังเส้นทางนี้บ้าง

“สมัยนี้โลกมันกว้างขึ้นมาก อยากเรียนรู้อะไรหาข้อมูลได้ไม่ยาก ทั้งยูทูป อินสตาแกรม และอีกหลายๆ ช่องทาง เด็กสมัยนี้ได้เปรียบกว่าเมื่อสมัยยี่สิบสามสิบปีก่อน อยากให้มองหาโอกาสให้ได้แล้วคว้ามันเอาไว้ ถ้ามีความตั้งใจก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะเรียนรู้ และยังใช้ช่องทางเดียวกันนั้นในการโชว์ผลงาน โชว์ของที่เรามีให้โลกได้รู้ ใส่แฮชแท็กเข้าไปเลยค่ะ ถ้าฝีมือเราดี เป็นที่ถูกใจ งานจะเข้ามาหาเราแน่นอน เคยมีรุ่นพี่สอนเอาไว้ว่า ‘ทำงานของเราให้ดี แล้วงานจะพาเราไปยังที่ที่เราอยากไป’ ซึ่งเราเห็นด้วยนะ และสิ่งที่เราได้รับในวันนี้ โอกาสต่างๆ ที่เข้ามาเราเชื่อว่าเป็นเพราะเราตั้งใจและทุ่มเทให้กับการทำงาน เราถึงได้รับโอกาสและมีวันนี้ได้ ก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆ คนที่มีความฝันค่ะ”

สำหรับใครที่อยากทำความรู้จักผลงานของเขาคนนี้ สามารถติดตามได้ที่ IG: destiny_melody2454

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0