Stewart Butterfield ผู้ก่อตั้ง Flickr กับ Slack แตกต่างจากคนส่วนใหญ่ในซิลิคอนวัลเลย์ ความที่ใช้ชีวิตวัยเด็กในชุมชนที่ห่างไกลของแคนาดา หลังจากบิดาหนีออกจากสหรัฐเพื่อจะได้ไม่ต้องไปร่วมรบในสงครามเวียดนาม
พ่อแม่ของเขาหอบหิ้วลูกน้อยไปอยู่ที่เคบินในป่ารัฐบริติช โคลัมเบีย ซึ่งไม่มีทั้งน้ำประปาและไฟฟ้าใช้เป็นเวลา 3 ปี
ต่อมาครอบครัวได้ย้ายไปอยู่เมืองวิคตอเรีย ซึ่งเป็นที่ๆ Butterfield ได้พบเจอคอมพิวเตอร์ครั้งแรกตอน 7 ขวบและเรียนเขียนโปรแกรมจากนิตยสารคอมพิวเตอร์ โดยอาศัยคอมพิวเตอร์ที่พ่อแม่ซื้อมา
พออายุ 12 ปี เขาก็เรียนเขียนเกมคอมพิวเตอร์ง่ายๆ แต่เลิกสนใจคอมพิวเตอร์ไปตอนเรียนมัธยมและศึกษาปรัชญาในระดับมหาวิทยาลัยจนกระทั่งจบปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ของอังกฤษ จากนั้นก็เตรียมตัวเป็นอาจารย์ในปี 2540 ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่อินเทอร์เน็ตกำลังมาแรง
คนที่มีความรู้ในการทำเว็บไซต์พากันย้ายไปซานฟรานซิสโก Butterfield ซึ่งมีเพื่อนที่หาเงินได้มากกว่าอาชีพอาจารย์ 2-3 เท่า จึงตื่นเต้นกับเรื่องนี้ และทำงานเป็นเว็บดีไซเนอร์อยู่หลายปี
เขาเปิดตัวเกมออนไลน์เมื่อปี 2545 กับภรรยาซึ่งต่อมากลายเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Flickr แต่เกมนี้ไม่รุ่ง ทั้งคู่เกิดเงินขาดมือและต้องหามาแผนการสำรองเพื่อหาเงิน จนปิ๊งไอเดีย Flickr และพัฒนาแพลทฟอร์มแชร์รูปในเวลาเพียง 3 เดือน
Flickr เปิดตัวในปี 2547 และเป็นเว็บไซต์แรกๆ ที่เปิดโอกาสให้ผู้คนอัพโหลด แชร์ และคอมเมนต์รูปภาพ
ในปีต่อมา สองผู้ก่อตั้งได้ขายบริษัทนี้ให้ยาฮูเป็นเงิน 25 ล้านดอลลาร์
จากนั้น Butterfield กับเพื่อนๆ ก็เขียนเกมออนไลน์ออกมาอีก และก็ไม่รุ่งอีก แต่ก็จุดประกายความคิดให้เขา
นั่นเป็นที่มาของ Slack บริการที่มีผู้ใช้วันละ 8 ล้านยูสเซอร์ ซึ่งในจำนวนนี้ 3 ล้านยูสเซอร์จ่ายเงินเพื่อฟีเจอร์ล้ำสมัย และมีลูกค้าภาคธุรกิจกว่า 70,000 ราย
Slack เปิดโอกาสให้พนักงานสื่อสารกัน และขยายตัวอย่างรวดเร็ว เพราะมีลูกค้ารายใหญ่ๆ อย่าง IBM, Samsung, 21st Century Fox และ Marks & Spencer
หลังจากการระดมทุนหลายระลอก Slack มีมูลค่ามากกว่า 5,000 ล้านดอลลาร์
ขณะที่ Butterfield ซึ่งมีวัย 46 ปี มีสินทรัพย์ 650 ล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน
การสะสมสินทรัพย์ได้จำนวนมาก ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเติบโตมาแตกต่างจากคนทั่วไป ซึ่งทำให้เขามีนิสัยมัธยัสถ์เป็นพิเศษ และบอกว่ารู้สึกผิดหากใช้จ่ายเงินมากเกินไป