โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

“ซีซั่นนี้ ดราม่าเก่งงง” เคลียร์ประเด็นดราม่า THE FACE ALL-STARS จาก 3 หนุ่ม

LINE TODAY

เผยแพร่ 26 มี.ค. 2561 เวลา 08.36 น. • @mint.nisara

กระแสแรงไม่มีตกเช่นไร ดีกรีความดราม่าในรายการ THE FACE 4 ALL-STARS ก็เพิ่มความคุขึ้นในทุกอาทิตย์เช่นนั้น ทั้งการจิกกัดระหว่างเมนเทอร์แต่ละทีมที่ไม่มีใครยอมใคร ไหนจะประเด็นที่ว่าบางคนมาแข่งในรายการแบบไม่ได้ตั้งใจ มาเล่นๆ ไปงั้นๆ วันนี้ LINE TODAY ได้คิวของ 3 หนุ่มจากรายการ ทั้ง อติล่า-อาร์เธอร์ อภิชาติ กานโยซ์, นิคกี้ บุญธรรม และ โจเซฟ แองเจโล เราเลยขอเจาะทุกประเด็นที่เกิดขึ้นแบบเน้นๆ รวมถึงทำความรู้จักพวกเขาให้มากยิ่งขึ้น อ่านต่อได้ในบทสัมภาษณ์นี้เลย

ความยากง่ายของการมารวมตัวกันใน ALL-STARS มันเป็นยังไง

นิกกี้: จริงๆ มันก็คือรูปแบบเดิมนะ แต่ผมว่าที่เพิ่มเข้ามาคือความท้าทายของโจทย์ เพราะคราวนี้มีทั้งผู้ชายและผู้หญิง ทำให้ความหลากหลาย มันเพิ่มมากขึ้น บางครั้งที่โจทย์เอื้อให้กับผู้หญิง พวกเราก็ต้องออกมาจากคอมฟอร์ตโซนและความถนัดของตัวเอง อย่างเช่น วีคที่แต่งเป็น DRAG หรือเวลาที่ต้องพรีเซนต์สินค้าที่เป็นเครื่องสำอางสำหรับผู้หญิง

โจเซฟ: ผมว่าความยากของครั้งนี้คือทุกแคมเปญจะมีกับดักตลอด มีอุปสรรคเล็กๆ น้อยๆ ที่ให้พวกเราต้องฝ่าไปตลอด อย่างอีพีแรกที่เป็นแคทวอล์ก เค้าก็มีทั้งหินและน้ำดักเอาไว้ ต้องมีสติตลอดเวลา เพราะถ้าทำพลาดไปนิดเดียวก็คือวื้ดเลย

เท่ากับว่าประสบการณ์ในซีซั่นที่ผ่านมาไม่ค่อยได้ช่วยเท่าไหร่?

อติล่า: ช่วยๆ มันช่วยนะครับ แต่ก็ไม่ได้หมายถึงว่าจะทำให้โจทย์มันง่ายขึ้น ฮ่าๆ 

นิกกี้: ถ้าเราไม่ได้มีประสบการณ์ปูพื้นมาจากซีซั่นที่แล้ว คราวนี้น่าจะทำไม่ได้เลย เหมือนเค้าคาดหวังว่าคนที่มาทำอันเนี้ย คือต้องผ่านมาแล้ว โจทย์คราวนี้เพิ่มความซับซ้อนให้ยากขึ้น

โจเซฟ: ความกดดันอยู่ที่ผู้หญิงมากกว่านะ เพราะส่วนใหญ่โจทย์มาสเตอร์คลาสที่เข้ามาจะเป็นของผู้หญิง พวกเมคอัพโปรดักท์ ซึ่งการแข่งขันจะไปอยู่ที่ผู้หญิงละ ผู้ชายอย่างเราเลยกลายเป็นเหมือนพรอพในรายการไปเลย

มีโมเมนต์ที่น้อยใจบ้างไหม?

นิกกี้: ก็รู้สึกนะครับบางที แต่ก็เป็นการชาเลนจ์ตัวเองที่ดีเลย

อติล่า: รู้สึกนิดหน่อย แต่สุดท้ายแล้วมันคือความท้าทาย จากที่ทุกคนมองว่าผู้ชายทำไม่ได้แต่เราทำให้เค้าเห็นว่าเราทำได้

เห็นความเปลี่ยนแปลงของตัวเอง จากซีซั่นที่แล้วมาซีซั่นนี้อย่างไรบ้าง

โจเซฟ : สำหรับผมคือความมั่นใจในตัวเอง แล้วก็เรื่องภาษาไทยด้วย ก่อนหน้านี้ ผมไม่ค่อยได้พูดภาษาไทยในชีวิตประจำวันเลย ถึงจะเกิดที่ขอนแก่น แล้วย้ายไปอยู่ที่ภูเก็ตก็ตาม เพราะว่าไปโรงเรียนนานาชาติและที่ภูเก็ตก็มีแต่คนต่างชาติ ภาษาผมเลยค่อนข้างมีลิมิตมากๆ ตอนมากรุงเทพใหม่ๆ นี่มันคุยไม่ได้เลยครับ พูดติดอ่างตลอด

อติล่า : จริงครับ โจเซฟเก่งขึ้นมาก คุยกันรู้เรื่อง ผมก็แฮปปี้สำหรับเค้าละครับ ส่วนผม ผมคิดว่าซีซั่นนี้เรามาด้วยความมุ่งมั่นที่ใหม่จากคราวที่แล้ว เหมือนครั้งที่แล้วเรายังไม่กล้าที่จะเป็นตัวเอง ยังมาลองผิดลองถูก ทำยังไงก็ได้ให้เซฟที่สุด มาครั้งนี้ทุกคนเก่งกันมาก เราเลยต้อง push ตัวเองแบบสุดๆ ออกจากกรอบที่เคยวางไว้ ทำในสิ่งที่เรากลัว ทำให้เต็มที่ แล้วก็ปล่อยของให้มากที่สุด ผมใส่ไป 200% เลย

โจเซฟ : ผมว่าครั้งนี้ไม่ได้เครียดเหมือนตอน THE FACE MEN นะ ผมยังไม่รู้จักอะไรเลย ตอนนั้นเพิ่งย้ายมากรุงเทพ เริ่มเข้าวงการ แต่ตอนนี้มีประสบการณ์มากขึ้น เราเลยรู้สึก comfortable กับมันขึ้น ไม่ได้ซีเรียสมาก แต่ก็ยังอยากชนะอยู่นะ ฮ่าๆ แต่ไม่เครียดๆ

นิกกี้ : ของผมน่าจะเป็นความเข้าใจในอะไรหลายๆ อย่าง แล้วก็เรื่องนึงที่เห็นได้ว่าผมเข้าใจมากขึ้นที่สุดก็คือเรื่องการแสดงครับ เราเริ่มได้จับงานทางนี้มากขึ้น เริ่มมีคนอินกับผลงานมากขึ้นแล้วก็ได้รับฟีดแบคที่ดีด้านนี้มากขึ้น

จากเมนเทอร์ชายเป็นเมนเทอร์ผู้หญิงในครั้งนี้ ดุกว่าไหม?

โจเซฟ : ของผม เมนเทอร์พี่บีกับพี่ริต้า เค้าไม่ได้กดดันนะ จะเป็นการดุแบบโดยรวมมากกว่า

อติล่า : ดุแบบลับหลังเปล่า ฮ่าๆ

โจเซฟ : ไม่ๆๆ ต่อหน้าและดุพร้อมกันทุกคน แต่ก็ไม่เหมือนตอนพีชนะ ตอนนั้นชิลมากเพราะพีชก็เป็นเพื่อนๆ กัน พี่บีเป็นเหมือนคุณแม่ ส่วนพี่ริต้าเป็นคุณแม่คนที่สองมากกว่า Mother of Dragons, you know? สองคนนี้เค้าก็จะมีสไตล์ที่ต่างกัน พี่ริต้าจะเป็นคนที่แบบแพลนทุกอย่างไว้ล่วงหน้าตลอด 5 สเต็ปล่วงหน้าอยู่ในหัวละ ส่วนพี่บีเค้าก็จะเป๊ะเหมือนกัน แต่เน้นให้เราใช้ทีมเวิร์กมากกว่า ซึ่งพี่ๆ ทั้งสองคนก็อบอุ่นและเฟรนด์ลี่มากๆ ครับ

อติล่า : ผมถนัดทำงานกับผู้หญิงมากกว่า ไม่รู้ทำไม อาจจะเป็นเพราะเอเนอร์จี้ในผู้หญิงที่แตกต่างกับผู้ชาย และผมเป็นคนที่เข้ากับเอเนอร์จี้นี้ได้ดี พี่พิมก็คนที่มีประสบการณ์มาแล้ว ส่วนพี่พลอยก็เป็นมืออาชีพมากๆ เขาตอบโจทย์สิ่งที่เราต้องการ เหมือนมีทั้งแม่ทั้งพี่สาวที่คอยไกด์เรา ผมชอบนะ

ฟีดแบคจากคนดูที่ว่านิกกี้เหมือนมารายการเล่นๆ และไม่เคารพผู้ใหญ่ ความจริงเป็นอย่างไร? 

นิกกี้ : ผมว่าการรับรู้ของคนที่ดูรายการมันจะไม่เหมือนตอนที่เราถ่ายทำกันจริงๆ นิดนึง อย่างประเด็นดราม่าที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อนๆ มันคือผมกับเติร์ท แต่ตอนที่ถ่ายกัน เราสองคนก็ไม่ได้เล่นอะไรกันขนาดนั้นนะ พี่เค้าก็ดุทุกคนตอนก่อนที่กล้องจะมา แล้วพอกล้องมาถ่ายจริงๆ มันเหมือนเราต้องนั่งฟังเรื่องเดิมๆ 3 รอบ เพราะพี่เค้าก็ต้องพูดแบบเดิมใหม่หน้ากล้อง กิริยามารยาทผมเลยออกมาในทางที่ว่าผู้ใหญ่กำลังสั่งสอน ทำไมถึงไม่เคารพ ซึ่งมันออกมาจากการตัดต่อด้วย อีกส่วนที่โดนคอมเมนต์มาก็คือคนบอกว่าผมมาเล่นๆ ไม่ได้ตั้งใจที่จะมาแข่ง คือผมไม่ได้คิดอะไรเลยตอนพูด ออกแนวติดตลกด้วย พอตัดออกมาเลยกลายเป็นแบบนั้นไป

อติล่า : เหมือนตอนนั้นเค้าปั่นด้วย พวกเราก็เป็นพวกชอบพูดตามที่เค้าคาดหวังอยากให้เราพูดโดยที่ไม่ได้คำนึงว่าตัดออกมาแล้วมันจะเป็นยังไง 

นิกกี้ : ใช่ พอในรายการ มันเลยดูเหมือนผมไม่แคร์ใครเลย เรามาเพื่อตัวเอง ซึ่งจริงๆ แล้วผมก็มาเพื่อตัวเองจริงๆ แหละเพราะผมก็หวังที่จะชนะ และผมก็รักทีมผมเหมือนกัน 

เคยโดนคอมเมนต์ไหนที่เรารับไม่ได้บ้างไหม

นิกกี้ : ก็มีบ้างเหมือนกัน ปกติแล้วผมก็ไม่ได้แคร์กับความคิดเห็นคนอื่นเท่าไหร่ถ้ามันไม่ได้สำคัญ แต่จากบางคนที่เป็นใครก็ไม่รู้ มาพูดเหมือนเขารู้จักผม ว่าเราเป็นขยะ และพูดจาแย่ๆ โยงไปถึงพ่อแม่ผม มันทำให้ผมรู้สึกแบบว่าคุณเป็นใครกัน มาพูดอย่างนี้บนพื้นที่ของผมแล้วโกรธตอนที่ผมตอบกลับ มันไม่ใช่อ่ะ 

บางคนบอกว่ารายการนี้มีการวางบทไว้หมดแล้ว…

โจเซฟ :​ ไม่มีสคริปต์ครับ ทุกอย่างคือการไหลไปตามโมเมนต์ อย่างตอนที่เมนเทอร์ 3 ทีมมาเจอกันหลังจากห้องดำแล้วเค้าจะเริ่มจิกกัดกัน อันนั้นก็คือเค้าก็ฉะกันจริงๆ เลย

นิกกี้ : เหมือนโชว์จะมาพร้อมกับโครงสร้างใหญ่ๆ พวกดีเทลทุกคนก็ต้องไปใส่กันเอาเอง

อติล่า : ทีมโปรดักชั่นจะใช้วิธีสังเกตรายละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างแล้วเจาะเอามากกว่าครับ

ความสนใจ ความเป็นจริง และความฝัน

โจเซฟ : ผมชอบ Clowning กับ Physical Theatre ไปเรียนที่อังกฤษมา 3 ปีเกี่ยวกับการละคร ได้ทาหน้า ทาทุกอย่าง ก็เลยได้ใช้สกิลตรงนี้ที่นี่ มันรู้สึกสุดยอดมากเลยครับที่ได้ปล่อยของ

นิกกี้ : ก่อนหน้านี้ผมเคยเป็นนักเทนนิสกึ่งๆ มืออาชีพ แต่ตอนนี้ไม่ได้ทำตามความฝันนั้นต่อแล้วเพราะมันต้องอุทิศตัวเองให้กับอาชีพนี้เยอะมากและต้องใช้เงินเยอะมากด้วย ตอนนี้เลยทำธุรกิจนำเข้า – ส่งออกของตัวเองครับ หุ้นกับเพื่อนอีก 2 คน ความฝันของผมคือวันหนึ่งผมอยากจะเป็น Billionaire Dog Lover ครับ ตอนนี้ชอบหมา แต่ยังไม่ได้เป็นมหาเศรษฐี ฮ่าๆ

อติล่า : มีโรงเรียนสอนกังฟูอยู่ที่สุทธิสาร เวลาถ่ายรายการเสร็จผมก็เข้าไปสอนครับ เป็นเหมือนเป้าหมายในชีวิตของผมเลย เพราะผมได้รับเลือกจากชิฟู (อาจารย์สอนกังฟู) ให้เป็นทายาทรุ่นต่อไป ผมเลยตั้งใจที่จะฝึกและสอนต่อไป

โจเซฟ : อีกอย่างที่ผมอยากทำก็คืออยากเป็นเจ้าของโปรดักชั่นเฮ้าส์ทำหนังครับ เพราะเป็นอะไรที่ผมชอบอยู่แล้ว อยากเทคโอเวอร์วงการนี้ อยากทำให้ทั้งโลกได้เห็นภาพประเทศไทยที่ควรจะเป็น อยากให้เค้าได้เห็นวัฒนธรรมบ้านเราที่ไม่ใช่แค่ในหนังฝรั่งอย่างพวก Hangover เอามาเล่ากัน และผมก็อยากทำหนังที่ลีดด้วยความเป็นศิลปะจริงๆ โดยที่ไม่ต้องมีเรื่องการขายของหรือสปอนเซอร์

ติดตามให้กำลังใจทั้งสามคนได้ทางรายการ THE FACE 4 ALL-STARS THAILAND ออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลา 18.20 น. ทางช่อง 3, LINE TV และ LINE TODAY และติดตามชมรายการรีรันได้ทาง ​tv.line.me

#LINETODAYแจกทองเก่งงงงงงงง

ต้นเดือนเมษา มาเตรียมรับทองกลับบ้านกัน!  คลิกที่นี่เพื่ออ่านรายละเอียด

 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0