โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

แฟชั่น บิวตี้

#คันหัวมากแม่! ต้องลอง '10 วิธีง่ายๆ' ขจัดความคันบนหนังศีรษะ เบาสบายหัว แถมทำได้ที่บ้าน ♡

SistaCafe

อัพเดต 29 ต.ค. 2563 เวลา 09.21 น. • เผยแพร่ 29 ต.ค. 2563 เวลา 04.33 น. • Mollacake

ไฮค่าาา สาวๆ SistaCafe สุดเลิฟ (❤ω❤)
พูดถึงปัญหาเกี่ยวกับ ' เส้นผม ' ของสาวๆ ก็คงมีอยู่ไม่กี่อย่าง รังแคบ้าง ผมแห้งเสีย ผมร่วงบ้าง แต่ที่น่ารำคาญสุดๆ แถมควบคุมไม่ได้คงเป็น ' อาการคันหัว ' นี่แหละ!!! โดยเฉพาะช่วงหน้าร้อนจัดๆ แสงแดดเผาตัวจนเกรียมแล้ว ยังทำให้เหงื่อชุ่มไปถึงหนังศีรษะ ก็ว่าสระผมดีแล้วนะ แต่ก็ยังคันยิบๆ บางทีผมร่วงเป็นกำ จะหัวล้านแล้วเด้อ TT
โดยปกติแล้ว อาการคันหัวเนี่ย ถ้าไม่สกปรก ทำความสะอาดไม่ดี ก็เพราะสระสะอาดมากเกินไปจนแห้ง พอแห้งก็คัน ( เอ้า เอาใจยากจังแม่!! ) สำรวจตัวเองดูดีๆ ว่าเป็นเพราะสาเหตุไหน แต่ไม่ว่าจะเป็นเพราะเหตุใด เธอก็กำจัดอาการคันได้ง่ายๆ แค่ทำตาม 10 วิธีนี้ด้วยวัตถุดิบในบ้าน ทำง่ายสุดๆ จนเธอต้องร้องว่า ' แค่เนี้ย?? ' แน่ะ ไม่เชื่อล่ะสิ งั้นไปลองดูกันเลยดีกว่า!!

10 สิ่งช่วยสยบอาการ 'คันหัว' ได้อยู่หมัด หาได้ง่ายๆ ในบ้าน

1. สารสกัดจากยูคาลิปตัส ( Eucalyptus extract )

เริ่มหาจากแชมพูในห้องน้ำนี่แหละ แชมพูสูตรใหม่จาก Head & Shoulders ที่มีสารสกัดจากยูคาลิปตัส
เริ่มหาจากแชมพูในห้องน้ำนี่แหละ แชมพูสูตรใหม่จาก Head & Shoulders ที่มีสารสกัดจากยูคาลิปตัส

ข้อแรกมาเริ่มหาจากในห้องน้ำของเรากันเลยค่ะซิส ก็แชมพูสูตรสยบความคันศีรษะที่มีสารสกัดจากยูคาลิปตัสนี่ไง
สำหรับเจ้า ' สารสกัดจากยูคาลิปตัส ' หรือ ' น้ำมันยูคาลิปตัส ' น่ะโดยปกติจะใช้ทา ถู ดม ภายนอกเพื่อช่วยแก้อาการปวด บรรเทาการอักเสบ ขับเสมหะ แต่อีกสรรพคุณนึงคือเค้ามีประสิทธิภาพสูงมากในการช่วยกำจัดเชื้อราในอากาศ แถมวิจัยกันออกมาแล้วว่าช่วยได้ดีกว่าน้ำมันหอมระเหยอื่นด้วยนะ 
เพราะงั้นในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางจึงมักจะใช้น้ำมันสกัดจากยูคาลิปตัสเป็นส่วนผสมเนื่องจากเป็นสารที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบที่ช่วยบรรเทาอาการคันได้ดี แต่ต้องเลือกใช้ในปริมาณที่พอเหมาะนะ
อย่างที่เห็นชัดๆ กันเลยก็แชมพู Head & Shoulders ANTI DANDRUFF SHAMPOO Itchy Scalp Care+ เค้าก็มีสารสกัดจากยูคาลิปตัสเป็นส่วนประกอบด้วย เรียกได้ว่าออกแบบมาเพื่อเป็นแชมพูที่ช่วยสยบความคันโดยเฉพาะ ลดความคันบนหนังศีรษะได้ยาวนานขึ้นก็เพราะสารสกัดจากยูคาลิปตัสนี่แหละ ใครที่อยากได้แบบที่เค้าผสมสัดส่วนมาให้พอเหมาะ พร้อมใช้ได้ทันทีก็ไปลองแชมพูสูตรใหม่นี้กันดูได้ ราคาเริ่มต้น 25 บาทเท่านั้น
คำเตือน: ห้ามกินน้ำมันที่สกัดได้จากยูคาลิปตัสเกิน 3.5 CC ต่อครั้ง เพราะอาจเกิดอาการเป็นพิษต่อร่างกายได้ และถ้าใช้เกินขนาดก็อาจส่งผลให้เกิดการระคายเคืองในทางเดินอาหารด้วย ทางที่ดีควรเลือกใช้แบบที่ผสมในสัดส่วนที่พอเหมาะมาให้แล้วอย่างแชมพูที่กล่าวไปนั่นเอง

2. น้ำมันมะพร้าว ( Coconut Oil )

ยิ่งหนังศีรษะแห้งเท่าไหร่ มันก็ยิ่งคันมากขึ้นเท่านั้นแหละค่ะซิส! ดังนั้นหลักๆ คือต้องบำรุงให้หนังศีรษะชุ่มชื้นอยู่เสมอ โดยใช้ ' น้ำมันมะพร้าว ' 2 ครั้ง/ สัปดาห์ นวดเบาๆ ให้ผ่อนคลาย บาลานซ์ความชุ่มชื้นให้สมดุล อีกทั้งน้ำมันมะพร้าว ยังช่วยป้องกันไม่ให้หนังหัวติดเชื้อ และลดความคันได้อีกด้วย ต้องลอง!
สิ่งที่ต้องใช้
> น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ ( virgin coconut oil ) 2-3 ช้อนชา
วิธีทำ> อุ่นน้ำมันให้ร้อนนิดๆ แล้วนำมานวดให้ทั่วหนังศีรษะ 2-3 นาที เพื่อให้น้ำมันซึมเข้าสู่หนังศีรษะได้เต็มที่ อาจใส่วิตามินอีเพิ่ม 2-3 หยด เพื่อบำรุงหนังศีรษะให้ชุ่มชื้น ลดความแห้งและหนังศีรษะที่แห้งเสียค่ะ
ทำบ่อยแค่ไหน : 2 ครั้ง/ สัปดาห์

 

3. น้ำมันชาเขียว ( Tea Tree Oil )

' น้ำมันชาเขียว ' หรือทีทรีออยล์ มีประโยชน์ด้านความงามมากมาย ทั้งลดสิว ลดแพ้ ผื่นคัน ป้องกันการติดเชื้อไวรัส และยังช่วยบำรุงหนังศีรษะให้ชุ่มชื้น ไม่แห้งจนคันยิบๆ เพราะมันมี ' terpenes ' ที่ช่วยขจัดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราตามธรรมชาติ จึงช่วยไม่ให้หนังศีรษะติดเชื้อ อาการคันหัวหมดไป เบาสบายหัวสุดๆ แถมกลิ่นหอมด้วยน้า~~~~
สิ่งที่ต้องใช้
> น้ำมันชาเขียว ( Tea Tree Oil ) 5-10 หยด
วิธีทำ
> หยดน้ำมันใส่อุ้งมือ แล้วนำมานวดบนหนังศีรษะ นวดให้ทั่วประมาณ 2-3 นาที หมักทิ้งไว้ข้ามคืนแล้วล้างออกในตอนเช้า
ทำบ่อยแค่ไหน? : 2-3 ครั้ง/สัปดาห์

4. น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ล ( Apple Cider Vinegar )

' น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล ' หรือที่ฝรั่งเรียกย่อๆ ว่า ACV นั้นมีประโยชน์เยอะสุดๆ เป็นที่นิยมในหมู่คนไดเอทแบบคีโต ( ketogenic diet ) เพราะช่วยลดไขมันสะสมตามร่างกาย ลดน้ำหนัก บรรเทาอาการเบาหวาน ลดคอเลสเตอรอล เป็นยาสมานแผล และยังช่วยบำรุงหนังศีรษะได้ด้วย! เพราะมีส่วนผสมที่ช่วยต้านแบคทีเรียและเชื้อรา ช่วยขจัดเซลล์ผิวหนังเก่าที่ตายแล้วจากหนังศีรษะ สาเหตุของอาการคันหัว และยังปรับสมดุลค่า pH บนหนังศีรษะอีกด้วย ดีขนาดนี้ต้องลองซื้อใช้สักขวดแล้วมั้ย??
สิ่งที่ต้องใช้
> น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ล 1 ส่วน
> น้ำเปล่า 4 ส่วน ( ปรับปริมาณได้ตามชอบ แต่ในอัตราส่วน 1:4 ค่ะ )
วิธีใช้
> ผสมน้ำส้มสายชูและน้ำเปล่าให้เข้ากัน แล้วนำไปนวดบนหนังศีรษะ ทำต่อเนื่องแล้วรับรองอาการคันจะลดลงจนสังเกตได้เลย!
ทำบ่อยแค่ไหน? : 2 ครั้ง/ สัปดาห์

 

5. เบกกิ้งโซดา

สาวๆ คนไหนก็ต้องรู้จัก ' เบกกิ้งโซดา ' ที่คุณสมบัติครอบจักรวาลมากเวอร์! ทั้งกับสุขภาพร่างกาย ผิวหนัง เป็นสครับขัดผิว กำจัดสิวเสี้ยน ฟอกฟันขาว ทำน้ำยาระงับกลิ่นปาก เพราะมีสารที่ช่วยต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา อีกทั้งยังช่วยฆ่าจุลินทรีย์อันตรายที่สะสมอยู่บนหนังศีรษะ เกิดการติดเชื้อ คันคะเยอ และผมร่วง! เบกกิ้งโซดายังช่วยปรับสมดุลค่า PH บนหนังศีรษะให้พอดี บำรุงให้ชุ่มชื้น ถ้าไม่เชื่อก็ลองมาทำกันดูเลย!
สิ่งที่ต้องใช้
> เบกกิ้งโซดา 2-3 ช้อนโต๊ะ
> น้ำเปล่า
วิธีทำ
> ผสมเบกกิ้งโซดาและน้ำเปล่าให้เข้ากันจนเป็นครีมเหนียวๆ ทาพอกลงบนหนังศีรษะ ทิ้งไว้ 10-15 นาทีแล้วล้างออกให้สะอาด
ทำบ่อยแค่ไหน? : ทุกๆ 2-3 วัน หรือจนกว่าอาการคันจะหายไป

6. น้ำมันมะกอก ( Olive Oil )

นอกจากนำมาปรุงอาหาร ช่วยลดความอ้วน ลดไขมันในร่างกายได้แล้ว ' น้ำมันมะกอก ' ยังมีประโยชน์ต่อเส้นผมและหนังศีรษะสุดๆ เพราะมีส่วนประกอบที่ช่วยต้านอาการอักเสบ ช่วยปกป้อง บำรุงผิว นำมาชโลมผิวกายก็ได้ผิวนุ่มๆ โกลว์ๆ นำมานวดหัวก็ช่วยลดอาการหนังศีรษะอักเสบ แถมช่วยลดอาการคัน สบายหัวขึ้นเยอะ!
สิ่งที่ต้องใช้
> น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ ( virgin olive oil )
วิธีทำ
> อุ่นน้ำมันให้ร้อนนิดๆ แล้วนำมานวดบนหนังศีรษะและเส้นผม หมักทิ้งไว้ข้ามคืนแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดในตอนเช้า
ทำบ่อยแค่ไหน? : 2 ครั้ง/ สัปดาห์ เพื่อสุขภาพเส้นผมและหนังศีรษะที่แข็งแรง

7. น้ำมะนาว

' น้ำมะนาว ' เครื่องดื่มสุดฮิตของสาวๆ รสชาติเปรี้ยวสะใจ อร่อย แถมยังมีฤทธิ์เป็นกรด ส่วนผสมที่ต้านเชื้อแบคทีเรียตามธรรมชาติ และ phytochemical ที่ต้านการอักเสบของหนังศีรษะ ลดความคัน แค่นำมาทาหมักบนหนังศีรษะเท่านั้น ง่ายขนาดนี้ต้องลองแล้วค่ะซิส
สิ่งที่ต้องใช้
> น้ำมะนาวคั้นสด 2-3 ช้อนโต๊ะ
> สำลีก้อน
วิธีทำ
> นำน้ำมะนาวชุบสำลีให้ชุ่ม ทาให้ทั่วหนังศีรษะ หมักทิ้งไว้ 5-10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
ทำบ่อยแค่ไหน? : ไม่ควรทำบ่อยเกิน 2 ครั้ง/สัปดาห์
คำเตือน!! :ใช้บ่อยเกินไป น้ำมะนาวจะทำให้สีผมของเธอซีดจางลงได้ค่ะ ถ้าไม่ชอบผมซีดๆ อย่าทำบ่อยเกินไปล่ะ

 

8. อะโลเวร่า ( ว่านหางจระเข้ )

ว่านหางจระเข้ สมุนไพรไทยที่สาวๆ มักคุ้นในชื่อเรียกว่า ' อะโลเวร่า ' เป็นมอยส์เจอไรเซอร์บำรุงผิวตามธรรมชาติ แค่นำมาทาผิว ก็ช่วยเยียวยาแผล ลดรอยหมองคล้ำจากแสงแดด นำมาทาหนังศีรษะ ก็ช่วยขจัดรังแค ลดอาการคันได้ชะงัก เพราะในอะโลเวร่า มียาต้านจุลชีพ ( antimicrobial ) และสารช่วยเยียวยาผิวได้ดีสุดๆ ค่ะ
สิ่งที่ต้องใช้
> ว่านหางจระเข้สด ( ที่มีเนื้อวุ้นข้างใน )
วิธีทำ
> นำวุ้นด้านในจากว่านหางจระเข้ออกมา แล้วนำมาพอกให้ทั่วหนังศีรษะ หมักทิ้งไว้ 15-20 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ( ที่ต้องเป็นน้ำอุ่น เพราะจะล้างวุ้นออกง่ายที่สุดค่ะ )
ทำบ่อยแค่ไหน? : 1-2 ครั้ง/ สัปดาห์

 

9. น้ำยาบ้วนปาก

' น้ำยาบ้วนปาก ' ก็เป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบที่ช่วยลดอาการคันหนังศีรษะได้ เพราะโดยปกติ น้ำยาพวกนี้จะมีสารฆ่าเชื้อโรคและ antimicrobial ตามธรรมชาติอยู่แล้ว เมื่อนำมากลั้วปากจึงทำให้ลมหายใจหอมสะอาด สดชื่น และเมื่อนำมาหมักหนังศีรษะ จึงช่วยลดอาการคัน และลดรังแคได้ very good สุดๆ ถ้าไม่เชื่อก็หยิบน้ำยาในห้องน้ำมาลองใช้กันเลยค่า!
สิ่งที่ต้องใช้
> น้ำยาบ้วนปาก 1/2 ถ้วย
> น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
วิธีใช้
> ผสมน้ำยาบ้วนปากกับน้ำเปล่าให้เข้ากัน เพื่อให้น้ำยาเจือจางลง แล้วนำมานวดบนหนังศีรษะนาน 1 นาที หมักทิ้งไว้ 5 นาทีแล้วล้างออกให้สะอาด
ทำบ่อยแค่ไหน? : 2 ครั้ง/ สัปดาห์
คำเตือน :อย่าใช้วิธีนี้ ถ้าหนังศีรษะของเธอกำลังอ่อนแอมาก หรือเกาจนมีแผลเลือดซิบๆ อยู่บนหนังศีรษะ เพราะน้ำยาจะยิ่งไปกัดแผล ทำให้เจ็บแสบยิ่งขึ้นนะคะ

 

10. น้ำหัวหอม

' หัวหอม ' ส่วนผสมสุดอร่อย เพิ่มรสชาติในอาหาร และยังมีประโยชน์ต่อเส้นผมสุดๆ เพราะมีสาร antimicrobial ที่ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา ป้องกันไม่ให้หนังศีรษะติดเชื้อ จึงไม่มีอาการคัน และหัวหอมยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดอาการอักเสบ ทำให้หนังศีรษะสุขภาพดีได้อีก ลองไปหยิบจากครัวมาทำตามกันดู แล้วจะติดใจ!
สิ่งที่ต้องใช้
> หัวหอมขนาดเล็ก 1 หัว
> สำลีก้อน
วิธีใช้
> ปอกเปลือกหัวหอม ขูด คั้นน้ำออกมา กรองใส่ตะแกรงจนได้น้ำใสๆ ชุบก้อนสำลี แล้วนำมาทาหนังศีรษะ หมักทิ้งไว้ 20-30 นาที แล้วสระผมด้วยแชมพูตามปกติได้เลย
ทำบ่อยแค่ไหน? : 1 ครั้ง ทุกๆ สัปดาห์

---------------------
หมดเวลาไปยืนคันหิวยิบๆ กลางที่สาธารณะให้เสียบุคลิก ให้คนซุบซิบนินทากันอีกต่อไป แค่สาวๆ ทำตาม 10 วิธีตามนี้ ( ไม่ต้องทำครบก็ได้ เลือกวิธีที่ชอบ วัตถุดิบที่ใช่ก็พอ ) ก็มีหนังศีรษะที่สะอาด แต่ไม่แห้งกร้าน เบา โล่งหัวได้อีก #หนังศีรษะถูกใจสิ่งนี้ =w=b แต่ยังไงก็ตาม เราต้องแก้ที่ต้นเหตุด้วย นั่นคือรักษาความสะอาด อย่าให้มีรังแค สระผมวันเว้นวันหรือทุกวัน ใช้ครีมนวดและเซรั่ม เพื่อให้เส้นผมและหนังศีรษะสุขภาพดี เท่านี้ก็ #สะบัดผมพลิ้วสิบห้าเซน ได้ไม่ยากแล้วล่ะค่าา
---------------------

ติดตามบทความใหม่ๆได้ที่ SistaCafe Facebook
SistaCafe เว็บไซต์รวบรวมบทความสำหรับผู้หญิง https://sistacafe.com
♥ ดาวน์โหลด App SistaCafe ฟรีได้แล้ววันนี้! ♥
iOS : AppStore
Android : PlayStore

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0