โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

Marketing Day อัพเดทกลยุทธ์ ‘5 ใช่’ รับมือการแข่งขันยุคใหม่

The Bangkok Insight

เผยแพร่ 23 พ.ย. 2561 เวลา 10.53 น. • The Bangkok Insight
Marketing Day อัพเดทกลยุทธ์ ‘5 ใช่’ รับมือการแข่งขันยุคใหม่

ในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทั้งเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภค หัวใจสำคัญของการทำธุรกิจ เพื่อให้ “อยู่รอด” ในยุคนี้ จะต้องเข้าใจ 3 แนวโน้ม คือ เศรษฐกิจ, เทคโนโลยี และการตลาด

มาร์เก็ตติ้ง Marketing
มาร์เก็ตติ้ง Marketing

สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย (MAT) จัดงานวันนักการตลาด“Marketing Day 2018” อัพเดทหัวใจการทำธุรกิจยุค Marketpreneurship  หรือ Marketing + Entrepreneurship  ด้วยแนวคิดที่ต้อง  “Think big – Move fast – Go forward”  การผสมผสานหัวใจนักการตลาดกับการเป็นนักวางยุทธศาสตร์ พร้อมมีความยืดหยุ่นฉับไวแบบผู้ประกอบการ เพื่อสร้างสร้างความสำเร็จทางธุรกิจ

อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ นายกสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปี 2561 ถือเป็นปีที่ธุรกิจไทยเริ่มเห็นโอกาสในการเติบโต จากสภาวะเศรษฐกิจไทยที่เริ่มฟื้นตัว ช่วง 9 เดือนแรกมีการขยายตัวกว่า  4.3% จากการบริโภคภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น 5% อัตราการว่างงานน้อยลง ในไตรมาส 4 อยู่ที่ 1% ต่ำสุดในรอบ 2 ปี

ขณะที่การลงทุนขยายตัว 3.9%  โดยเฉพาะการลงทุนเมกะโปรเจคภาครัฐ ทั้งอีอีซี  รถไฟความเร็วสูง ที่จะช่วยสร้างการจ้างงานและเพิ่มการจับจ่ายผู้บริโภค ทั้งหมดนี้เป็นตัวบ่งชี้เชิงบวกในระยะเริ่มต้น

แม้จะมีความท้าทายจากการสภาวะผันผวนทางเศรษฐกิจโลกจากสถานการณ์การเพิ่มการกีดกันทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ ทำให้การส่งออกนั้นชะลอตัวลงบ้าง แต่ภาพรวมของปีนี้และปี 2562 ยังมองเห็นโอกาสในการพัฒนาภาคธุรกิจของประเทศไทย แต่นักธุรกิจ ผู้ประกอบการ และนักการตลาด จะต้องมีการปรับตัวเพื่อตอบรับความเปลี่ยนแปลง

“ทิศทางเศรษฐกิจปีหน้ามีแนวโน้มที่ดีจากปัจจัยเลือกตั้ง ที่จะสร้างความคึกคักด้านการทำตลาดและกระตุ้นการบริโภคเติบโต”

อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์
อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์

สำหรับเทรนด์การตลาดใน 1-2 ปีข้างหน้า จะเริ่มเปลี่ยนจาก Globalization เป็น Localization มากขึ้น เป็นการเติบโตจากภายในสู่ภายนอก  ผู้ประกอบการภายในประเทศจะมีโอกาสเติบโตมากขึ้น แต่การจะคว้าโอกาสได้นั้น องค์กรต้องมีการปรับตัว เจ้าของกิจการและนักการตลาดจะพึ่งพายอดขายผ่านการสร้างแบรนด์ด้วยโฆษณาประชาสัมพันธ์อย่างเดียวไม่พออีกต่อไป

“วิธีคิด วิธีปฎิบัติของคนในองค์กรก็ต้องเปลี่ยน ผู้ประกอบการรายย่อยที่ถนัดด้านการผลิต ก็จะต้องมีหัวใจนักการตลาด พร้อมการเป็นนักวางยุทธศาสตร์มากขึ้น ส่วนองค์กรใหญ่ ก็ต้องปรับตัวให้มีความฉับไวและยืดหยุ่นแบบผู้ประกอบการรายย่อย ธุรกิจยุค Marketpreneurship ต้องก้าวสู่ความเปลี่ยนแปลงในการทำธุรกิจ รวมถึงนำเทรนด์เทคโนโลยีที่มีประโยชน์มาใช้เสริมประสิทธิภาพ”

ปี 2562 นี้ เทคโนโลยีที่น่าจับตามองคือ เรื่องของ Connected Cloud, Chatbots, Data Analytic และการนำ “ดาต้า” ไปใช้ รวมถึงเทคโนโลยีอื่นๆ เช่น IoT, AI, Machine Learning และ Edge Computing สิ่งเหล่านี้จะมีบทบาทเป็นอย่างยิ่งในโลกยุคใหม่ และธุรกิจที่เปิดรับและนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพทั้งการผลิตและการตลาด ย่อมมีโอกาสประสบความสำเร็จสูงกว่าบริษัทที่ไม่ได้ใช้งานด้านดังกล่าว

กลยุทธ์การตลาดในยุคนี้ “ผู้ชนะในน่านน้ำของการแข่งขันในยุคใหม่” ไม่ได้วัดกันที่การเป็น ปลาใหญ่ หรือ ปลาไว แต่ต้องเป็น “ปลาที่ใช่” หรือ The Right Fish ซึ่ง หัวใจแห่งความสำเร็จ นั้นประกอบด้วย “5 ใช่” คือ Right People – Right Product – Right Purpose – Right Approach และ Right Time

กลยุทธ์การแข่งขันยุคใหม่ marketing day
กลยุทธ์การแข่งขันยุคใหม่ marketing day

คนที่ใช่ (Right People)
ในยุคที่ส่วนแบ่งของตลาดและกลุ่มผู้บริโภคนั้นมีการแบ่งย่อยเป็นอย่างมาก แบรนด์ต้องมีความชัดเจนว่าสินค้าและบริการนั้นถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใคร เพราะในโลกยุคปัจจุบัน mass marketing หรือ one size fit all นั้นเริ่มเลือนหายไป และถูกทดแทนด้วย personalized marketing ซึ่งเป็นการตลาดระดับบุคคล ดังนั้น การตั้งโจทย์ที่ถูกต้อง ต้องเริ่มตั้งแต่การตั้งกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน เพื่อตอบความต้องการของกลุ่มเป้าหมายให้ได้อย่างตรงจุด

สินค้าที่ใช่ (Right Product) 
การพัฒนาสินค้าและบริการ ไม่ได้มาจากความเชี่ยวชาญขององค์กรเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมาจากความต้องการของลูกค้า ในสมัยนี้ไม่ใช่ว่าแค่ผลิตสินค้าดีมีคุณภาพแล้วคนจะหลั่งไหลมาซื้อ แต่นอกจากดีแล้วยังต้องโดนอีกด้วย คือ สินค้าที่ใช่นั้น ต้องโดนใจและตอบโจทย์ในการแก้ปัญหาในชีวิตของลูกค้า ดังนั้น แบรนด์จึงต้องใกล้ชิดกับผู้บริโภคให้มากขึ้น และทำความเข้าใจกับความต้องการของพวกเขาให้ได้อย่างถ่องแท้

วัตถุประสงค์ที่ใช่ (Right Purpose)
ในยุคที่เรื่องของ Shared Purpose เป็นเรื่องสำคัญ เพราะผู้บริโภคมีทางเลือกมากมาย ความชอบและการเลือกซื้อเป็นระดับบุคคลมากขึ้น ผู้บริโภคจึงมองหาแบรนด์ที่เป็นเหมือนเพื่อนของเขา คิดอะไรเหมือนกัน มีความเชื่อและมีจุดหมายในชีวิตที่เหมือนกัน

ดังนั้น แบรนด์ที่มีวัตถุประสงค์ที่ยิ่งใหญ่มากกว่าแค่การขายสินค้าและบริการ จึงมักเป็นแบรนด์ที่ถูกเลือก โดยแบรนด์เหล่านี้ต้องพิสูจน์ความตั้งใจดีด้วยการกระทำ เรื่องของความรับผิดชอบทางสังคม หรือ CSR จึงไม่ใช่แค่กิจกรรมชั่วคราว แต่ถูกฝังลงไปในขั้นตอนและแนวคิดของสินค้าด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีผลต่อการตัดสินใจในการ เลือกซื้อ เลือกแนะนำของลูกค้าเป็นอย่างมาก

ถูกวิธี ถูกที่ (Right Approach) และ ถูกเวลา (Right Time)
ในยุคที่ผู้บริโภคเป็นใหญ่ แบรนด์ต้องสร้างความเข้าใจใน customer journey และเข้าให้ถึงผู้บริโภคให้ “ถูกวิธี ถูกที่ และ ถูกเวลา” โดยไม่มีเส้นกั้นระหว่างออนไลน์และออฟไลน์อีกต่อไป ทั้งการสื่อสาร ช่องทางการขาย และการเชื่อมโยงข้อมูลของลูกค้า ทุกอย่างต้องถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน โดยเจ้าของกิจการและนักการตลาด ต้องมองภาพใหญ่ให้ชัดเจนเป็นหนึ่งเดียว รวมถึงการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลจากช่องทางต่างๆจะมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อความสำเร็จ

“หัวใจสำคัญ คือเจ้าของกิจการและนักการตลาดจะต้องปรับตัว นำแนวคิด 5 Rights ไปปรับใช้ พร้อมเปิดรับแนวทางของ Marketpreneurship โดยผสมผสานหัวใจนักการตลาด กับ ความเป็นผู้ประกอบการ เพื่อก้าวสู่ความสำเร็จไปด้วยกัน”

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ความเห็น 0

ยังไม่มีความเห็น