เสียงเชียร์ดังกระหึ่มขึ้นอีกครั้ง เมื่อ โดนัลด์ ทรัปมามาที่พรรค พร้อมอายุครบ 78 ปี
โดนัลด์ ทรัมป์กลับมาที่แคปิตอล ฮิลล์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การจู่โจมตีเมื่อวันที่ 6 มกราคม เสียงเชียร์ เค้กฉลอง และการชนกำปั้นจากสมาชิกพรรครีพับลิกัน เมื่ออดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ เยือนวอชิงตัน
โดนัลด์ ทรัมป์กลับมาอย่างยิ่งใหญ่ที่แคปิตอล ฮิลล์เมื่อวันพฤหัสบดี เป็นครั้งแรกที่พบกับสมาชิกสภานิติบัญญัตินับตั้งแต่การโจมตีเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 โดยได้รับการต้อนรับจากสมาชิกพรรครีพับลิกันในสภาและวุฒิสภาที่รู้สึกมีพลังและกระตือรือร้นจากการพยายามกลับมาเป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง
แม้ว่าจะมีข้อหาของรัฐบาลกลางที่ยังรอการตัดสินเกี่ยวกับการสมคบคิดเพื่อพลิกผลการเลือกตั้งปี 2020 และคำตัดสินที่มีความผิดในคดีปิดปากที่ไม่เกี่ยวข้องเมื่อไม่นานมานี้ ทรัมป์มาถึงด้วยความมั่นใจในฐานะผู้ท้าชิงที่คาดว่าจะเป็นตัวแทนของพรรค เขาประสบความสำเร็จในการกวาดล้างนักวิจารณ์ในพรรครีพับลิกัน ปิดปากผู้ที่เคยสงสัย และดึงดูดสมาชิกสภานิติบัญญัติที่เคยวิจารณ์ให้เข้าร่วมแคมเปญของเขา
ห้องที่เต็มไปด้วยสมาชิกพรรครีพับลิกันในสภาร่วมกันร้องเพลง "Happy Birthday" ให้กับทรัมป์ ซึ่งจะมีอายุครบ 78 ปีในวันศุกร์ ในการประชุมอาหารเช้าส่วนตัวที่สำนักงานใหญ่ของการรณรงค์หาเสียงของพรรครีพับลิกันซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามถนนจากแคปิตอล
สมาชิกสภาได้มอบลูกเบสบอลและไม้ตีจากเกมประจำปีของรัฐสภาให้กับทรัมป์ และในเวลาต่อมาวุฒิสมาชิกได้นำเค้กรูปธงชาติอเมริกันมาให้ ทรัมป์อวดว่าแม้แต่การรณรงค์ผ่านโทรศัพท์ของเขาก็ยังสามารถดึงดูดผู้คนได้มากกว่าคอนเสิร์ตของเทย์เลอร์ สวิฟต์ นักร้องชื่อดังที่ยังไม่ได้ออกมาให้การสนับสนุนใคร
ในช่วงเวลาหนึ่งที่น่าจดจำ ทรัมป์และผู้วิจารณ์ที่โดดเด่นที่สุดของเขา มิทช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำพรรครีพับลิกันในวุฒิสภา ได้จับมือและชนกำปั้นกัน
"มีความสามัคคีอย่างมากในพรรครีพับลิกัน" ทรัมป์กล่าวสั้น ๆ ที่สำนักงานใหญ่พรรครีพับลิกันในวุฒิสภา
ทรัมป์ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงกับสมาชิกพรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา โดยพูดคุยอย่างอิสระ ตอบคำถาม และหารือเกี่ยวกับประเด็นต่าง ๆ รวมถึงรัสเซียและการย้ายถิ่นฐาน การลดภาษี และลำดับความสำคัญอื่น ๆ สำหรับวาระที่สองที่เป็นไปได้
ในช่วงเช้า ทรัมป์กล่าวว่าเขาคิดว่าไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรกำลังทำงานได้ "ยอดเยี่ยม" ตามที่สมาชิกพรรครีพับลิกันคนหนึ่งในการประชุมส่วนตัวและขอไม่เปิดเผยตัวตนเพื่อพูดคุยเรื่องนี้ ทรัมป์ถามมาร์จอรี เทย์เลอร์ กรีน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นผู้วิจารณ์หลักของประธานสภาว่าเธอทำตัว “ดี” กับจอห์นสันหรือไม่ ตามที่สมาชิกพรรครีพับลิกันอีกคนหนึ่งกล่าว
"ประธานาธิบดีทรัมป์นำพลัง ความตื่นเต้น และความกระตือรือร้นอย่างมากมาในเช้านี้" จอห์นสันกล่าวหลังการประชุม โดยระบุว่ายอดเงินระดมทุนสูงขึ้นตั้งแต่มีคำตัดสินว่ามีความผิด "เรารู้สึกดี"
ก่อนหน้านี้ประธานสภาผู้แทนราษฎรพรรครีพับลิกันลังเลที่จะตอบว่าเขาได้ขอให้ทรัมป์เคารพการถ่ายโอนอำนาจประธานาธิบดีอย่างสันติและยืนยันที่จะไม่ทำ “อีกครั้งในวันที่ 6 มกราคม” หรือไม่ “แน่นอนว่าเขาเคารพสิ่งนั้น พวกเราทุกคนก็เคารพ และเราทุกคนได้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้จนเบื่อแล้ว”
ลำดับความสำคัญที่อาจเกิดขึ้นหลายประการสำหรับการบริหารทำเนียบขาวใหม่กำลังถูกกำหนดโดยกลุ่มภายนอกหลายกลุ่ม รวมถึง Project 2025 ที่วางรากฐานสำหรับการดำเนินการของฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ แม้ว่าทรัมป์จะทำให้ชัดเจนว่าเขามีวาระของเขาเองก็ตาม
"ใครก็ตามที่คิดว่าประธานาธิบดีคนนี้จะพ่ายแพ้หลังจากการพิจารณาคดีที่ไร้สาระ มันกลับทำให้เขามีพลังมากขึ้น" ทอม เอมเมอร์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและผู้ควบคุมเสียงพรรครีพับลิกันกล่าว "โดนัลด์ ทรัมป์กำลังบดขยี้การเลือกตั้งครั้งนี้"
แต่การประชุมส่วนตัวของทรัมป์กับสมาชิกพรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาใกล้กับแคปิตอลมาก ได้รับการเติมเต็มด้วยสัญลักษณ์ของการกลับมาของเขาในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผู้ที่เคยคุกคามประเพณีของอเมริกาในการถ่ายโอนอำนาจอย่างสันติ
"มันน่าผิดหวัง" แฮร์รี่ ดันน์ อดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจแคปิตอลของสหรัฐฯ ที่ลงสมัครรับเลือกตั้งในสภาคองเกรสในฐานะพรรคเดโมแครตในรัฐแมรี่แลนด์หลังจากวันที่ 6 มกราคม ซึ่งในวันนั้นตำรวจต้องต่อสู้กับผู้สนับสนุนทรัมป์ที่บุกเข้าไปในอาคารเพื่อพยายามพลิกผลการเลือกตั้งของประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ กล่าว ดันน์พูดถึง "ความประชดประชัน" ที่ทรัมป์กลับมาที่พื้นที่และสมาชิกสภานิติบัญญัติขณะนี้กลับกอดเขา "มันแสดงให้เห็นถึงการขาดความกล้าหาญที่พวกเขามีเมื่อพวกเขาเลือกพรรคและบุคคลมากกว่าประเทศ" ดันน์กล่าว "และมันก็น่าเศร้า"
ไบเดนอยู่ในอิตาลีเมื่อวันพฤหัสบดีเพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดกลุ่มเจ็ดประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ (G7) แต่แคมเปญของประธานาธิบดีได้เปิดตัวโฆษณาใหม่ที่กล่าวโทษทรัมป์ว่าเป็นผู้จุด "ไฟ" ของวันที่ 6 มกราคมและคุกคามประชาธิปไตย
หลายคนที่เคยยืนหยัดต่อต้านทรัมป์ได้ออกจากตำแหน่งไปนานแล้ว และสมาชิกพรรครีพับลิกันที่ยังคงอยู่ดูเหมือนจะกระตือรือร้นมากขึ้นเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่เขาจะกลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกครั้ง และประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นจากการเลือกตั้งที่ส่งผลดีต่อพรรครีพับลิกันในรัฐสภาของพวกเขาเอง
ในช่วงบ่ายของวันพฤหัสบดีเป็นการพบกันครั้งแรกในรอบหลายปีระหว่างทรัมป์และแมคคอนเนลล์ ผู้ซึ่งเคยตำหนิทรัมป์สำหรับการโจมตีที่ "น่าขายหน้า" ซึ่งเขาเรียกว่า "การกบฏ" แต่ตอนนี้กลับสนับสนุนผู้ที่คาดว่าจะเป็นผู้ท้าชิงของพรรค
ตามที่วุฒิสมาชิกจอห์น บาร์รัสโซ ผู้จัดการประชุมกล่าว หลังจากที่ทรัมป์กล่าวกับกลุ่มแล้ว แมคคอนเนลล์ก็ให้สัญญาณยกนิ้วโป้ง และทั้งสองก็เดินเข้าหากันและชนกำปั้นกัน
"เราได้ประชุมกันอย่างดีมาก" แมคคอนเนลล์กล่าว "เขาและผมมีโอกาสพูดคุยกันเล็กน้อย จับมือกันหลายครั้ง"
ในขณะที่ประชาธิปไตยทั่วโลกตกอยู่ภายใต้การคุกคามจากการเปลี่ยนแปลงไปทางขวาจัด นักวิเคราะห์บางคนเตือนว่าระบบของสหรัฐฯ ที่เคยดูเหมือนจะมีภูมิคุ้มกันต่อแนวโน้มเผด็จการ กำลังเสี่ยงต่อพลังป๊อปปูลิสต์และกลุ่มหัวรุนแรงเหมือนที่ทรัมป์ได้จุดประกายในการโจมตีแคปิตอล
"นี่เป็นตัวอย่างอีกครั้งที่สมาชิกพรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎรยอมสยบต่อโดนัลด์ ทรัมป์" พีท อากีลาร์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากแคลิฟอร์เนีย ประธานพรรคเดโมแครตในสภาผู้แทนราษฎรกล่าว
โดยใช้วันที่ 6 มกราคมเป็นจุดเด่นของการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งใหม่ของเขา ทรัมป์ยกย่องผู้ที่บุกแคปิตอลว่าเป็น "นักรบ" และ "ผู้รักชาติ" และเขาได้สาบานว่าจะอภัยโทษให้กับผู้ที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดกว่า 1,300 คนจากการโจมตีสถานที่สำคัญของประชาธิปไตยสหรัฐฯ
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังได้สาบานว่าจะล้างแค้นโดยการขับไล่เจ้าหน้าที่ในกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ที่กำลังดำเนินคดีกับเขาในข้อหา 4 กระทงเพื่อพลิกผลการเลือกตั้งก่อนการโจมตีเมื่อวันที่ 6 มกราคม และอีกคดีเกี่ยวกับการเก็บเอกสารลับที่บ้านของเขาในมาร-อะ-ลาโก รัฐฟลอริดา
พรรครีพับลิกัน โดยเฉพาะในสภาผู้แทนราษฎร แต่เพิ่มขึ้นในวุฒิสภา กำลังตามแนวทางของเขาอย่างแข็งขัน โดยร้องเรียนว่าระบบยุติธรรมไม่เป็นธรรม สิ่งนี้มีผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัด: หน่วยงานรณรงค์ของพรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภามียอดการระดมทุนสูงสุดช่วงหนึ่งหลังจากที่คณะลูกขุนพบว่าเขามีความผิดในคดีเงินปิดปากในนิวยอร์ก