โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

กราบหัวใจพ่อแม่ บริจาคอวัยวะลูกหลังประสบอุบัติเหตุ เล่าวันที่เอาหัวใจลูกออก โดนว่าให้เขาได้ไง

Khaosod

อัพเดต 01 ก.ค. 2566 เวลา 08.12 น. • เผยแพร่ 01 ก.ค. 2566 เวลา 08.12 น.
บริจาคอวัยวะ (2)
กราบหัวใจพ่อแม่ บริจาคอวัยวะลูกหลังประสบอุบัติเหตุ เล่าวันที่เอาหัวใจลูกออก โดนว่าให้เขาได้ไง

กราบหัวใจพ่อแม่ บริจาคอวัยวะลูกหลังประสบอุบัติเหตุ เล่าวันที่เอาหัวใจลูกออก โดนว่าให้เขาได้ไง ถือว่าทำบุญกุศลยิ่งใหญ่ครั้งสุดท้าย เพื่อช่วยต่อชีวิตให้ผู้ป่วยรายอื่น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจ Thai Red Cross Society โพสต์ข้อความเปิดเผยความในใจของคุณแม่ “โสภา น้อยจินดา” แม่ของน้องอดิศร สังข์สี ผู้บริจาคอวัยวะช่วยต่อชีวิตให้กับผู้ป่วยที่รอคอยการบริจาคอวัยวะ

โดยคุณแม่โสภา เล่าว่า “วันที่เอาหัวใจลูกออก พี่ก็โดนว่านะ ว่าให้เขาไปได้ยังไง ลูกยังหายใจอยู่ แต่เรารู้อยู่แล้ว ถ้าเอาเครื่องช่วยหายใจออกลูกเราก็ต้องไป”

"วันนั้นแม่กลับมาจากขายของ “ตี๋” เพื่อนของน้องอดิศรเข้ามาแจ้งข่าว บอกว่าน้องอดิศรโดนรถชน แม่กับสามีรีบขับรถไปที่เกิดเหตุ เห็นลูกนอนนิ่ง เนื้อตัวไม่ได้เป็นอะไรมาก แม่ก็ไม่กล้าดู จนกระทั่งรถพยาบาลมาถึง พ่อของเขาตัดสินใจขึ้นรถพยาบาลไปกับลูก"

"หมอเข้ามาบอกว่า น้องเป็นมากนะแม่ หมอถามว่าคุณแม่อยากผ่าไหม เราคิดว่าทำไมหมอถามแบบนั้น แต่มาคิดทีหลัง หมอเขาคงรู้อยู่แล้ว ว่าผ่าหรือไม่ผ่าก็มีค่าเท่ากัน หมอก็แอบบอกมาตลอด เรื่องบริจาคอวัยวะ แต่เราไม่เชื่อ เพราะลูกยังหายใจอยู่ หมอเอาอะไรมาพูด แต่หมอก็บอกกับเรา ถ้าพูดเป็นเปอร์เซ็นต์ มันอาจจะไม่มีแล้วนะแม่"

"ช่วงผ่าสมอง หมอแจ้งว่าต้องใช้เวลาผ่าเกือบ 4 ชั่วโมง แต่ลูกเราผ่าแค่ชั่วโมงกว่าๆ ก็ออกมาแล้ว เราก็ดีใจคิดว่าลูกเราหายแล้ว แต่เรามารู้ในภายหลังว่าเลือดออกเยอะ จนแทบจะเย็บปิดไม่ได้ คือลูกเราจะไปแล้ว เราคุยกันในครอบครัว ถึงลูกจะเป็นเจ้าชายนิทรา ถึงจะต้องปั่นอาหารเหลวให้ลูกกิน เราก็จะเลี้ยง หลังจากตัดสินใจแบบนั้น วันถัดมาลูกตัวบวม ตัวเริ่มแข็งเหมือนคนตาย ทั้งๆ ที่เมื่อวาน"

"เรายังจับ ยังกอด ตัวยังนิ่ม ตัวยังอุ่นอยู่เลย เราก็ถามนะว่าเขาเป็นอะไร คนดูแลบอกว่าเหมือนอวัยวะภายในของน้องจะล้มเหลว หมอบอกว่าลูกเราไม่ไหวแล้ว แต่อวัยวะเขายังดี สามารถบริจาคได้นะแม่ เชื่อไหมไม่กี่สัปดาห์ก่อนลูกโดนรถชน แม่ดูคลิปที่เขาขนย้ายหัวใจขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ก็นั่งร้องไห้ ปลื้มปีติใจกับคนที่เขาให้ แม่คิดว่ามันยิ่งใหญ่เนอะ โรงพยาบาลเขารักษาเต็มที่แล้ว ถ้าน้องฟื้น เราก็ได้ลูกคืน แต่ถ้าน้องไม่ฟื้น เราก็คิดว่าทำบุญให้ลูก คนที่ได้อวัยวะของลูกเราไป เราดีใจแทนเขานะ"

หลังโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป มีคนเข้ามาส่งกำลังใจ พร้อมอนุโมทนาบุญกับครอบครัวที่ส่งมอบบุญใหญ่ให้น้องในวาระสุดท้าย เพื่อต่อชีวิตใหม่ให้กับผู้ป่วยรายอื่น

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ความเห็น 88

  • @NATCHA, 99
    ความดีที่เราทำเราย่อมรู้แก่ตัวเรา คนอื่นที่นอกเหนือจากตัวเรารึครอบครัวอย่าไปฟังเอามารกสมอง แม่ทำดีที่สุดแล้ว
    04 ก.ค. 2566 เวลา 02.27 น.
  • หงส์ขาวในฝูงอีเห็น
    หัวใจคุณช่างน่ากราบ
    03 ก.ค. 2566 เวลา 03.13 น.
  • อรุณ 5889🎵😘รวยดีจ่ะ
    🙇🙏 ขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะ ... เชื่อว่าน้องรับรู้ ปิติ ดวงจิตน้องไปสู่สุขคติแน่นอนค่ะ 🙏🙇 ขอบุญนี้ส่งผลให้คุณแม่คุณพ่อของน้อง ... มีสุขภาพดีและภูมิใจ ปิติกับบุญใหญ่ที่ได้ทำในครั้งนี้ตลอดไปนะคะ 🌻🌱🐥
    02 ก.ค. 2566 เวลา 20.18 น.
  • TUK
    ขออนุโมทนาสาธุด้วยค่ะ
    02 ก.ค. 2566 เวลา 03.42 น.
  • อ๋อง
    อนุโมทนาครับ.....น้องคงภูมิใจในการตัดสินใจของคุณแม่..........
    01 ก.ค. 2566 เวลา 17.19 น.
ดูทั้งหมด