เชื่อว่าหลายคนคงจำกันได้ สำหรับหมอหนุ่มวัย 28 ปี คุณหมอ กฤตไท ธนสมบัติกุล เจ้าของเพจ สู้ดิวะ ที่ออกมาเผยเรื่องราวชีวิตกำลังจะไปได้ดีแต่กลับต้องมาพบว่าตัวเองเป็นมะเร็vປອດระยะสุดท้าย ทั้งที่เพิ่งจะบรรจุเป็นเป็นแพทย์ได้เพียงแค่ 2เดือน กำลังจะแต่งงานสร้างบ้านมีครอบครัวที่อบอุ่น เรื่องราวดังกล่าว ถูกส่งต่อกันเป็นจำนวนมาก และชาวโซเชียลต่างก็เข้ามาให้กำลังใจกันอย่างล้นหลาม ต่างก็เสียดายบุคลากรที่มีความสามารถแต่กลับต้องมาเจอเรื่องราวเช่นนี้ ซึ่งอนาคตกำลังจะไปได้ดีอยู่แล้ว
ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 65 คุณหมอได้ออกมาอัพเดทอาการอีกครั้ง โดยระบุว่า สวัสดีครับทุกคน ผมสบายดีครับ ยังสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้แทบจะปกติครับ ผมเพิ่งรับ เค มี บำบัดครั้งที่สาม มาเมื่อวันพุธที่ผ่านมาครับ รอบนี้เพลียมากๆเลยครับ ง่วงทั้งวัน ตื่นมากินข้าวแล้วก็หลับต่อ เรียกได้ว่านอนจนจะเป็นแwลกดทับครับ วันนี้มีแรงมากขึ้นแล้วครับ ออกมาทานข้าวนอกบ้าน อยากไปออกกำลังกายแล้ว แต่ฝุ่นเชียงใหม่ก็เริ่มน่ากลัวเกินกว่าจะเอาປອດไปเสี่ยง ไม่อยากจะคิดถึงฝุ่นช่วงพีคเลย คงต้องเก็บตัวอยู่ในห้องไม่ก็ย้ายจังหวัดชั่วคราว แต่เอาจริงช่วงพีคนี่ย้ายไปจังหวัดไหนก็คงพอกัน
ยังไงก็ตามครับ ช่วงก่อนที่จะรับยารอบสามนี้ มีเรื่องสนุกเกิดขึ้นครับ ต้องบอกว่าตัวผมเองปกติแล้วออกกำลังกายหนักถึงหนักมากครับ แต่พอมาเข้ารับการรักษาในช่วงเดือนแรก ลำพังแค่ยืนให้ตรงก็ถือว่ายอดเยี่ยมแล้ว เพราะงั้นการออกกำลังกายจึงไม่ได้ทำเลยครับ วันๆก็กินกับนอน บวกกับช่วงแรกเป็นช่วงประชดชีวิต อะไรที่เคยไม่กิน เราก็กินหมดเลย ของทอด ของมัน หมูกรอบ สามชั้นขนมเค้ก น้ำหวาน เรียบร้อยครับ ไขมันสูง
ผมได้เริ่มกิน ย า ลดไขมันในເລືອດครับ แต่ดีนะครับ มันทำให้ผมมีเป้าหมายระยะสั้นขึ้นมาเลย ว่าเราจะต้องกลับมามีวินัยดูแลตัวเองแล้ว คือในช่วงรับการรักษามันจะต้องกินเยอะๆครับ เพราะโดยทั่วไปเราจะน้ำหนักลดอยู่แล้ว คราวนี้เราต้องเน้นไปที่การกินของดี พวกอกไก่ ไข่ขาว ธัญพืช แป้งดีๆ ลดน้ำตาล ลดไขมันให้มากที่สุด บวกกับเริ่มออกกำลังกายด้วย ซึ่งจริงๆแล้วเหตุผลในการที่ผมจะกินแต่ของอร่อยและไม่ออกกำลังกายมีเต็มไปหมดเลย แถมเป็นเหตุผลที่ฟังขึ้นด้วย แต่ผมก็เลือกกลับมาจริงจังกับเรื่องโภชนาการ และการออกกำลังกาย ในวันที่ฝุ่นน้อยๆ ผมจะเริ่มจากการออกไปเดิน พยายามเดินให้ได้หมื่นก้าวซึ่งมันใช้เวลานานมาก เดินได้สักพักก็เริ่มรู้สึกว่าเราต้อง วิ่งดิวะ
ผมก็ค่อยๆลองวิ่ง ผมวิ่งได้จริงๆครับ ถึงจะยังไม่ใช่ความเร็วเท่าเดิม แต่วิ่งได้ คุมการหายใจได้ แรกๆก็วิ่งได้ไม่กี่นาที แต่พอทำไปเรื่อยๆก็เริ่มวิ่งได้ระยะทางเพิ่มขึ้นในแต่ละวัน ช่วงแรกจะปวดขามากๆ เพราะกล้ามเนื้ອมันหายไปเยอะมากช่วงที่นอนโรงพยาบาล ต้องซ้อมอยู่หลายวันกว่าจะวิ่งต่อเนื่องได้สิบห้านาที ผมเลยต้องเวทเทรนนิ่งควบคู่ไปด้วย ล่าสุดก่อนรับยารอบนี้ก็เล่นได้ทุกท่านะ แต่น้ำหนักลดลงจากที่เคยยกได้มากๆ ก็ค่อยๆซ้อม ค่อยๆหาสมดุลของ ร่ า ง กาย เรียกความฟิตกลับมาเท่าที่ไหว หวังว่าวันหนึ่งจะกลับไปเล่นบาสได้
ซึ่งการทำอะไรพวกนี้ มันรู้สึกว่าได้มีบางส่วนของชีวิตที่เราพอจะพยายามเพื่อเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ของมันได้บ้าง ในส่วนของสิ่งที่เราทำได้แค่เชื่อ และภาวนา คือเรื่องการตอบสนองต่อย า เค มี บำบัดและภูมิคุ้มกัน บำ บัด ส่วนนี้เป็นสิ่งที่เราทำได้แค่ภาวนาให้น้องมะเร็งตอบสนองกับยาที่ให้ไปเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันเอกซเรย์ปอดดูดีขึ้นครับ ก้อนใหญ่ด้านขวามีขนาดเล็กลง และก้อนน้อยๆที่ปอดซ้ายก็ดูจางลงครับ ผลข้างเคียงที่ชัดๆก็มีแค่เรื่องผมร่วง กับอ่อนเพลีย ยังไม่มีผลข้างเคียงรุนแรงอะไร ผมเป็นคนที่เชื่อในวิทย าศาสตร์และหลักการทางวิจัยก็จริง การที่มันตอบสนองก็คงมีกลไกของ ย า
ตามที่การศึกษาได้บอกไว้ แต่อีกส่วนหนึ่งผมก็เชื่อว่าเป็นเพราะมีผู้หวังดีหลายๆท่าน ทั้งที่ผมทราบ และที่ผมไม่ทราบ ได้ทำการภาวนา สวดมนต์ทำบุญ รวมถึงอีกหลากหลายวิธีที่ผมก็เพิ่งรู้ว่ามันส่งพลังได้ เพื่อที่จะส่งมอบพลังดีๆให้กับผมเพื่อให้โร-ค นี้สงบ ให้ผมมีสุขภาพแข็งแรง ผมขอบพระคุณจากใจจริงครับ ผมเชื่อจริงๆว่า ส่วนของสิ่งที่ไม่ใช่วิทยาศาสตร์นี้ล้วนประกอบกันทำให้
ณ ปัจจุบัน การรักษาของผมจึงเป็นไปได้ด้วยดี ตัวผมเองก็สวดมนต์ทำบุญอยู่ตลอด และหวังว่าทุกท่านที่ส่งต่อพลังดีๆให้ผมจะได้พบเจอสิ่งดีๆในชีวิตเช่นกันครับ . ณ ตอนนี้ดูเหมือนเรื่องราวจะไปได้สวย โรคดูเหมือนจะตอบสนอง แต่ยังไงก็ตามเราต้องไปติดตามหลังจากได้รับการรักษาครบอีกที แล้วหลังจากนั้นก็ต้องไปดูด้วยว่าก้อนในหัวเล็กลงไหม มีก้อนใหม่ขึ้นที่อื่นใน ร่ า งกายไหม การต่อสู้นี้ยังอีกยาวไกลครับ แต่ตอนนี้ แค่วันนี้เท่านั้น ที่ผมมีแรงลุกขึ้นมาเดิน มาวิ่งได้ ออกมากินข้าว และมาพิมพ์โพสต์นี้ได้ วันนี้เท่านั้นที่ผมมี และผมจะไม่ใช้ วันนี้ ไปกับการนั่งคิดว่าโร-คผมจะโตขึ้นหรือลุกลามเยอะขึ้นเมื่อไร ผมจะใช้วันนี้เตรียมร่-างกายให้ดีที่สุด ขอให้ทุกคนใช้ชีวิตให้สนุกและมีสุขภาพที่แข็งแรงครับ
ขอบคุณ เพจ สู้ดิวะ
เรียบเรียง สยามนิวส์
ความเห็น 11
Anong刘玉秀78
ขอให้ร่างกายค่อยๆดีขึ้นแล้วหายป่วยในที่สุดนะคะ
28 พ.ย. 2565 เวลา 06.00 น.
jrp
ข่าวดี(สู้ดิวะ)
27 พ.ย. 2565 เวลา 12.01 น.
roong
อ่านแล้วรู้สึกดีใจจัง ยังคิดอยู่เลยว่าคุณหมอเป็นยังไงมั่ง อ่านแล้วน้ำตาไหล ตัวเองก็แย่ยังอุตส่าห์มาเพิ่มพลังบวกให้คนอื่น ขอให้หายดีเป็นปกตินะคะ หายดีวันดีคืน จะบอกว่าตัวเราเองตอนนี้ก็ประสบโรคเข่าเสื่อม ทรมานเหมือนกัน จิตใจย่ำแย่กับการเปลี่ยนแปลงในชีวิต แต่จะสู้และไม่ยอมแพ้กับโชคชะตาเช่นเดียวกับคุณหมอค่ะ
27 พ.ย. 2565 เวลา 11.29 น.
พรพิมล
เป็นกำลังใจให้คุณหมอค่ะ สู้ๆ นะคะ
27 พ.ย. 2565 เวลา 11.07 น.
อำพร
เป็นกําลังใจเป็นแรงใจเดินไปข้างหน้าอย่างแข็งแรง
27 พ.ย. 2565 เวลา 11.00 น.
ดูทั้งหมด