จนท.ลุยช่วยลูกเรือประมง ถูกพายุซัด‘จม’ ลอยคอกลางทะเล‘เกาะกูด’ 9 ชม.
เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 13 กรกฎาคม 2565 ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 1 (ศรชล.ภาค 1) โดยศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดตราด (ศรชล.จว.ตร.) ศูนย์รักษาความปลอดภัยทางทะเล (ศรชล.) ประสานหน่วยปฏิบัติการเกาะกูด (นปก.เกาะกูด) , อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง และศูนย์รักษาความปลอดภัยทางทะเลเกาะช้าง (ศรภ.เกาะช้าง) เพื่อร่วมบูรณาการตรวจสอบ ช่วยเหลือผู้ประสบภัย เรือประมงชื่อโชคมนัสนันท์ 1 ที่จมลงบริเวณหน้าเกาะกูด ต.เกาะกูด อ.เกาะกูด จ.ตราด และมีลูกเรือชาวกัมพูชาลอยคออยู่กลางทะเล พร้อมเกาะทุ่นลอยอยู่กับเรือประมงที่จม
หลังรับแจ้ง ศรชล.ตร.ได้ประสาน ศรชล.ภาค1 และ มชด.นำเรือ ต.227 ให้ออกช่วยเหลือผู้ประสบภัยดังกล่าว จึงได้นำเรือ ต.227 ออกจากท่าเรืออเนกประสงค์คลองใหญ่ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ไปให้การช่วยเหลือ และเวลา 08.00 น. เรือ ต.227 นำผู้ประสบภัยเข้าเทียบท่าเรืออเนกประสงค์คลองใหญ่และนำส่ง รพ.คลองใหญ่ ตรวจดูอาการซึ่งทุกคนปลอดภัย แต่มีอาการอ่อนเพลียจากการลอยคอเกาะทุ่นประมงในทะเลนานเกือบ 9 ชม. โดยเหตุเกิดในเวลา 23.30 น.วันที่ 12 กรกฎาคม 2565 ส่วนการให้ความช่วยเหลือได้ประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบดำเนินการตามระเบียบต่อไป ซึ่งเจ้าของเรืองคือ นางสาวมนัสนันท์ รุนไพรัตน์ บ้านอยู่ที่ อ.เมือง จ.จันทบุรี
นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวว่า จ.ตราด ได้รับการร้องขอความช่วยเหลือ กรณีเรือโชคมนัสนันท์ 1 กำลังจะจมบริเวณหน้าเกาะกูด ซึ่งเรือดังกล่าวเป็นเรือประมงพื้นบ้าน ขนาด 6-7 ตันกรอส มีลูกเรือ 6 คน เป็นคนไทย 1 คน กัมพูชา 5 ลูกเรือชาวกัมพูชาเป็นแรงงานถูกกฎหมายทั้งหมด โดยทางจังหวัดตราดได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบของทางราชการต่อไป
ส่วนนายมานพ เหลืองอ่อน เจ้าท่าสาขาตราด แจ้งเตือนเรือประมงขนาดเล็กที่ต่ำกว่า 10 ตันกรอส งดออกทำการประมงในระยะนี้ ส่วนเรือใหญ่ยังสามารถออกทำประมงได้ แต่ต้องตรวจสอบสภาพภูมิอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา เพื่อให้แน่ใจว่าจะเดินทางด้วยความปลอดภัย รวมทั้งเรือโดยสารขนาดเล็กที่ข้ามไปยังหมู่เกาะต่างๆให้งดออกเดินทางไป รวมเรือสปีดโบ๊ทด้วย จนถึงวันที่ 14 กรกฎาคม 2565
-005
