ระทึกอ่าวปัตตานี! ชาวประมงนำเรือกราดหอยแครงกว่า 80 ลำ ล้อมเจ้าหน้าที่
วันที่ 26 ก.ย.65 จากกรณีมีพันธุ์หอยแครงเกิดขึ้นบริเวณชายฝั่งรอบอ่าวปัตตานีเป็นจำนวนมากในรอบหลายสิบปี ทำให้ชาวประมงแตกตื่นแหกันนำกราดติดเครื่องยนต์กราดพันธุ์หอยนำไปขายให้พ่อค้า จึงทำให้ชาวประมงกลุ่มทำประมงเชิงอนุรักษ์เป็นห่วงต่อทรัพยากรในอ่าว โดยเฉพาะพันธุ์หอยแครงที่เกิดขึ้นอาจเป็นส่วนหนึ่งของการทำประมงเชิงอนุรักษ์ที่มีกระจัดกระจ่ายรอบอ่าว จำนวน 5 แห่งด้วยกัน จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานเจ้าหน้าที่บ้านเมืองที่รับผิดชอบเข้ามาดำเนินการแก้ไขก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้
ล่าสุดเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 9 จังหวัดปัตตานี ได้นำเรือไฟเบอร์ตรวจการ จำนวน 2 ลำ และเจ้หน้าที่ศูนย์ปราบปรามประมงทะเล จังหวัดปัตตานี ได้นำเรือยาง 1 ลำ ร่วมปฏิบัติการณ์ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีมีการลักลอบใช้เครื่องยนต์กราดลูกพันธุ์หอยแครงบริเวณชายฝั่งบริเวณบ้านดาโต๊ะ บ้านตะโล๊ะสะมีแล และบริเวณบ้านบูดี
เมื่อเรือเจ้าหน้าเข้ามาถึงก็เห็นว่ามีการลักลอบกราดหอยจริง จึงมุ่งหน้าเดินเรือเข้าใกล้เพื่อเข้าห้ามปรามและตักเตือนในขั้นตอนแรก แต่เมื่อเห็นเรือเจ้าหน้าที่เดินเรือเข้ามา ต่างคนต่างหลบหนีไป แต่เนื่องจากสภาพอ่าวมีความตื้นเขินจึงสุ่มเสี่ยงที่อาจทำให้เรือติดได้จึงไม่ไล่ตาม เจ้าหน้าที่เลือกตั้งแสตนบายความพร้อมเพื่อเฝ้าระวัง จนกระทั่งเรือประมงกราดหอยเริ่มทยอยเดินเรือเข้ามาประชิดกับเรือของเจ้าหน้าที่ในลักษณะล้อมเจ้าหน้าที่ พร้อมส่งเสียงดังเอะอะ กล่าวหาเจ้าหน้าที่รังแกประชาชน
เจ้าหน้าที่ก็พยายามสงบสติอารมณ์ แล้วชี้แจงข้อกฎหมายบ้านเมืองกรณีการทำประมงใช้เครื่องยนต์กราดหอยนั้นผิดกฎหมาย มีโทษปรับหลักแสนบาท จึงอยากให้ชาวประมงเปลี่ยนจากใช้เครื่องยนต์กราดมาใช้งมด้วยมือ หรืออาจจะใช้กราดแต่กราดด้วยมือเท่านั้น แต่ชาวประมงดังกล่าวยังอ้างเหตุผลเพื่อที่จะยังคงใช้เครื่องยนต์กราดเหมือนเดิม หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่พยายามชี้แจงข้อกฎหมายและเรียกร้องไม่ใช้เครื่องยนต์กราดต่อจากนี้ ทุกคนก็ยอมสลาย ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเดินทางกลับ
ส่วนมาตรการต่อไปหลังจากนี้ได้มีการหารือกับประมงจังหวัดปัตตานีแล้วว่า ถ้าชาวประมงเหล่านี้ยังคงใช้เครื่องยนต์กราดลูกพันธุ์หอยแครงกันต่อไป คงต้องมีการบันทึกกล่องให้หมดเพื่อดำเนินการแจ้งความตามกฎหมาย จึงอยากฝากพี่น้องประชาชนที่ลักลอบทำประมงกราดหอยแครงด้วยเครื่องยนต์ หลังจากนี้เจ้าหน้าที่คงต้องบันทึกภาพเพื่อดำเนิน ซึ่งมีคาดโทษปรับสูงถึงหลักแสนและยึดอุปกรณ์มือการทำประมงโดยไม่มีข้อยกเว้น จึงอยากให้เปลี่ยนวิธีการจับหอยแครงลักษณะแบบงมกับมือ เลือกจับตัวโตเต็มวัยซึ่งมีราคาสูงมาก เหมือนชาวประมงในพื้นที่รอบอ่าว ที่ยังยึดการงมหอยแครงยึดเป็นอาชีพเลี้ยงครอบครัวได้ เขาเหล่านี้ก็จะมีหอยให้งมจับมากขึ้น