แม้เงินจะไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ยอมรับเถอะว่าหลายอย่างที่ต้องใช้ล้วนต้องจ่ายเป็น ‘เงิน’ แทบทั้งนั้น ทว่าหนทางหาเงินกว่าจะได้มาแต่ละบาทก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องแลกด้วยหยาดเหงื่อแรงกายสายตัวแทบขาดกันทั้งนั้น นั่นจึงเป็นสาเหตุที่หลายคนพยายามมองหาหนทางหาเงินให้เหนื่อยน้อย แต่ได้เงินเยอะ เป็นการดี และหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมเพราะความง่าย และได้ผลตอบแทนที่หอมหวาน นั่นก็คือการเสี่ยงโชค แทบเรียกได้ว่าใช้ ‘ดวง’ เป็นตัวตั้ง พูดแบบบ้านๆ คือ วางตังค์แล้วนั่งลุ้นกันไปว่าจะได้หรือจะอด ในขณะที่ยังมีอีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่นิยมลุ้นเสี่ยงโชค แต่ชอบที่จะใช้การวิเคราะห์สถานการณ์และค่อยๆ ขยายฐานเงินทุนให้โตเป็นลำดับ จับตาดูสถานการณ์แล้วไหวตัวให้ทัน นั่นก็คือการลงเล่น ‘หุ้น’
ทีนี้อะไรทำให้ประโยคที่ชอบพูดกันว่า “คนจนเล่นหวย คนรวยเล่นหุ้น” กันนะ.. อาจเป็นเพราะเชื่อกันว่าการเล่นหุ้นต้องใช้เงินเยอะกว่าการเล่นหวย หรือจะเป็นเพราะหวยเข้าใจง่าย ให้ผลตอบแทนมากกว่าหุ้น … คราวนี้เรามาดูข้อดีและข้อที่แตกต่างระหว่างสองสิ่งนี้กัน
เริ่มที่เรื่องของ ‘หวย’
รู้ๆ กันว่า ‘หวย’ เป็นสิ่งที่ไม่ถูกกฎหมาย และมีโอกาสอย่างมากที่เจ้ามือจะชิ่งหนี และไม่มีใครช่วยได้ ถ้าอยากเสี่ยงโชคแบบปลอดภัย จะให้ดีควรเลือก 'สลากกินแบ่งรัฐบาล' ที่มีรางวัลให้หลายรางวัลกว่าการเล่น หวย และที่สำคัญคือถูกกฎหมาย ถ้าได้รางวัลก็ไม่มีการหนีแน่นอน
ทีนี้ อย่างที่รู้กกันว่าคนเกือบทั่วประเทศมีส่วนร่วมลุ้นรางวัลสลากกินแบ่งฯทุกวันที 1และ 16 ของเดือน ยกเว้นช่วงสิ้นปีที่จะได้ลุ้นสามรอบเพราะยกยอดของปีใหม่มาให้ชื่นใจเป็นเรื่องดีๆ ส่งท้ายปี (สำหรับผู้ที่ถูกรางวัล) และการที่จะถูกรางวัลนั้น ซื้อสลากแค่ใบเดียวก็มีโอกาสไม่มากเท่ากับซื้อหลายใบ ดังนั้นการลงทุนต่อ 1 ครั้ง ส่วนใหญ่มักใช้เงินมากกว่า 100บาท อาจเรียกได้ว่า ยิ่งซื้อมากยิ่งกระจายโอกาส มีสิทธิ์ลุ้นได้หลายรางวัล และถ้าอยากได้รางวัลก้อนโต ก็ต้องซื้อเบอร์เดียวกันหลายใบ เชื่อเหลือเกินว่าใช้เงินหลักพัน เผลอๆ มีแตะหมื่นนะลองคิดดูดีๆ
แล้วก็มาที่เรื่องของ ‘หุ้น’
หลายคนคิดว่า หุ้น เป็นเรื่องยาก ต้องมีเงินก้อน ต้องเปิดบัญชี สารพัดพิธีรีตรองอีกมากมาย แต่จากการเสาะหาข้อมูลพบว่าการเล่นหุ้นเริ่มต้น สามารถเริ่มได้แม้มีเงินแค่หนึ่งพันบาท คิดแบบง่ายๆ ก็อาจคล้ายการซื้อสลากกินแบ่งประมาณสิบ(กว่า)ใบ และเดี๋ยวนี้ไม่ยุ่งยากเหมือนแต่ก่อน สามารถจัดการทุกความต้องการได้ในมือถือสมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียว
มาดูกันที่เรื่องของ ‘ความเสี่ยง’
ก่อนหน้านี้เราอาจเคยได้เห็นข่าวนักธุรกิจเจ๊งเพราะหุ้นมามากมาย แต่จะว่ากันไปแล้วคนที่ผิดหวังจากการลุ้นรางวัลสลากกินแบ่งฯ ก็มีมากมายไม่น้อยไปกว่ากัน และอันที่จริงแล้วในการลุ้นโชคเสี่ยงดวงนั้น ลงเงินไปเท่าไหร่ก็ตาม พอถึงวันประกาศผล(ว่าไม่ได้รางวัล) ผลที่ออกมาก็มีแต่ได้ กับเสียไปแบบหายวับไปกับตา ในขณะที่การเล่นหุ้นบางประเภทแม้จะขาดทุน มูลค่าถดถอยค่อยๆ เข้าเนื้อไปเรื่อยๆ แต่ถ้ารู้ตัวและตัดสินใจได้ไว(และเด็ดขาด) โอกาสที่จะได้ถอนเงินทุนที่ยังหลงเหลือออกมาเพื่อเอาไปลงทุนในหุ้นใหม่ก็สามารถทำได้ เริ่มเห็นความแตกต่างกันแล้วใช่ไหมล่ะ
แล้วถ้าเป็นเรื่องของ ‘ความมั่นคง’ ล่ะ
การเล่นหุ้นนั้น ถ้าตั้งใจศึกษาข้อมูลให้ดี รู้จักคิด วิเคราะห์ และจัดการพอร์ตอย่างรอบคอบ ก็อาจมีเงินปันผลสะสมเรื่อยๆ เรียกว่าอยู่เฉยๆ ก็ได้กำไร จะว่าเป็นสิ่งที่เรียกว่า passive income ก็ได้ แต่ในขณะที่การลุ้นรางวัลนั้น ในกรณีที่ถูกรางวัลก็จะได้เงินมาครั้งเดียว หากอยากได้อีกก็ต้องลงเงินกันใหม่อีกรอบ แต่ก็ไม่มีทางรู้ได้เลยว่าจะถูกรางวัลอีกรอบด้วยหรือไม่ และส่วนใหญ่รางวัลมักไม่ออกตัวเลขซ้ำกับงวดที่แล้วเสียด้วยสิ
แต่ถ้าพูดถึงเรื่อง ‘ความตื่นเต้น’
สิ่งที่คาดเดาไม่ได้อย่างการหมุนเลขสุ่มรางวัล แน่นอนว่าย่อมให้ความตื่นเต้นมากกว่าการเลือกซื้อหุ้นที่เราสามารถดูสถิติต่างๆ ผลประกอบการย้อนหลัง กระแสข่าว เทรนด์ธุรกิจ ฯลฯ เป็นการเลือกลงเงินไปกับสิ่งที่มีเหตุผล และมุมมองที่ต่างกันไป และที่สำคัญคือการเล่นหุ้นสามารถตามดูข่าวและข้อมูลได้ทุกวันทำการ ในขณะที่การลุ้นผลรางวัลนั้นมีแค่เดือนละ 2ครั้ง และความที่มันมีลุ้นมากกว่านี่แหละ จึงเป็นเสน่ห์ที่ทุกคนหลงใหล
จากมุมมองอย่างคร่าว ๆ ง่าย ๆ ที่กล่าวมาในทั้งหมดนี้ อาจพอจะช่วยเปลี่ยนมุมมองในเรื่องของทั้งสองอย่างนี้ได้บ้างไม่มากก็น้อย เช่นหากคนมีฝันอยากได้อะไรที่มั่นคงก็อาจลองแบ่งเงินมาลงทุนกับหุ้นบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ พอให้อุ่นใจ แต่ก็อย่าลืมเจียดเงินมาลุ้นโชคเสี่ยงรางวัลเดือนละครั้ง-สองครั้งเป็นสีสันชีวิต ส่วนคนที่มองเรื่องการเสี่ยงโชคมันไร้สาระ ลองเปลี่ยนค่ากาแฟมาเป็นการลองซื้อสลากกินแบ่งฯสักใบสองใบ ลองใช้ความรู้สึกนำเหตุผลตอนอยู่หน้าแผงล็อตเตอรี่ แล้วลุ้นผลที่จะออกมาช่วงสี่โมงเย็นของวันที่ 1 และ 16 ของทุกเดือน แล้วจะพบว่ามาทางนี้ก็มีเสน่ห์ ได้ความสนุกดีเหมือนกัน ไม่ลองไม่รู้นะ
