เจสซี่ ลินการ์ด ตัวรุก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดเผยเรื่องราวสุดอบอุ่นหัวใจ ทำไมเขาถึงลงสนามให้กับทีมปีศาจแดงด้วยรอยยิ้มทุกครั้ง
ผลผลิตจากทีมชุดเยาวชนของ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้รับโอกาสประเดิมสนามเมื่อปี 2014 ภายใต้การคุมทีมของ หลุยส์ ฟาน กัล แต่ในความน่ายินดีนั้นก็กลายมาเป็นความโชคร้าย เมื่อเขามีจังหวะปะทะอย่างหนักกับ แอชลี่ย์ วิลเลียมส์ ของ สวอนซี ทำให้ได้รับบาดเจ็บหนักจนต้องพักยาว
“ตอนที่ผมได้ประเดิมสนามกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมเจอ สวอนซี ย้อนไปเมื่อปี 2014 มันเป็นผลตอบแทนจากการทำงานอย่างหนักมาตลอดหลายปี ครอบครัวของผมอยู่บนอัฒจันทร์ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ตอนนั้นผมอายุ 22 ปี ตามที่ เซอร์ อเล็กซ์ คาดหมายเอาไว้” ลินการ์ด กล่าว (อ่านข่าว “ลินการ์ด เผยคำแนะนำจาก เซอร์ อเล็กซ์ ที่ทำให้เขามีอาชีพค้าแข้งที่ดี” คลิกที่นี่)
“จากนั้นผมก็มีปัญหากับหัวเข่าหลังผ่านไป 20 นาที ผมได้ยินเสียงมันดังแกร๊ก ผมรู้แล้วล่ะว่ามันต้องเกิดอะไรขึ้น ผมจำได้ว่าเจอพี่ชายของผมหลังแมตช์ เขาถึงกับน้ำตาคลอเพราะเขารู้ความหมายของมันดี มันไม่ใช่แค่อาการบาดเจ็บ แต่มันเป็นเรื่องของทุกๆ อย่าง”
“ผมทำอะไรไม่ได้เลยนานถึง 6 เดือน ซ้อมก็ไม่ได้ เดินก็ไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้จริงๆ ผมได้แต่นอนอยู่บนโซฟาชมเกมของ ยูไนเต็ด ผ่านรายการ Match of the Day มันน่าเจ็บปวดเหลือเกิน บางทีมันอาจจะเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายสุดในชีวิตของผมก็ได้ ตอนนั้นผมรู้สึกหดหู่มาก”
“แต่มันก็ทำให้ผมได้มีเวลามาคิดทบทวนเกี่ยวกับชีวิตของผม ได้ตระหนักว่าทุกอย่างสามารถเข้ามาแล้วก็ผ่านไปได้อย่างรวดเร็ว คุณรู้ไหมว่าผมหมายถึงอะไร ผมหมายถึงว่าต่อให้คุณทำงานอย่างหนักและมีพรสวรรค์ มันก็ไม่ได้มีอะไรที่สามารถการันตีได้ทั้งนั้นแหละ”
“เมื่อผมร่วงลงสู่ก้นเหวแบบนั้นมันจึงทำให้ผมรู้สึกเห็นคุณค่าทุกครั้งที่ได้สวมเสื้อแข่งของ ยูไนเต็ด มันต้องใช้เวลานานถึง 14 เดือนกว่าที่ผมจะได้รับโอกาสสวมเสื้อ ยูไนเต็ด อีกครั้ง นับตั้งแต่นั้นมาผมก็ไม่เคยหยุดยิ้มอีกเลย ถ้าหากว่าคุณไม่ชอบมันผมก็ขอโทษแล้วกัน แต่ผมคงเปลี่ยนมันไม่ได้หรอก“
สำหรับ ลินการ์ด ปัจจุบันกลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นตัวหลักของ แมนฯ ยูไนเต็ด ไปแล้ว โดยในฤดูกาลนี้เขาลงสนามให้กับทีมปีศาจแดงรวมทุกรายการไป 23 เกม ยิงประตูได้ 4 ลูก จนถึงขณะนี้
