เสี่ยพาแม่เข้าโรงจำนำ! ไถ่เครื่องมือหากินให้ชาวบ้าน-แจกอีก300 ลุงดีใจต่อแต่ดอก16ปี
วันที่ 7 พ.ค. ที่สถานธนานุบาลเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี หรือโรงรับจำนำ ถนนขุนแผน อ.เมือง จ.สุพรรบุรีนายเอก ปทุมรัตน์ และ นางจินตนา ปทุมรัตน์ มารดา เจ้าของธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ชาวสุพรรณบุรี เดินทางเข้าพบ นายศวัส สุขชมทอง ผู้จัดการฯ สถานธนานุบาลฯ เพื่อแจ้งความประสงค์ขอไถ่ถอนเครื่องมือช่างให้ชาวบ้านเพื่อให้นำกลับไปใช้ทำมาหากิน โดยมีเงื่อนไขต้องจำนำไว้ไม่เกินชิ้นละ 1 พันบาท เมื่อ นายศวัส ตรวจสอบแล้วพบว่า มีอยู่ 23 รายเข้าข่ายตามเงื่อนไข จึงแจ้งให้ลูกค้าทั้ง23ราย นำหลักฐานมาไถ่ถอนตามขั้นตอน
จากนั้นไม่นานมี ลุง ชาวอ.บางปลาม้า อายุ 65 ปี ขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างนำเอกสารมายื่นไถ่ถอนคืนด้วยความดีใจ พร้อมเปิดเผยว่า เมื่อได้รับโทรศัพท์แจ้งว่ามีคนใจดีมาไถ่ถอนกบไฟฟ้าให้ ตกใจมาก แต่ก็ดีใจรีบขี่รถมาเลย ตนมีอาชีพเป็นช่างไม้รับทำเฟอร์นิเจอร์ แต่ด้วยอายุมากแล้ว งานไม่ค่อยมี ก็ยังพอมีลูกค้าประจำจ้างบ้าง ซ่อมอะไรเล็กน้อย มีรายได้นิดหน่อย ยึดอาชีพช่างไม้มาหลายสิบปี ถ้าถามถึงอุปกรณ์ทำมาหากิน กบไฟฟ้าตัวนี้ ตนเอามาจำนำเมื่อ ปี 2547 ได้เงินไป 1 พันบาทส่งดอกเบี้ยเรื่อยมากว่า 16 ปี
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
" คิดว่าสักวันจะมาไถ่ถอนคืน เพราะเป็นเครื่องมือที่ผมรัก ไม่อยากให้หลุดจำนำ ส่งดอกเบี้ยมาทุกเดือน แต่ผ่านมา 16 ปี ก็ยังไม่ได้มาไถ่คืนเสียที พอวันนี้รู้ว่ามีคนใจดี มาไถ่ถอนคืน ดีใจมาก ขอขอบคุณในน้ำใจ เพราะจะได้เอาไปทำงานต่อ ถึงแม้ช่วงนี้รายได้น้อย ไม่ค่อยมีใครจ้างงาน เนื่องจากโควิด-19 ผมก็อยู่บ้านรับจ้างทำงานเล็กๆน้อยๆ เท่าที่มีคนจ้าง ลุงต้องขอขอบคุณผู้ใจดีทั้งสองท่าน แม้ไม่ได้รู้จักชื่อ ดีใจจนพูดอะไรไม่ออก ทั้งต้นและดอกรวมเป็นเงิน 1,007 บาท แล้วยังมอบเงินให้อีก 300 บาท ขอบคุณจริงๆซึ้งในน้ำใจอันดีงาม หากมีโอกาสอยากจะตอบแทนสักครั้ง " ลุงกล่าวด้วยความดีใจ ก่อนนำกบไฟฟ้าใส่รถพ่วงข้างกลับบ้าน ด้วยรอยยิ้มเล็กๆ ที่อิ่มเอมใจ ทั้งผู้ให้และผู้รับ
ด้านนายเอก กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มาซื้อของที่ตลาดสดในเมืองสุพรรณ เดินผ่านโรงรับจำนำ ห็นมีคนหิ้วเครื่องมือช่างมาจำนำ จึงมีความรู้สึกว่า น่าจะเดือดร้อนลำบากในช่วงสถานการณ์แบบนี้เลยกลับไปบ้าน เล่าให้แม่ฟัง แล้วจึงมีแนวคิดเรื่องนี้ว่าเราจะช่วยอะไรได้บ้างไหม จึงประสานโรงรับจำนำให้ตรวจสอบยอดเครื่องมือช่างที่มีคนนำมาจำนำ โดยตนจะไถ่ถอนให้ทั้งต้นและดอกเบี้ย แต่ต้องไม่เกินรายละ 1 พันบาทซึ่งทราบว่ามี 23 ราย
" วันนี้ผมและแม่เลยฝากเงินสดไว้กับทางโรงรับจำนำกรณีที่มีคนมาไถ่ถอน ตามเงื่อนไขและได้ฝากเงินเพิ่มให้อีกรายละ 300 บาท เป็นค่าเดินทางและค่าอาหารมาไถ่ถอนด้วย ผมไม่ได้ร่ำรวยอะไร แต่คิดแล้วว่า ไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรง เราพอจะช่วยคนอื่นได้ ในฐานะคนไทยด้วยกัน เป็นน้ำใจเล็กๆน้อยๆ ที่เขาจะได้เอาเครื่องมือไปทำมาหากินต่อยอดหาเลี้ยงชีพต่อไป "
ส่วน ผู้จัดการ สถานธนานุบาลฯ เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงวิกฤตโควิด-19 ส่วนใหญ่ประชาชนที่นำสิ่งของมาจำนำประเภททองคำรูปพรรณ พากันมาไถ่ถอนออกไปขายจำนวนมากเพื่อจะได้เงินเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากราคาทองคำสูงขึ้น ส่วนลูกค้ารายย่อยที่ไม่มีทองคำ ก็จะนำเครื่องมือช่างมาจำนำ แต่ให้ได้ในราคาไม่สูงมากนักตอนนี้มีอยู่ 39 ราย
" ซึ่งวันนี้ได้มีผู้ประสงค์ติดต่อมาขอไถ่ถอนให้เฉพาะเครื่องมือช่างที่เป็นอุปกรณ์ทำมาหากิน ที่จำนำไว้ไม่เกินชิ้นละ 1 พันบาท พร้อมดอกเบี้ย เมื่อได้ตรวจสอบแล้วพบเข้าเงื่อนไขตามที่ผู้ใจดีแจ้งมานั้นมีอยู่ 23 ราย ซึ่งผมได้แจ้งให้ลูกค้าที่นำเครื่องมือช่างมาจำนำทราบแล้ว เพื่อให้นำหลักฐานมาไถ่ถอนตามขั้นตอน "