โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

"อนุสรณ์"ดันใช้พรบ.ควบคุมโรคแทน"ฉุกเฉิน" วอนเจ้าสัวแก้ "หุ้นกู้" ด้วยตัวเอง

MATICHON ONLINE

อัพเดต 26 เม.ย. 2563 เวลา 08.18 น. • เผยแพร่ 26 เม.ย. 2563 เวลา 08.11 น.
อนุสรณ์ ธรรมใจ

 “อนุสรณ์”ดันใช้พรบ.ควบคุมโรคแทน”ฉุกเฉิน” วอนเจ้าสัวแก้ “หุ้นกู้” ด้วยตัวเอง

เมื่อวันที่ 26 เมษายน นายอนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการและผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนานโยบายสาธารณะ สำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ประเทศไทยสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ได้ดี หากไม่มีการแพร่ระบาดระลอกสอง สามารถพิจารณาได้ว่ามาตรการสาธารณสุขของไทยมีประสิทธิผลในเฟสแรก แต่มีต้นทุนทางเศรษฐกิจสูงมาก การใช้มาตรการที่เป็นยาแรงยาวนานเกินไปอาจทำให้ ประชาชนลำบาก ธุรกิจ ต้องปิดกิจการ หรือเข้าสู่ภาวะล้มละลายมาก จำนวนผู้เสียชีวิตจากการทำอัตวินิบาตกรรมอาจสูงกว่าผู้เสียชีวิตจากโรค

“เห็นควรใช้ พ.ร.บ. ควบคุมโรคติดต่อแทนพรก.ฉุกเฉิน เพราะมีประสิทธิภาพและผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์น้อยกว่า ความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดในเฟสแรกของไทยเป็นผลจากความมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผลของระบบการทำงานสาธารณสุข ความร่วมมือและความระมัดระวังตัวเอง”นายอนุสรณ์กล่าว

นายอนุสรณ์กล่าวอีกว่า ขอเสนอเพิ่มงบกระทรวงสาธารณสุขไม่ตํ่ากว่า 250,000-300,000 ล้านบาท เพื่อดำเนินการ 1. สุ่มตรวจการติดเชื้อให้กับประชาชนฟรี โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงสูง  2. ให้ใช้มาตรการติดตามผู้ติดเชื้อและผู้มีความเสี่ยงกักกันตัวเองหรือรัฐช่วยกักกัน 3.ยกระดับคุณภาพโรงพยาบาลในต่างจังหวัดให้เป็นโรงพยาบาลศูนย์เพิ่มอีกอย่างน้อย 30 แห่งทั่วประเทศ

4.ยกระดับคุณภาพโรงพยาบาล หรือ สร้างโรงพยาบาลใหม่ แบบสถาบันบำราศนราดุลในภูมิภาคอีกไม่ตํ่ากว่า 8 แห่ง 5. จัดสร้างศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพและการกักตัวในทุกจังหวัด

6. สนับสนุนการผ่อนคลายกฎระเบียบและการลดหย่อนภาษีให้กับการลงทุนขยายบริการโรงพยาบาลเอกชนในการป้องกันและรักษาโรคและโรคระบาด 7.ลงทุนเพิ่มเตียงต่อประชากร ซึ่งขณะนี้ ไทยมีจำนวนเตียงต่อประชากร 2.4-2.5 เตียงต่อประชากร 1,000 คน ต้องเพิ่มให้เป็น 6.4 เตียงต่อประชากร 1,000 ซึ่งเป็นระดับเดียวกับเกาหลีใต้

นายอนุสรณ์ กล่าวว่า การที่มหาเศรษฐีที่ได้รับจดหมายจากนายกฯได้ตอบสนองการทำโครงการต่างๆที่เป็นประโยชน์เป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่จะยินดีมากยิ่งขึ้น หากมหาเศรษฐีจะใช้เงินส่วนตัวหรือเงินของกิจการของแต่ละคนไปดูแล “หุ้นกู้” ของตัวเอง โดยพยายามไม่ใช้เงินจากกองทุน 4 แสนล้านบาท หรือ กองทุน BSF ของธนาคารแห่งประเทศไทย หรือใช้ให้น้อยที่สุด

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ความเห็น 5

  • premanan silata
    ไม่ให้เจ้าสัวมาขอวงเงินกู้ของธนาคารชาติ ไอ้ ส.ส.เต๋ ก็อด ได้ค่ากล้วย 3 % ของ 400,000 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 12,000 ล้านบาท ไปแบ่งพวกเสือหิว ที่รออยู่ซิ ระวังหมูกำลังจะเข้าหาม ดันเอาคานมาสอดซะแล้ว
    26 เม.ย. 2563 เวลา 11.57 น.
  • prapat
    รวมหัวกันขุดบ่อล่อปลาอยู่ทุกวัน​ ถ้าทำตามพวกนี้แล้วมีผลเสีย​ พวกมันจะย้อนกลับมาด่าอีก​ ประชาธิปไตยคือพูดเก่ง​ พูดมาก​ พูดกลับไปกลับมา
    26 เม.ย. 2563 เวลา 09.52 น.
  • WERN
    เก่งทุกเรื่องเลยนะ
    26 เม.ย. 2563 เวลา 09.39 น.
  • P a n d o r a
    สู่รู้ นายแว่น
    26 เม.ย. 2563 เวลา 09.32 น.
  • ขนาดใช้พรกฉฉคนมันยังไม่กลัวเกรงเลยมึงเห็นไหมส่งฟ้องศาลเป็นหมื่นๆคนแล้วจะใช้พรบควบคุมโรคอย่างเดียวจะไหวเรอะคนส่วนมากเขาทนได้อาจาร์ทำไมทนไม่ได้อย่าทำเป็นปชตจ๋าเลยทุเรศเปล่าๆูความจริงดัวยหากเกิดเอาโรคไม่อยู่หน้าไหนรับผิโดดชอบอย่าทำเป็นพูดให้ดูดี
    26 เม.ย. 2563 เวลา 09.15 น.
ดูทั้งหมด