โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

เรื่องสั้น

ปล่อยให้รักนำทาง (อ่านฟรีก่อนติดเหรียญ)

นิยาย Dek-D

อัพเดต 19 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 19 ชั่วโมงที่ผ่านมา • ความฝันสีเงิน.
ปล่อยให้รักนำทาง (อ่านฟรีก่อนติดเหรียญ)
“อย่าให้ฉันต้องร้าย เพราะเธออาจจะรับไม่ไหว”

ข้อมูลเบื้องต้น

ปล่อยให้รักนำทาง

มาหยา x จอมทัพ ❤️

มาหยา มายาวี

สาวสวยที่ชอบทำตัวไม่เหมือนคนสวย หญิงสาวมากเสน่ห์ที่ไม่ได้มีดีแค่หน้าตา ดูเหมือนเธอจะธรรมดากว่าที่คิด

"เธอก็แค่ลูกสาวชาวไร่ชาวสวนต่างจังหวัดธรรมดาๆนี่แหละ ไม่ใช่ลูกสาวเศรษฐีสุลต่านที่ไหนหรอก"

โปรดอย่ามองหาคนเรียบร้อยอ่อนหวาน

มาหยา = ผ้ายับที่พับไว้

จอมทัพ รังสิมันต์

ชายหนุ่มที่พื้นเพยังคงเป็นปริศนา ผู้คนรับรู้เพียงว่าเขานั้นรวยมากถึงขั้นรวยที่สุด

"จอมทัพเขาเย็นชาร้ายกาจกับทุกคน แต่กับเธอที่แปลกกว่าใคร เขากลับคล้ายไม่เป็นตัวของตัวเอง"

โปรดอย่ามองหาความเป็นสุภาพบุรุษ เขาคือผู้ชายเย็นชาที่ดันพูดน้อยแต่ปากแซ่บ

จอมทัพ = คนเย็นชาแสนร้ายกาจ

***********

เธอสวย เธอน่ารัก เธอขี้อ้อน แต่บางทีเธอก็เหมือนผู้ชาย

เธอแปลกจนเขารับมือลำบาก

แต่ดูรวมๆแล้วดันมีเสน่ห์ประหลาด รู้ตัวอีกทีจอมทัพก็ไม่อาจละสายตาจากผู้หญิงที่ชื่อมาหยาได้อีกเลย

"มาหยา มานั่งนี่!"

"ไม่เอาหยาขี้เกียจ~"

"มึง! ขยับไปนั่งนู้น กูจะนั่งนี่"

"…." อะไรของพี่เขา

************

JOMTUP TALK:

"ผู้หญิงคนนี้รับมือยากมาก"

"มีแค่เขาเท่านั้นแหละที่มองว่าเธอแปลก"

MAYA TALK:

"ผู้ชายคนนี้ไม่เห็นเหมือนข่าวลือ"

"มีแค่เธอเท่านั้นแหละที่มองว่าราชสีห์น่ารัก"

❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️

❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️

คำเตือนสำคัญ!!??“?

เนื้อหาเป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่งเท่านั้น ไม่มีความจริงแต่อย่างใด เป็นเพียงเรื่องราวการจินตนาการและสมมุติขึ้นมา

ไม่มีเจตนาพาดพิงบุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือองค์กร รูปภาพ สถานที่ อาชีพให้เกิดความเสื่อมเสียแต่อย่างใด กรุณาอ่านเพื่ออรรถรสและโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ผู้ชมที่มีอายุน้อยกว่า18ปีควรได้รับคำแนะนำค่ะ

ปล. **เนื้อหามีคำหยาบและบางฉากที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสมและรุนแรง อย่าลอกเลียนแบบ**

ฝากติดตามนิยายเรื่องนี้ของไรท์กันด้วยน้าาาค้าาา เป็นซีรี่ย์ใหม่ของไรท์เองแต่ตัวละครจะเป็นใครบ้างขออุ๊ฟไว้ก่อนนะคะ

นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายแนวเน้นตัวละครค่ะ เป็นแนวน่ารักหวานแหวว คลั่งรัก และอีกมากมายเพื่ออรรถรส เน้นฮีลใจ ไม่เน้นสาระค่ะ ถ้าอ่านแล้วชอบ

??‘?

??‘?

??‘?

อย่าลืมกดหัวใจ + กดติดตามกันเอาไว้ด้วยนะคะจะได้ไม่พลาดตอนต่อๆ ไปที่ไรท์อัพ

และที่สำคัญเพื่อเป็นกำลังใจและสนับสนุนให้ไรท์ในการแต่งผลงานต่อๆ ไปค่ะ ❤️❤️❤️❤️

หมายเหตุ

กรุณาคอมเมนท์และวิจารณ์อย่างสุภาพ ไม่ชอบไม่เป็นไรค่ะ แต่ขอไม่บั่นทอนจิตใจไรท์นะคะ

สำคัญ??“???“?

นิยายเรื่องนี้สงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์พ.ศ. 2537 ห้ามคัดลอก ทำซ้ำ ดัดแปลงหรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของนิยายไปเผยแพร่ต่อ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงาน การกระทำโดยไม่ได้รับอนุญาตถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

????????????????

❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️

บทที่ 1

คลับH

21:00น.

“ฉลองงงง!!!” x4

สี่สาวร่างบางอ้อนแอ้นในชุดสุดเซ็กซี่ไม่น้อยหน้ากันชูแก้วแอลกอฮอล์สีสวยขึ้นเอ่ยฉลองออกมาพร้อมๆกันด้วยความยินดีก่อนที่พวกเธอจะจรดริมฝีปากอวบอิ่มที่มีเฉดสีแตกต่างกันไปของแต่ละคนไปกับแก้วเหล้าสีสวย สี่สาวแก้วแอลกอฮอล์ยกดื่มพรวดเดียวหมดราวกับน้ำเปล่า

สำหรับบางคนแอลกอฮอล์อาจจะทำให้แสบร้อนวูบวาบลำคอ บางคนอาจจะรู้สึกราวกับลำคอโดนเผาไหม้เพราะความร้อนแรง แต่สำหรับสี่สาวแล้วแอลกอฮอล์แค่นี้ไม่อาจทำอะไรคอของพวกเธอได้ ฉายาแก๊งส์หมอขี้เหล้าไม่ได้ได้มาเล่นๆ

แต่ถึงแม้จะขี้เหล้าแค่ไหนแต่การเรียนไม่เคยบกพร่อง ส่งทุกงาน เข้าใจเนื้อหาทุกอย่าง สอบได้คะแนนท็อปทุกครั้งไม่ว่าจะสอบย่อย สอบหลังจบเนื้อหา หรือสอบไฟนอล ถึงแม้จะบอกว่าสอบย่อยแต่ก็เป็นการสอบที่ยิ่งใหญ่และเต็มไปด้วยความเครียดความกดดันไม่ต่างจากสอบไฟนอลเลยแต่ดูเหมือนว่าวิชาการจะทำอะไรแก๊งนี้ไม่ค่อยได้สักเท่าไหร่ ถึงแม้ว่าการเรียนการสอบจะเน้นภาษาอังกฤษมากแค่ไหนก็ตาม

พูดเหมือนง่ายแต่ไม่เลยเพราะแต่ละอย่างก็คือเล่นเอานักศึกษาแพทย์หลายคนที่ถูกยอมรับจากผู้คนว่าเป็นพวกฉลาดหัวกะทิแทบจะหัวระเบิดกันเลยทีเดียว เป็นการเรียนการสอบที่หนักมากจริงๆ ซึ่งดูต่างจากกลุ่มของมาหยาอย่างมาก ที่ดูชิลล์ๆแต่ดันสอบออกมาแล้วได้คะแนนเยอะ แบบนี้เรียกหมกรึป่าว แต่เปล่าเลยพวกเธอก็อ่านก็ทำเหมือนคนอื่นๆ ต้องอ่านหนังสือ จดและก็จดทำความเข้าใจเหมือนๆกัน ที่เห็นไปเที่ยวหรือเห็นว่าว่างนั้นคือเวลาที่พวกเธอพักผ่อนสำหรับตารางชีวิตประจำวันนั้นเอง

สี่สาวแก๊งนี้ครบจบสูตรแทบจะเป็นสมบัติคณะ สอบเก่งเรียนเยี่ยมกีฬาเด่น และในที่สุดพวกเธอก็จบชีวิตนักศึกษาปี2คณะแพทยศาสตร์มาอย่างสวยงาม ด้วยเกรดเฉลี่ยที่สูงลิบเป็นอันดับต้นๆ ของคณะกันทุกคน ไล่มาตั้งแต่อันดับหนึ่งจนถึงอันดับสี่เรียงกันตามลำดับ เริ่มจาก..

มาหยา สาวสวยจากแดนเหนือผู้มีดวงตาเป็นเอกลักษณ์ นัยน์ตาตาเฉี่ยวสีเฮเซลหายากของเธอทำให้ใครที่ได้เห็นก็ราวกับว่าต้องมนต์สะกด ริมฝีปากอวบอิ่มฉ่ำน้ำได้รูปสวยรับกับจมูกเล็กที่โด่งรั้น ดวงตาทรงอัลมอนด์ยิ่งทรงเสริมให้ร่างบางที่มีรูปร่างสมส่วนสะโอดสะองมีเครื่องหน้าที่ชัดเจน ผิวพรรณขาวผ่องอมชมพูได้แม่ ความสวยระดับที่ดาราบางคนยังเทียบไม่ได้

มาหยาไม่ได้มีดีแค่สวยแต่ยังมีมันสมองที่ไม่ธรรมดา เข้าขั้นอัจฉริยะสำหรับในเรื่องของวิชาการ แค่อ่านครั้งเดียวก็สามารถจดจำได้ราวกับตัวเองเป็นคอมพิวเตอร์ประมวลผล แน่นอนว่าไอคิวที่ถูกวัดออกมาก็สูงลิ่วจนน่าตกใจ เธอคือความภาคภูมิใจของผู้เป็นมารดา

ข้าวหอม สาวสวยจากแดนเหนือเพื่อนรักเพื่อนตายของมาหยา สาวสวยอีกคนที่ถึงไหนถึงกัน เรียนเป็นเรียน เล่นเป็นเล่น ตั้งใจทำทุกวิชา และวันนี้คือวันที่พวกเธอมาปลดปล่อยหลังจากที่เครียดกับสัปดาห์แห่งการสอบมาทั้งเดือน ความสวยน่ารักที่ลงตัวกับใบหน้าจิ้มลิ้มทำให้เธอดูคล้ายกับสาวน้อยเรียบร้อยอ่อนหวาน ซึ่งขัดกับบุคลิกของเธอแบบคนละขั้วอย่างชัดเจน คอเหล้าที่ยกเหล้าแดงทั้งขวดก็ยังไม่เมา เธอคนนี้ไม่ใช่สาวน้อยอ่อนหวานแน่นอน

พราวฟ้า สาวสวยหน้าคมลูกอีสานแท้ๆ สาวขาเม้า นักข่าวประจำกลุ่มไม่ว่าเรื่องจะเกิดขึ้นใกล้ไกล พราวฟ้ารู้หมด! เรื่องเหล้าเรื่องเรียนเป็นของคู่กัน กินได้ก็ต้องไปเรียนได้ ความรับผิดชอบต้องมี เพราะถือคติแบบนี้ที่สามของชั้นปีจึงไม่ไกลเกินเอื้อมเน้นจำไม่เน้นจด ติวก่อนสอบอาทิตย์เดียว เดี๋ยวรู้กัน! รายนี้พร้อมบวกถ้าไม่อยากเจ็บก็อย่าเปิด แน่นอนว่าห่างไกลจากคำว่าเรียบร้อยไปมากโข

เหมยหลิน สาวหมวยลูกครึ่งจีนฮ่องกง ลูกสาวอภิมหาเศรษฐีที่จับผลัดจับผลูมาหลงอยู่ในดงคนประหลาดเมื่อต้นปีก่อน เมื่อก่อนเคยหัวอ่อน เชื่อคนง่าย ขี้อาย ไม่กล้ามีปากมีเสียง การเรียนเรียกได้ว่าเส้นยาแดงไม่ติดFก็บุญโข ไม่รู้ติดแพทย์มาเพราะใช้บุญทั้งชาติไปหมดแล้วรึป่าว อันนี้ก็ไม่แน่ใจ หญิงสาวความจำสั้น ขี้ลืม แต่ถ้าได้จำก็จะจำไม่ลืมเช่นกัน เหมยหลินจึงต้องอ่านหนังสือมากกว่าคนอื่นๆหน่อยเพราะเป็นคนจำอะไรยาก และผ่านไปเกือบสองปีตั้งแต่หลงเข้ามาอยู่ในดงตัวประหลาดอะไรก็ไม่รู้

จากสาวน้อยในวันนั้นกลายเป็นสาวสวยในวันนี้ ไม่ได้กันอ่อนขี้อายอีกแล้ว การเรียนก็ไต่ระดับแบบก้าวกระโดด จากที่ท้ายๆ ของชั้นปี กระโดดขึ้นมาอยู่ที่สี่ได้ นับว่าสกิลติวเตอร์ของมาหยาไม่ธรรมดาเลย เมื่อก่อนเหล้าไม่กิน ของมึนเมาไม่แตะปัจจุบันสิบช็อตยังไม่ล้ม แน่นอนว่าเพื่อนไม่ได้บังคับแต่เธออยากลองเอง

สำหรับมาหยาแล้วความต่างของฐานะไม่ใช่เส้นที่จะเอามาแบ่งขีดคำว่าเพื่อน ที่เหมยหลินโดนแกล้งเพราะคนเหล่านั้นอิจฉา จึงเลือกที่จะทอดทิ้งเหมยหลิน ถึงพวกเธอจะไม่รวยแบบเหลยหลินแต่พวกเธอรวยมิตรภาพ รวยความหวังดี รวยน้ำใจ ไม่เคยมีครั้งไหนที่พวกเธอจะร้องขอให้เพื่อนผู้ร่ำรวยจ่ายให้เหมือนที่บางคนจับกลุ่มพูดกัน ทุกอย่างคือหาร การแชร์ แน่นอนว่ามีคนรักก็ต้องมีคนเกลียด แต่เผอิญว่าพวกเธอล้วนดีเกินไปส่วนมากเลยเป็นมิตรมากกว่าเป็นศัตรู อย่างน้อยก็ต่อหน้าล่ะนะ ส่วนลับหลังเป็นสิ่งที่เธอไม่รับรู้

“ในที่สุด กูก็เป็นอิสระจากตัวหนังสือสักที~” มาหยาพูดพร้อมกับเอนตัวพิงแผ่นหลังไปกับพนักโซฟา

"อุ้ย!!!"

ร่างบางสะดุ้งเล็กน้อย เธอเอนหลังไปชนใครเข้าก็ไม่รู้ หญิงสาวหันไปขอโทษคนข้างหลังที่โต๊ะติดกันก่อนจะหันกลับมา ไม่ได้เสียมารยาทมองสำรวจหน้าตาว่าเขาหรือเธอคนนั้นจะเป็นใคร แต่ที่แน่ๆเธอมั่นใจว่าไม่ใช่คนรู้จักแน่นอน

“จริง! ในที่สุดก็ปิดเทอมสักที เหมยจะตื่นสักบ่ายโมงทุกวันเลย” เหมยหลินสาวสวยหน้าหมวยเอ่ยขึ้นอย่างหมายมาด พร้อมกับกระดกแก้วในมือไปด้วยราวกับว่าเธอกำลังคอแห้ง

“พูดไปงั้นอ่ะ ทำได้หรอมึง” ข้าวหอมว่า เหมยหลินติดนิสัยตื่นเช้าจนพวกเธอชิน ตื่นเช้าในที่นี่ก็คือหกโมงครึ่งก็คือเรียบร้อยเสร็จหมดแล้วพร้อมไปเรียน หญิงสาวจะมหาลัยก่อนใครเพื่อนตลอด สองปีที่รู้จักกันมาไม่เคยมีวันไหนที่มันจะสายสักครั้งพอได้ไปค้างด้วยกันเลยทำให้พวกเธอรู้ว่ายัยคุณหนูมันตื่นเช้ามาก เช้ากว่าพวกเธอที่เป็นลูกตาสีตาสาเสียอีก ภาษาชาวบ้านก็คงตื่นก่อนไก่โห่ล่ะมั้ง

“ไม่แน่ใจ คิดว่าได้นะเหมยบอกม๊าเอาไว้แล้วว่าห้ามปลุก” เอออ๋~ แต่ปกติม๊าก็ไม่ได้ปลุกอยู่แล้วนี่นาาา

“ปิดเทอมนี้พวกมึงกลับบ้านกันทุกคนเลยนิ กูลืมไปเลย ปิดไม่ถึงสองอาทิตย์ด้วยซ้ำกลับกันจริงๆอ่ะ” มาหยาเอ่ยขึ้น เธอก็พึ่งนึกได้ว่าปิดเทอมนี้เพื่อนไม่มีใครไม่กลับบ้านเลย แพลนที่คิดว่าจะชวนไปเที่ยวทะเลถ่ายรูปสวยๆ เป็นอันต้องพับเก็บไว้ก่อน

ง่าา แล้วแบบนี้น้องหยาจะเที่ยวกับใคร..

“กลับจ้าาาา พ่อแม่กูโทรมายิกๆว่าให้กลับบ้านบ้าง มึงก็กลับบ้านสิ จะได้ไม่เหงาเฉาตายอยู่คนเดียวในห้อง” พราวฟ้าเอ่ยแนะนำ คนบ้าอะไรแฟนก็ไม่มี คนคุยก็ไม่มี จะเหงาก็ไม่แปลก

“ไม่อ่ะ ขี้เกียจ” มาหยาส่ายหน้า เธอไม่อยากกลับ

“ทำไม? มึงหลบหน้าพี่มาวินอยู่รึไง” ข้าวหอมเลิกคิ้วเอ่ยถามเพื่อนสาว รอยยิ้มกรุ้มกริ่มทำเอามาหยาเผลอกลอกตามองบนอย่างห้ามไม่อยู่

“กูจะเลิกจีบพี่เขาแล้วจ๊ะ กูมูฟออนแล้ว” มาหยาเอ่ยขึ้นอย่างเหนือกว่า ต่อจากนี้พวกมันจะล้อเธอเรื่องพี่วินไม่ได้อีกแล้ว หึ้! พี่วินหรือก็คือพี่มาวิน หนุ่มฮอตบริหารปี3 ลูกชายคนเดียวของคุณลุงใจดีที่แม่ของเธอแต่งงานใหม่ด้วยเมื่อสามปีก่อน

“ให้มันจริง รอบที่ล้านแล้วรึเปล่าเพื่อนที่มึงพูดแบบนี้” เมื่อหกเดือนก่อนมันก็พูดแบบนี้แหละ สุดท้ายก็ยังทักไปเต๊าะไปจีบพี่เขาอยู่ดี ตาวิเศษเห็นนะ!

“เว่อร์! สามรอบเองและรอบนี้ก็จริงๆแล้วด้วย กูไม่ได้ไปกวนพี่มันสามสี่วันแล้วเถอะ” รอบนี้มูฟจริง เธอพอแล้วเขาตอบชัดแล้วว่าไม่ได้ชอบ เธอไม่ใช่สเปค ให้เธอเลิกหวัง เลิกตามเพราะเขาอึดอัด เอาจริงๆคือโคตรแรงเลยสำหรับสตรีบอบบางร่างน้อยแบบน้องมาหยาคนนี้

“พี่เขาบอกเหตุผลป่ะ” ข้าวหอมถาม เอาจริงๆ พวกเธอค่อนข้างสงสัยในการกระทำของพี่มาวินคนนั้นนิดหน่อย บางทีก็เหมือนจะมีใจบางทีก็เมินไปเลย ทำเอาเพื่อนรักของพวกเธอปั่นป่วนไปหมด

“กูไม่ใช่สเปคพี่เขา พี่เขาบอกว่าชอบแบบตัวเล็กน่ารัก คือกูต้องไปตัดขาออกหรอว่ะไอ้สัส” มาหยาทำหน้าเหม็นเบื่อ เธอไม่เอาพี่มันแล้วจริงๆ นะ เลิกจีบ เลิกทัก เลิกตาม

“ตลกแหละ การจะชอบจะรักใครสักคนต้องมีสเปคด้วยหรอว่ะ ข้ออ้างไอ้สัส” คุณหนูเหมยหลินโกรธแทนเพื่อนมาก ร่างบางเผลอพูดคำหยาบออกมาจนบอดี้การ์ดที่แฝงตัวอยู่ไม่ไกลต่างพากันสะดุ้งตกใจ

“ช่างเถอะ กูไม่สนพี่มันแล้วเหมือนกัน ชิ! มาๆ ไอ้หอมกูขอเข้มๆ สักแก้วเถอะ!!” ประโยดแรกมาหยาพูดกับเหมยหลินก่อนจะหันไปเอ่ยพูดกับข้าวหอมในประโยคถัดไป

“จัดไป!” เพื่อนขอมามีหรือข้าวหอมจะขัด

อึก! อึก!

“อ๊าาาห์!! สะใจเป็นบ้า รักมันเศร้าเลยขอเหล้าเข้มๆ!”

“เก่ามากอิหยาแถมยังพูดผิดอีก อย่าเอาไปพูดที่ไหนนะเดี๋ยวเขาจะรู้ว่าแก่ แล้วก็กรุณาช่วยเก็บอาการนิดนึงนะคะสาว มึงจะอู้จะอ๊าเหมือนผู้ชายบ่ได้เด้อหญิง” พราวฟ้าจีบปากจีบคอพูด

“ชิ! ไม่มีใครสนใจมองกูหรอกคร้ะ”

“น้อยไปสิไม่ว่า” เหลยหลินเอ่ย

"ไหนๆ มีหรอๆ" อึก! อึก! "ช่วยมาปลอบใจน้องหยาหน่อยเถอะค่ะ" มาหยากระดกแก้วขึ้นะรวดเดียวราวกับชายหนุ่มวัยฉกรรจ์คนหนึ่ง ทำเอาหลายคนที่มองอยู่หน้าเหวอ แต่ถึงอย่างนั้นบางคนกลับถูกใจจนยากจะถอนสายตา

"เพื่อนน้องพราวอยากมีผัวค่าา" พราวฟ้าเอ่ยแซว ทำเอาสามสาวที่เหลือฮาครื้น พอเหล้าเข้าปากแล้วก็ไม่มีใครเป็นปกติสักคน

“เห้ออออ~ นี่! กูจะบอกอะไรให้นะ กลุ่มเราอ่ะที่ยังโสดๆ กันครบทุกคนแบบนี้เพราะผู้ชายมันกลัวเว้ย” อยู่ๆ ข้าวหอมก็เอ่ยขึ้นด้วยท่าทีจริงจัง มาหยากับคนอื่นๆ ที่ได้ยินแบบนั้นก็สนใจขึ้นมาทันที

“กลัวไรว่ะ พวกเราไม่สวยหรอ?” พราวฟ้าไม่เข้าใจ

“สวยแต่แปลก” ข้าวหอมพูดต่อ “ก็พวกเราเล่นกินเหล้ากันดุยิ่งกว่าผู้ชายตัวโตๆบางคนอีก แถมบางทีก็ยังห้าวเป้งไม่สมกับเป็นผู้หญิงตัวเล็กบอบบางร่างน้อย แบบนั้นแล้ว..ผู้ก็เลยหนีเรากันไปหมดเลยไง” ประโยคสุดท้ายของข้าวหอมฟังดูห่อเหี่ยวเหมือนผักขาดน้ำ

“มึงไปฟังมาจากไหน” มาหยาเอ่ยถามด้วยความสงสัย เธอว่าเธอไม่ได้เป็นขนาดนั้นสักหน่อย เธอไม่ได้กินตลอดนะ จะกินเฉพาะเทศกาล วันสำคัญ หรือบางโอกาสเท่านั้นแหละ ถ้าไม่อยู่กับเพื่อนมีหรือเธอจะกล้ากินขนาดนี้ มันก็ต้องไว้ท่ากันบ้างไง

“พี่รหัสกูเอง เพื่อนๆพี่เขาก็พูดนะ พี่เขาบอกว่าตอนแรกกะจะจีบพวกเราด้วยอ่ะ แต่พอเห็นภาพวันเลี้ยงสายแล้วพวกพี่มันเลยขอเป็นพี่น้องดีกว่า ให้ตายสิ! กูอดมีแฟนเลยชีวิตนี้กูยังไม่เคยมีใครเลยนะ”

"มึงคนเดียวที่ไหนล่ะ" มาหยาพูด เธอด็ไม่เคยมีแฟนเหมือนกันนั่นแหละ จีบใครก็ไม่เป็นไม่งั้นคงจีบพี่วินติดไปนานแล้ว จีบมาเป็นปีๆ สรุปเขาบอกไม่ใช่สเปค หึหึ

“อะไรเนี้ยยย~ แต่ว่าวันนั้นใครบอกพวกพี่มันท้าแข่งแก้วละพันทำไมเล่า ถ้าไม่อยากเห็นขี้เมาอ่ะ คนยิ่งร้อนเงินอยู่” ยิ่งแก้วสุดท้ายแบงค์พันตั้ง5ใบเลยนะ กินหมดนั้นได้เกือบสองหมื่นใครไม่เอากันเล่า พราวฟ้าโอดครวญ

“วันนั้นกูกินไปตั้งเยอะ แถมยังอ๊วกด้วยน่าอับอายที่สุดเลยยย~” พราวฟ้าปิดหน้าด้วยความอับอายอย่างถึงที่สุด นี่เธอเผลอปล่อยไก่ตัวเบ้อเร้อเลยนะเอาจริง

“ทำใจเถอะ” มาหยาปลอบเพื่อนพร้อมกับยื่นแก้วเหล้าที่พึ่งชงเสร็จใหม่ๆ ให้เพื่อนสาว และแน่นอนว่าพวกเธอที่นั่งมาเกือบสองชั่วโมงแล้ว แก้วนี้ย่อมต้องแรงกว่าแก้วแรกอยู่แล้ว

“….” อึก!

“ไอ้เหี้ย! โครตเข้ม! กูจะบ้าเบามือหน่อยไอ้ข้าวเดี๋ยวกูกลับบ้านไม่ได้ อ๊วกข้างทางขึ้นมาทำไง” พราวฟ้าว่า มันเข้มเกินไปแล้ว

“พราวไม่ต้องห่วงนะ ถ้าพราวเมาเหมยจะให้พี่การ์ดไปส่งถึงห้องเลย ไว้ใจพวกพี่ๆได้ทุกคน!” เหมยหลินเสนออย่างหวังดี

“….” ยัยคุณหนูนี่ แทนที่จะห้ามกลับส่งเสริมซะงั้น ก็ไม่รู้ว่าเธอหลงเข้ามาในดงอะไรกันแน่

.

.

.

.

23:00น.

“กูไปห้องน้ำแปป” มาหยาที่นั่งมานานเริ่มรู้สึกอยากจะเข้าห้องน้ำ

“ให้ไปด้วยป่ะ” ข้าวหอมเอ่ยถาม เธอเป็นห่วงเพื่อน

“ไม่เป็นไร มึงเฝ้าโต๊ะเถอะเดี๋ยวกูมา” ผับนี้เธอมาบ่อยแล้ว หลับตาเดินยังได้เลย ถ้าไม่กลัวไปชนใครเข้าอ่ะนะ

ร่างบางค่อยๆ เดินเบียดผู้คนออกไปโดยมีการ์ดของเหมยหลินคอยเปิดทางให้ มาหยาหันไปขอบคุณพี่การ์ดเล็กน้อยก่อนจะเดินผละออกไป การ์ดไม่ได้ตามเธอมาพวกพี่เขามีหน้าที่ต้องดูแลเพื่อนของเธอไม่ใช่เธอสักหน่อยแค่มาส่งให้พ้นฝูงเสือสิงห์ก็ดีเท่าไหร่

#โปรดติดตามตอนต่อไป….

บทที่ 2

หลังจากทำธุระส่วนตัวเรียบร้อยก่อนออกจากห้องน้ำมาหยาไม่ลืมแวะเช็คความเรียบร้อย หน้าผมของตัวเองว่ายังสวยอยู่รึเปล่า เธอก็ยังเป็นผู้หญิงตัวน้อยๆ ที่รักสวยรักงามคนหนึ่งนะ

หญิงสาวเติมแป้งซับมันนิดหน่อย พอโอเคแล้วก็เติมลิปสติกต่อ จัดแต่งทรงผมให้เข้าที่ก็ทำการล้างมือเป่าแห้งอีกครั้งก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำไปเพื่อที่จะกลับไปที่โต๊ะ วันนี้พวกเธอนั่งโต๊ะชั้นล่างกัน ไม่ได้ไปนั่งชั้นบนอย่างทุกทีเพราะจองโต๊ะไม่ทันไม่รู้ทำไมวันนี้คนถึงได้เยอะเป็นพิเศษอาจจะเป็นเพราะว่าส่วนใหญ่มาฉลองปิดเทอมก็ไม่แน่หรอก

พรึ่บบบ!!

“ดื่มด้วยกันมั้ยครับ” มาหยาชะงักเท้าหยุดเดิน ใบหน้าสวยเงยหน้ามองชายหนุ่มที่เธอไม่รู้จักที่มาขวางทาง

“รู้จักกันหรอคะ” ร่างบางขมวดคิ้วน้อยๆ รู้สึกไม่ชอบใจกับสายตาแทะโลมของชายหนุ่มตรงหน้า เธอแต่งตัวให้ตัวเองสวยไม่ได้แต่งให้ใครมาใช้สายตาแทะโลมเธอแบบนี้

“หึหึ ไม่รู้จักครับแต่อยากรู้จัก ผมชื่อดลนะครับ ส่วนคุณ…” สายตาโลมเลียที่เขาพยายามปกปิกเอาไว้มันมากเสียจนปิดไม่อยู่

“….” มาหยาไม่ได้ตอบผู้ชายตรงหน้า เธอไม่อยากรู้จัก ไม่อยากสนทนาด้วย แต่ที่ยังนิ่งอยู่เพราะรู้ว่าตอนนี้ตัวเองเป็นรองด้วยสภาพมึนเมาที่เป็นอยู่ เธอคงต่อยใครไม่ได้แน่ ยิ่งกับผู้ชายตัวโตๆ ยิ่งยาก

“หึ” หยิ่งเสียด้วย “ถ้าจำไม่ผิด ชื่อมาหยาสินะครับ” แน่นอนว่าเขาจำแม่นมากไม่ผิดตัวแน่นอน สายตาอุบาทว์นั้นแพรวพราวเป็นพิเศษเมื่อเอ่ยถึงชื่อของเธอ มาหยาไม่ชอบใจเลยสักนิด

สายตาของเขาจาบจ้วงเรือนร่างของเธอเกินไป วันนี้เธอมั่นใจว่าตัวเองไม่ได้แต่งตัวโป๊ขนาดนั้น ชุดมันค่อนข้างมิดชิดอยู่เพียงแต่มันอาจจะรัดรูปไปบ้างก็เท่านั้น

“รู้จักชื่อด้วย?” เอาเข้าจริงก็เริ่มจะน่ากลัวแล้วนะ หญิงสาวเริ่มแอบสอดส่ายสายตาหาทางรอดให้ตัวเองดูจากสายตาคุกคามของผู้ชายคนนี้ถ้าเธอไม่ยอมรับแก้วมาเธอคงไม่ได้ออกไปจากตรงนี้แน่ๆ แต่ถ้ารับมาก็ไม่แน่ว่าจะปลอดภัยเช่นกัน

“ใครบ้างไม่รู้จักน้องมาหยา ดื่มกับพี่สักแก้วสิ” มาหยาแพทย์ปี2 ผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าสวยจนคนเหลียวหลังและเล่นด้วยยากที่สุดได้เจอตัวจริงแล้วถึงได้รู้ว่าท้าทายเป็นบ้า สายตาแบบนั้นน่าปราบให้เชื่องชมัด

“ไม่ดีกว่าค่ะ ช่วยหลีกทางหน่อยได้มั้ยคะแฟนรออยู่”

“เรามีแฟนที่ไหน อย่ามาโกหกให้ยากเลย ดื่มด้วยกันหน่อยสิ ไม่งั้นพี่คงเสียใจแย่เลย” เขายังคงขยั้นขยอไม่หยุด พยายามยื่นแก้วในมือให้หญิงสาว

“….” ไอ้เวรนี่! ใบหน้าสวยพยายามปั้นยิ้มน้อยๆ “หยาดื่มมาเยอะแล้วค่ะ พี่เก็บไว้เองเถอะ”

“พี่เสียใจแย่เลยนะครับ ที่น้องหยาไม่รับไมตรีจากพี่แบบ- “ ชายหนุ่มตีหน้าเศร้าเอ่ยตัดพ้อ แต่มีหรือมาหยาที่ขี้รำคาญยิ่งกว่าอะไรจะยอมให้คนตรงหน้าได้พูดจบประโยค

“นั้นมันก็เรื่องของพี่เถอะค่ะ หลบหน่อย” มาหยาเริ่มหงุดหงิด เธอเมื่อยขาแล้วอยากกลับไปนั่งจะแย่ ไม่รู้ว่าทำไมแถวนี้ถึงไม่มีคนผ่านมาเลยสักคน เธอคงไม่ได้เมาจนหลงทิศหรอกนะ

“คงจะไม่ได้หรอก จะรีบไปไหนล่ะไม่ใช่ว่าเราอยากหาที่เงียบๆ คุยกับพี่สองคนหรอกหรอ ไม่งั้นคงไม่เดินเลี้ยวมาทางนี้หรอกจริงมั้ย^^” มาหยามึงชายหนุ่มที่กำลังแสยะยิ้มให้เธอตอนนี้ตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาสำรวจ

“คิดไปเอง!!” หัวคิ้วเข้มของดลขมวดเข้าหากันอย่างไม่พอใจ มือใหญ่คว้าจับข้อมือเล็กเอาไว้อย่างคนที่หมดความอดทน

หมับ!

“นี่!! ปล่อยนะอย่ามาจับ!”

“พูดยากจังว่ะ!” วันนี้ยังไงเขาก็ต้องได้ผู้หญิงตรงหน้า แค่ครั้งเดียวเท่านั้นเงินเดิมพันก็ได้ ผู้หญิงก็ได้เอาแม่ง! มีแต่ได้กับได้

“ปล่อย!!” มาหยาพยายามใช้มือเล็กขาวแงะมือหนาที่จับกุมข้อมือบางของเธอเอาไว้แน่นราวกับคีบเหล็ก

“อย่าเล่นตัวไปหน่อยเลย เดี๋ยวพี่จะพาไปขึ้นสวรรค์รับรองว่าน้องมาหยาจะติดใจจนร้องขอพี่ซ้ำๆ เลยล่ะ” น้ำเสียงและท่าทางกระเหี้ยนกระหือรือของเขาทำเอามาหยาเริ่มกลัวขึ้นมาจริงๆ แต่ที่มีมามากกว่าความกลัวคือรังเกียจ เวลานี้สติเธอไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ยืนให้ตรงยังยากแต่ตอนนี้กลับมาโดนไอ้เวรที่ไหนก็ไม่รู้พยายามจะฉุด เธอประมาทสังคมเกินไปรึเปล่า

“แม่มึงสิเล่นตัว ปล่อยกูนะไอ้หน้าเหี้ย!” หญิงสาวแผดเสียงด่าทอเสียงดัง หวังใจให้มีคนได้ยินบ้าง

“อ่าวอีนี่ เล่นแม่เลยหรอว่ะ!!” ชายหนุ่มที่ชื่อดลเดือดดาล!

“เออ!!” ดูเหมือนว่าเธอจะไปยั่วต่อมโมโหของมันเข้าแล้ว “อิเวรนี่! วอนนักนะมึง ปากดีนักใช่มั้ยห๊ะ!!”

มือใหญ่ยกขึ้นสูงเป้าหมายคือใบหน้าเล็กๆ ที่ยังคงกล้าอวดดีท้าทายความอดทน! และในที่สุดความอดทนของเขาก็หมดลงจริงๆ…

พรึ่บบบบ!!

หมับ!!

มือหนาปริศนาคว้าจับรั้งฝ่ามือที่กำลังจะฟาดลงมาพร้อมกับเอ่ยเสียงนิ่งฟังดูทุ้มต่ำ “มึงจะทำอะไร”

เสียงเย็นเยือกที่ดังมาจากข้างหลัง พร้อมกับแรงกดดันที่สัมผัสได้ทำให้ดลรู้สึกเสียหน้า เขาละมืออีกข้างออกจากหญิงสาวเป้าหมายหวังจะหันหลังไปจัดการกับคนที่กล้าสอด

“แม่ง! มึงเป็นใครว่…ว่ะ” จะ..จอมทัพ ผู้ชายคนนี้มาได้ยังไง…

“ที่รักกก~ ช่วยหยาด้วยค่ะ” นัยน์ตาตาคู่สวยสว่างวาบ เธอเห็นความหวังแสงสว่างอยู่รำไร หญิงสาวถือวิสาสะเรียกชายปริศนาด้วยท่าทีสนิทสนมน้ำเสียงหวานหยดหย้อย

“ทะ..ที่รักหรอ” ดลหน้าซีดเผือด ทะ..ที่รักงั้นหรอ??

คนถูกเรียกที่รักหนังตากระตุกถี่ๆ ยัยตัวแสบนี่บังอาจมาเรียกเขาว่าที่รัก?

หึ! “มึงจะทำอะไรผู้หญิงของกู”

อ่าาา นี่เขาเอาด้วยเล่นตามน้ำไปกับเธอจริงๆ หรอเนี้ย..

“เปล่านะเว้ย กูไม่ได้จะทำอะไร อีนี่มันอ่อยกูเอง”

“โธ่! ไอ้เหี้ยหน้าปลวกแบบมึงกูไม่อ่อยให้เสียของหรอก!!”

“มึงงงง” ดลกันไปสบตากับร่างบางอย่างโกรธเกรี้ยว ว่าใครหน้าปลวกว่ะ!

“ปล่อยคนของกูมาได้แล้ว ไม่งั้นอย่าหาว่ากูไม่เตือน” จอมทัพเอ่ยเสียงเย็น รีบจัดการให้มันจบๆ ไป ถือเสียว่าตอบแทนจะไม่มีอะไรติดค้าง เขาไม่ชอบติดค้างใคร..

พรึ่บบบบ “แม่งเอ้ย! ฝากไว้ก่อนเถอะ” ชายหนุ่มพูดแค่นั้นก่อนจะรีบสาวเท้าหันหลังเดินจากไปเพราะเกรงว่าจอมทัพจะเปลี่ยนใจ เขาไม่ได้คิดสั้นขนาดนั้น

“หึ” มาหยามองตามผู้ชายที่ชื่อดลไปด้วยสายตาไม่ชอบใจ เธอเค้นเสียงพร้อมกับลูบคลึงข้อมือขาวที่ถูกบีบแน่นก่อนหน้านี้

“ไง ยัยตัวแสบทำไมมาอยู่แถวนี้คนเดียว” จอมทัพเอ่ยถามเสียงนิ่งตามสไตล์ของเขา มาหยาละสายตาหันกลับมาสนใจใครอีกคนที่พึ่งช่วยเธอเอาไว้

“หลงมาน่ะสิ” พอได้เห็นหน้าชัดๆ มาหยาก็จำได้ทันทีว่าเขาคือใคร หล่อขนาดนี้ใครเห็นแล้วลืมคงสายตาสั้นแล้วล่ะ

“พูดดีๆ หน่อย ฉันพี่เธอนะ พึ่งช่วยเธอไว้ด้วย” จอมทัพเผลอเดาะลิ้นตามความเคยชิน ชายหนุ่มขมวดคิ้วจางๆ อย่างไม่สบอารมณ์เท่าไร่ ท่าทางของเขายิ่งส่งเสริมบุคลิกของเขาให้ดูร้ายกาจ เจ้าอารมณ์

“อื้อ รู้แล้วน่าขอโทษค่ะ แล้วก็..ขอบคุณนะคะที่ช่วยหยาไว้” มาหยายอมลงให้ ไม่ได้ตั้งใจจะพูดจาห้วนๆพอดีอารมณ์มันยังคงค้างจากเหตุการณ์เมื่อกี่อยู่ เธอรู้แล้วว่าไม่ควรดื่มเยอะขนาดนี้ ถ้าเธอไม่เมาไอ้คนเฮงซวยตะกี้คงไปนอนกองกับพื้นตั้งนานแล้วเถอะ คาราเต้ที่เรียนมาตั้งแต่เด็กไม่ได้เรียนเอาใบไว้ประดับฝาบ้านหรอกนะ

จอมทัพมองร่างบางตรงหน้าด้วยแววตาราบเรียบ พร้อมกับพิจารณาท่าทางของเธอก่อนจะตัดสินใจบางอย่าง “อืม ตามมา”

พอพูดให้ตามมาก็เดินทิ้งกันเลยทันที มาหยาเกาหัวอย่างมึนงง พอเห็นว่าเขาหันกลับมามองเธอด้วยสายตาเหมือนมองคนโง่ก็ให้ความรู้สึกจี๊ดขึ้นสมอง แต่ก็ยังต้องคีฟลุคอยู่เพราะตอนนี้เธอต้องพึ่งพิงเขา

“พี่จะพาหยาไปไหน อืมมม ว่าแต่พี่ชื่ออะไรนะ หยาคุ้นหน้าพี่มากแต่จำไม่ได้ว่าเคยเจอที่ไหน” เธอไม่ได้ลืมพี่เขานะ ก็บอกอยู่ว่าคุ้นๆ ไงเล่า!

“ซื่อบื้อ” จอมทัพปรายตามองหญิงสาวที่พยายามก้าวขาเดินตามเขาให้ทัน

“หึ้ย! อย่าว่ากันแบบนี้สิ” มาหยาย่นจมูกใส่คนตัวสูง ก็ได้ๆ ครั้งนี้เธอยอมรับว่าครั้งนี้เธอซื่อบื้อจริง ถ้าเขาไม่ช่วยไว้คงแย่

“หึ” มุมปากสีคล้ำกระตุกยิ้มเล็กน้อย มันครู่เดียวเท่านั้นจนแทบจะมองไม่เห็น

“แล้วสรุปจะพาหยาไปไหนคะ เพื่อนหยารออยู่นะ” ป่านนี้ไม่รู้น็อคกลางอากาศไปรึยัง

“….”

ไม่มีการตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก… เอาจริงดินี่เธอกำลังโดนเมินอยู่ใช่มั้ย “นี่! พี่อย่าเงียบสิ ตอบหยาหน่อย” บอกตามตรงว่าไม่ไว้ใจเท่าไหร่ ก็เขาก็เป็นผู้ชายคนหนึ่งไม่ใช่หรอ จะให้กลับไปเองก็กลัวหลงไปไกล โซนนี้เธอไม่เคยมาเลยเอาจริงๆ มันเหมือนเป็นคนละโลกกับในผับเลย

“นี่เธอคิดว่าฉันจะทำอะไรเธอรึไง แบบเธอฉันไม่สนใจหรอก ไม่อยู่ในสายตา” เธอคงไม่รู้ว่าเขาอ่านคนเก่งแค่ไหน คิดอะไรอยู่ถ้าไม่อยากให้คนรู้ก็ช่วยก้มหน้าหลบสายตาหน่อยเถอะแม่คุณ

“….” แรงมากกก น้ำเสียงและสายตาของเขาทำเอามาหยาใบ้กินแทบจะไปไม่เป็น

เป๊าะ!

เสียงดังเป๊าะของนิ้วมือกับหน้าผากที่กระทบกันทำให้วิญญาณคนเมากลับมาเข้าร่างหลังจากสติหลุดไปชั่วครู่ และสิ่งที่ตามมาหลังจากเสียงก็คือความรู้สึกเจ็บ! “…มันเจ็บบบบ”

“สม” สมเลยหรอ ไม่มีหรอกคำว่าขอโทษน่ะ “ชิ! หยาจะกลับเองแล้วค่ะ ขอบคุณอีกครั้งที่ช่วยนะคะ” ร่างเล็กหยุดเดินตามคนตัวสูง ถ้ากลับไปทางเดิมคงหาทางออกได้มั้ง ต้องเสี่ยงดู

“เธอจะกลับไปยังไง เดินไปทางเดิมหรอไม่คิดว่ามันจะดักรอเอาคืน?” จอมทัพเอ่ยดักร่างบางที่กำลังจะหันหลังเดินกลับไปทางเดิม

“จริงด้วย” มาหยาชะงักเริ่มฉุกคิดขึ้นมาแล้วก็พบว่ามันจริงมีโอกาสเป็นไปได้สูงมาก จอมทัพยกยิ้มมุมปาก ยัยบ๊องนี่ตลกจริงๆ ก็เขาพูดขนาดนั้นว่าเธอเป็นผู้หญิงของเขามันคงจะกล้าดักหรอก หึหึ

มาหยาผู้ซึ่งตามจอมทัพไม่ทัน เงยหน้าขึ้นสบตากับชายหนุ่มรุ่นพี่ตัวสูงผู้มีใบหน้าหล่อร้าย เธอกระพริบตาปริบๆ ฉีกยิ้มประจบประแจง “งั้นพี่คนหล่อก็ไปส่งหยาหน่อยสิ”

“ไม่ต้องมาอวย ฉันไม่ไป” จอมทัพตอบกลับมาทันทีแบบไม่หยุดคิด

“นี่~ พี่ช่วยหยุดคิดสักนิดสิแล้วค่อยตอบ โธ่~ ช่วยก็ต้องช่วยให้สุดสิคะ” น้ำเสียงประจบประแจงกลายเป็นออดอ้อนโดยที่เจ้าตัวเองก็ไม่ได้รู้ตัวเลยสักนิดว่าเผลอใช้น้ำเสียงออดอ้อนเขาไป

ตึกตัก จอมทัพก้มลงมาสบตากับนัยน์ตาสีเฮเซลของร่างเล็ก เสียงหัวใจที่ดังขึ้นตึกตักไม่แน่ใจว่าเป็นของใครกันแน่

“…ไม่ล่ะ ถ้าเป็นพวกหมาแมวจรก็ว่าไปอย่าง”

“แรงมากกก” ในสายตาของเขาเธอเทียบไม่ได้กับหมาแมวเลยหรอ ใจร้ายซะไม่มี!

“หึ พูดมากจริงตามมาก็พอ” จอมทัพเร่งฝีเท้าหนีคล้ายกลั่นแกล้งอยู่ในที “อย่าเดินเร็วซี่ หยาตามไม่ทัน”

“ขาสั้น”

“….” ผู้ชายอะไรกันน่ะ ร้ายกาจที่สุด!

@ชั้นบนสุดของคลับ

ห้องทำงาน

“นั่งรอ” ชายหนุ่มเดินอ้อมไปนั่งลงหลังโต๊ะทำงานที่เต็มไปด้วยเอกสาร พร้อมกับส่งสายตาให้หญิงสาวไปนั่งรอที่โซฟา

มาหยาที่เมื่อยเท้าเมื่อยขาอยู่แล้วไม่คิดจะปฏิเสธแน่นอน “สรุปพี่ให้หยามาทำอะไร” ก็นะ นี่มันห้องทำงานทั้งคนนอกอย่างเธอเข้ามาได้ด้วยหรอ ไม่กลัวความลับรั่วรึไง

“….” เขาไม่ตอบอะไรกลับมา

“….” มาหยาเองก็อดทนรอมองหน้าเขาเพื่อรอคำตอบ

“นั่งไป เสร็จแล้วเดี๋ยวจะไปส่ง” สุดท้ายจอมทัพก็พ่ายแพ้ให้กับหญิงสาวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

“ส่งข้างนอก- “

“ส่งกลับบ้าน” ไม่รู้ทำไมเขาต้องไปส่งเธอด้วย รู้แค่ว่าปล่อยให้ยัยนี่กลับเองไม่ได้เด็ดขาด

“แต่หยาเอารถมาเองนะค่ะ” แล้วรถเธอล่ะ?

“จะกลับสภาพนี้?” ยืนให้ตรงยังยาก จะไม่ลงข้างทางไปก่อนถึงหรอ

“หยาไม่ได้เมาขนาดนั้น นั่งพักในรถให้สร่างแล้วค่อยกลับค่ะ” เธอรู้ดีว่าเมาไม่ขับ เธอไม่เมาแน่นอน เห็นแบบนี้ไม่เกิน20นาทีเธอก็สร่างแล้ว อีกอย่างเธอก็ไม่ขับรถเร็วด้วย

“แถวนี้ไม่มีด่านหรอกค่ะ”

“อวดดี มันใช่เรื่องนั้นมั้ย? อย่าพูดมากเงียบเถอะฉันจะทำงาน” จอมทัพพูดพร้อมกับสบตากับหญิงสาวที่นั่งตรงข้ามเขานิ่งๆ

“แต่..”

“อย่าดื้อกับฉัน”

“หงึ!” หญิงสาวตัวเล็กยู่ปากใส่คนตัวโตอย่างหมั่นไส้ อย่ามาพูดประโยคแบบนี้ทั้งๆ ที่ไม่ได้คิดอะไรนะ!

“มาหยา” โทนเสียงเรียกที่เปลี่ยนไปทำเอามาหยาไม่กล้าขยับ ‘น่ากลัว’

จอมทัพมองร่างบางที่สงบเสงี่ยมลงด้วยสายตาพอใจ กว่าจะเงียบ กว่าจะเลิกดื้อ ทำเอาเขาปวดหัวแทบตาย นี่ถ้าไม่ติดว่าเธอช่วยเขาไว้ครึ่งหนึ่งมีหรือเขาจะสนใจ ใครจะโดนฉุดโดนลากไปที่ไหนก็ไม่ใช่เรื่องที่เขาต้องสนใจอยู่แล้ว

ย้อนกลับไปเมื่อหลายชั่วโมงก่อน…

@โรงอาหารวิศวะ

ปึก! กระเป๋าตังสีน้ำตาลเข้มที่ล้นมาจากชายหนุ่มตัวหอม มาหยาที่กำลังต่อแถวซื้อน้ำอยู่หันไปเห็นพอดีหญิงสาวลังเลอยู่สักพักว่าจะเรียกดีมั้ย พอดีว่าเขาหล่อเกินไป เธอไม่ค่อยมีความมั่นใจขนาดนั้นเพราะเขาดูดีเกิน เดี๋ยวคงมีคนเรียกมั้ง..แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีใครเรียกเขาอย่างที่เธอคิด

นี่ถ้าเธอไม่เรียกแล้วเขาไม่มีตังกินข้าวเธอคงรู้สึกผิดทั้งวันแน่เลยที่เห็นคนเดือดร้อนแล้วไม่ช่วยแบบนี้

“เอาไงดีว่ะ” ถึงแม้เขาจะหล่อมากแต่ก็ดูไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่ รอยสักที่แขนนั้นออกจะดูน่ากลัวไปหน่อยนะ แต่เธอทนเห็นคนเดือดร้อนทั้งๆ ที่ตัวเองช่วยได้ไม่ได้จริงๆ

อ่าาา มาหยาเธอไม่ควรมองคนที่ภายนอกนะ สักโหดแค่อาจจะอยู่ในโหมดคิตตี้ก็ได้ “เอ่อออ พี่คะ..”

“….” ชายหนุ่มที่มาหยาพยายามเรียกไม่ได้หันมาเลยแม้แต่น้อย เขายังคงคุยโทรศัพท์มือถือต่อไป เรียกว่าเขาไม่สนใจเสียด้วยซ้ำไปว่าใครจะเรียกหาใคร

“พี่คะ!” มาหยาเรียกอีกครั้ง พร้อมกับวิ่งออกจากแถวไปก้มลงเก็บกระเป๋าตังที่เขาทำหล่นไว้ขึ้นมา ปากเล็กก็เรียกหาชายหนุ่มที่ยังคงคุยโทรศัพท์มือถือไม่ได้สนใจอะไรไปด้วย

“พี่ค่ะ! พี่!! กระเป๋าตังค์พี่ตกค่ะ”

“….” และแน่นอนว่าเขายังไม่หันมา ก็นะในโรงอาหารคนตั้งมากมาย เรียกพี่คะๆ เขาจะไม่หันมาก็เป็นอะไรที่เข้าใจได้

“พี่คะ! พี่!! พี่คนที่หล่อๆ น่ะค่ะ” และในที่สุด!

พรึ่บบบ!!

“เหลือเชื่อเลย..” มาหยาพึมพำเสียงเบา นี่เขาหันมาเพราะเธอเรียกเขาว่าพี่คนหล่อเนี้ยนะ หลงตัวเองเอาเรื่องนี่หวา เออแต่หล่อจริงอันนี้ยอมรับ

“อะไร!?” เสียงทุ้มดุดันกับสายตาคมกริบของชายหนุ่มที่พึ่งหันมาทำเอามาหยาสะดุ้งตกใจเล็กน้อย แต่ก็ยังคงเก็บอาการได้อยู่ ทำไมดูน่ากลัวแบบนี้เนี้ย

“คือว่า-” หญิงสาวยังพูดไม่ทันจบประโยค เธอก็โดนชายหนุ่มสวนคำพูดกลับมาเสียก่อน “อย่ามายุ่ง!” คิ้วหนาขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างนึกรำคาญ

“ผู้หญิงพวกนี้น่ารำคาญเป็นบ้าเลย” ชายหนุ่มเอ่ยบ่นกับตัวเองด้วยเสียงที่ไม่ดังเท่าไหร่

แต่ทานโทษนะ! คือเธอได้ยินไง! ได้ยินชัดด้วย!

มาหยาอ้าปากค้างกับความไร้มารยาทของคนตรงหน้า หล่อซะเปล่า! แต่คำพูดแย่มาก! ใบหน้าสวยบึ้งตึงขึ้นแทบจะทันทีที่ได้ยินคำพูดไร้มารยาทของเขา

มือเรียวข้างที่ถือกระเป๋าเงินราคาแพงที่เธอไม่รู้ราคา หญิงสาวตั้งใจปล่อยมันทิ้งดิ่งลงกับพื้นไว้เอาไว้เหมือนเดิม มาหยาไม่ได้สนใจราคาว่ามันจะเท่าไหร่ ไม่ใช่ของเธอนิ!

ชายหนุ่มเองก็พึ่งสังเกตเหมือนกันหญิงสาวตรงหน้าเธอถืออะไรไว้ในมือ เขามองกระเป๋าเงินราคาครึ่งแสนที่ถูกทิ้งดิ่งลงมาสู่พื้นราวกับของไร้ค่า ร่างสูงกระพริบตาช้าๆ อยู่หนึ่งครั้งก็พลันเข้าใจทุกอย่าง

มาหยาเอ่ยพูดหน้าตายพร้อมกับปรายตามองกระเป๋าตังราคาครึ่งแสนบนพื้นอย่างไม่นึกเสียดาย แน่นอนเธอคิดว่ามันแพงเพราะเนื้อสัมผัสมันดี แต่ไม่รู้ราคาที่แน่นอน

“มันตกอ่ะค่ะพี่” ท่าทางของเธอดูกวนเบื้องล่างซะจนคนมองอย่างเขาหนังตากระตุกยิกๆ พอพูดจบมาหยาก็เดินกลับไปต่อแถวซื้อน้ำเหมือนเดิม ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เธอเคืองมากแต่อย่างน้อยก็บรรลุวัตถุประสงค์ของเธอแล้ว คนก็หวังดีแต่ดูสิ่งที่ได้สิ

เห้ออออ~ ไม่เป็นไรนะหยา ทำดีอย่าหวังผลแม่สอนไว้ ท่องให้ขึ้นใจ

‘จอมทัพ’ มองแผ่นหลังบางของหญิงสาวที่อยู่ในชุดนักศึกษาเหมือนกันกับเขา แตกต่างกันที่เข็มคณะเท่านั้น ดวงตาคู่คมใช้สายตามองหญิงสาวด้วยอารมณ์ที่ยากจะคาดเดา ปกติเขาเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ที่ไหน “โทษที”

แน่นอนว่าจอมทัพไม่ใช่คนไร้เหตุผลอย่างที่มาหยาคิด การกระทำของเขาที่แสดงออกมันก็เป็นเรื่องมีที่มาของมันอยู่ คำขอโทษที่ออกจากปากคนตัวสูงทำให้มาหยาที่เดินออกไปได้ไม่กี่ก้าวชะงักฝีเท้าเอาไว้ ก่อนที่เธอหันกลับมาพยักหน้ารับคำขอโทษนั้น เธอไม่ได้เอ่ยคำใดเอาเป็นว่าเธอรับคำขอโทษแล้วกัน

นอกจากขอโทษแล้วเขาก็ต้องขอบใจด้วย คนมีใจจะช่วยเหลือแต่ดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้ปฏิกิริยาของเขาจะเร็วและแรงไปหน่อย มันเป็นไปตามความเคยชิน ด้วยสัญชาตญาณการถูกมองมันทำให้เขารู้ได้ทันทีตั้งแต่คำแรกที่เธอเอ่ยเรียก แต่เขาแค่ไม่คิดจะสนใจเพราะเคยมีเหตุการณ์แบบนี้บ่อยครั้ง พวกนั้นล้วนแล้วแต่พยายามเข้าหาเขาจนเขาเบื่อหน่าย แต่กับเธอ… “ขอบใจนะ”

“ค่ะ” มาหยาไม่โกรธแล้ว แต่ไม่หายเคืองเธอจำหน้าเขาเอาไว้แล้วด้วย หึ้! หญิงสาวสะบัดตูดเดินหนี

“….”

กลับมาปัจจุบัน…

มาหยาที่หนังตาเริ่มหนักอึ้งแทบจะปิดอยู่รอมร่อเอ่ยบอกกับชายหนุ่มที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาสนใจเอกสารตรงหน้าไม่ขยับเขยื้อนร่างกายไปไหนเลยนอกจากหยิบเอกสาร เปิดอ่านแล้วเซ็นต์ นานนับสองชั่วโมงที่เขาวนวูบอยู่แบบนี้ ตอนนี้เป็นเวลาตีหนึ่ง แบตมือถือเธอก็ใกล้จะหมดแล้วด้วย

“พี่ชายคะ หยาง่วงแล้ว”

“ฉันไม่ใช่พี่เธอ”

“….” โอเค เธอผิดเองแหละ ชิ! ร้ายกาจที่สุด

…..

ไรท์

ปากร้ายแบบนี้สุดท้ายเห็นเสร็จทุกรายนะคะ5555 เดี๋ยวเจอฤทธิ์น้องหยาเข้าไปไปไหนไม่รอดแน่อิทัพ

ยังไม่ได้ตรวจคำผิดและแก้ไขเนื้อหาค่า ฝากคอมเมนท์เป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยน้าาา กดติดตาม กดหัวใจเอาไว้

บทที่ 3

บนรถยนต์คันสวย…

“พักที่ไหน” จอมทัพเอ่ยถามในขณะที่มือก็กำลังเอื้อมข้ามฝั่งมาคาดเข็มขัดนิรภัยให้หญิงสาวไปด้วย ความใกล้ชิดที่ไม่ทันจะตั้งตัวทำให้มาหยาทำตัวไม่ถูกไปชั่วขณะ

หญิงสาวกระพริบตาปริบๆอยู่ครู่หนึ่ง นัยน์ตาสีสวยมองใบหน้าชายหนุ่มที่อยู่ใกล้กันแค่ลมหายใจอย่างพิจารณา พอเขาผละออกไปแล้วหญิงสาวก็คล้ายจะได้สติ ไม่รู้ทำไมต้องมาใกล้ขนาดนี้ด้วยนะ หน้าตายิ่งหล่อๆอยู่น้องหยาหัวใจจะวาย

"ว่าไง"

“เอ่ออออ คอนโดMค่ะ” มาหยาตอบออกไป สายตายังคงไม่เลิกพิจารณาร่างสูงของคนข้างๆ ไปด้วย อย่างกับพวกมาเฟียยากูซ่าที่เคยเห็นในหนังเคยอ่านเจอในนิยายเลย หล่อ ตัวใหญ่ มีรอยสัก ดูร้ายๆยังไงก็ไม่รู้ ไว้ใจได้มั้ยเนี้ย เธอจะโดนเอาไปขายรึเปล่ายิ่งสวยๆอยู่ด้วย

(╯▽╰)

“มองอะไร?” มองเขาแบบนั้นหมายความว่ายังไงไม่ทราบ

เฮือกกก!!!

“ปะ เปล่าสักหน่อย” มาหยาส่งเสียงตอบออกไปอย่างอ้อมแอ้มอย่างคนที่กลัวความผิด จะให้บอกได้ยังไงว่าเธอกำลังวิจารณ์หน้าตาเขาอยู่

“โกหก”

“….” ก็โกหกจริงๆ นั้นแหละ

“….” เพราะไม่รู้จะเอ่ยอะไรบนรถจึงได้เกิดความเงียบขึ้นชั่วขณะระหว่างเธอและเขา จอมทัพเหลือบตามองเสี้ยวใบหน้าสวยของมาหยาที่ดูเหมือนจะคิดอะไรอยู่ตลอดเวลา บางครั้งก็ดูเศร้า บางครั้งก็ดูซน บางทีก็ดูหวาดระแวง แปลกๆ เธอคงไม่ได้ตกใจจนป่วยหรอกนะ

“กลัวรึเปล่า” ไม่รู้อะไรดลใจให้เขาถามเธอออกไปแบบนั้น เหตุการณ์ผ่านมาต่อให้จะพยายามเข้มแข็งแค่ไหนก็คงกลัวไม่น้อย

“…กลัวอะไรคะ??” มาหยาหลุดออกมาจากภวังค์ความคิดของตัวเอง หันมาถามเขากลับด้วยสีหน้างุนงง อยู่ดีๆ ก็ถามขึ้นมาไม่มีหัวมีท้ายเธอไม่รู้หรอก เธอน่ะเดาใจคนไม่เก่ง

“เหอะ! ยัยโง่!” เธอกล้าเหม่อในขณะที่อยู่บนรถกับผู้ชายสองต่อสองเนี้ยนะ! เหอะ!

“เอ้า! เรื่องอะไรมาด่ากันแบบนี้อ่ะ” ด่าบ่อยๆ เธอก็ไม่โอเคนะ หล่ออยู่หรอก หล่อมากเลยด้วย แต่ปากปีจอก็ไม่ไหวเด้อ

“ก็เธอโง่จริงๆ” โง่ที่ไม่รู้จักระมัดระวังตัว โง่ที่ประมาทผู้ชายมากเกินไป แม้แต่เขาที่ช่วยเธอไว้เธอก็ไม่ควรเชื่อเขาจนปล่อยตัวเองให้ไม่มีสติแบบนี้ ควรจะระมัดระวังตัวบ้าง

“พี่สิโง่ หยาไม่ได้โง่!”

“นี่เธอกล้าว่าฉันโง่?” เกิดมาอย่าว่าแต่คำว่าโง่เลย ไม่เคยมีใครกล้าด่าเขาด้วยซ้ำ แต่เธอ!!!

“ทีตัวเองยังว่าคนอื่นได้เลย” มาหยากอดอกเชิดหน้าขึ้นอย่างไม่ยินยอม

“เผื่อเธอจะลืมว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน” จอมทัพเอ่ยโทนเสียงเรียบนิ่ง น้ำเสียงของเขาที่เปล่งออกมานั้นเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

“งั้นก็จอดเลย หยาจะลงข้างหน้านี่แหละ” เธอยอมโบกแท็กซี่ไปเองก็ได้ ก็ไม่ได้ขอให้ไปส่งเลย

“ไม่!” ไม่มีทาง! เธอจะกลับยังไงไม่ทราบเวลานี้ตี2 ยังจะมีแท็กซี่ที่ไหนจะวิ่ง ถึงมีจริงมันจะปลอดภัยเท่าไปกับเขามั้ย "ไม่รู้จักคิด!"

“….” มาหยานิ่งเงียบไม่ได้เอ่ยอะไรออกไป จะด่าอะไรก็เชิญ! เธอโกรธมากและเธอก็หวังว่าหลังจากวันนี้เธอกับเขาจะไม่ต้องโคจรมาเจอกันอีกได้ยิ่งดี!

“….” จอมทัพที่พอจะรู้ว่าเผลอทำยัยตัวแสบนี่โกรธเข้าแล้วจริงๆ ก็ยอมถอยให้หนึ่งก้าว แน่นอนว่าเขาไม่เคยเป็นแบบนี้จอมทัพคนที่หยิ่งผยอง และเย็นชาร้ายกาจคนนั้นกลายเป็นผู้ชายปากร้ายเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้หญิงคนนี้อย่างไม่ทราบสาเหตุ “ฉันขอโทษ”

มาหยาเหลือบมองเขาเล็กน้อย ก่อนจะส่งเสียงตอบรับเบาๆ "อือ"

“ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจ ฉันแค่เป็นห่วง” จอมทัพพูดเสียงอ่อน ไม่รู้ทำไมต้องเป็นห่วงเป็นใยผู้หญิงที่พึ่งเจอกันจริงๆจังๆเป็นครั้งแรกด้วย

“ห่วง? ห่วงทำไมคะ?” ไม่ได้รู้จักมักคุ้นกันขนาดนั้นสักหน่อย ไม่ได้สนิท เรียกว่าคนรู้จักยังยากเลย

“….” ฉันไม่รู้เหมือนกัน

“เราพึ่งเคยเจอกันแท้ๆ แค่คนผ่านทางทำไมถึงห่วง?” ใบหน้าสวยเอียงเล็กน้อยด้วยความสงสัย ดวงตาอัลมอนด์ใสแป๋วจ้องมองเขาอย่างไม่เข้าใจเท่าไหร่ แววตาขี้สงสัยของเธอตอนนี้ดูคล้ายจะน่ารักไร้พิษภัย

จอมทัพนิ่งไปสักพักก่อนจะตอบคนข้างๆ ดวงตาคมเข้มยังคงไม่ได้ละออกไปจากท้องถนนเพื่อความปลอดภัย “…คนผ่านทางฉันไม่เสียเวลาทำขนาดนี้หรอก”

คำพูดของเขาทำให้เธอเผลอคิดไปไกล ต่อมาใบหน้าสวยก็ค่อยๆ ขึ้นสีแดงระเรื่อร้อนผ่าวยากจะควบคุม มาหยาทำเป็นติดเล่นเพื่อกลบเกลื่อนร่องรอยความเขินที่เกิดขึ้น ร่างเล็กทำเป็นยกยิ้มหวานหยอดขยับเข้าไปใกล้คนตัวสูง เธอใช้สายตาล้อเลียนเขาอย่างไม่เกรงกลัว “อะไร!? ยังไง?! หลงเสน่ห์น้องหยาหรอ”

“หลงตัวเอง! อย่างเธอไม่ใช่สเปคฉันหรอก” จอมทัพเอ่ยเสียงติดดุเล็กน้อย หวังให้ยัยตัวแสบนี่ขยับออกไปให้ห่าง ผิวขาวๆกับตัวหอมๆของเธอที่ลอยไปลอยมา เขาไม่ใช่พระอิฐพระปูนที่ไหน ถึงแม้ว่ามันจะไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้เกิดขึ้นกับใครเลยก็ตามที

“….” และดูเหมือนจะได้ผล ร่างบางขยับออกไปด้วยท่าทางห่อเหี่ยวดูเศร้าหมองอย่างเห็นได้ชัด มาหยาเงยหน้ามองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ นี่ก็อีกคน พูดเหมือนกันไม่มีผิดเลย พูดเหมือนคนใจร้ายคนนั้นเลย เธอไม่ใช่แบบที่ชอบ? ไม่ใช่สเปค?

“….” มาหยาเงียบไป หญิงสาวตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตัวเอง

“เป็นอะไร” จอมทัพเอ่ยถามอย่างสงสัย ชายหนุ่มหันมามองร่างเล็กที่ดูเงียบผิดปกติในขณะที่จอดรถติดไฟแดง เขาพูดอะไรผิดไปอีกแล้ว?

"…."

“…นี่พี่ หยาไม่สวยหรอ” อยู่ๆ หญิงสาวก็เงยหน้าขึ้นอีกครั้ง นัยน์ตาสีสวยฉายแววเจ็บปวดที่หญิงสาวพยายามซ่อนมันเอาไว้ให้ลึกสุดใจ แต่ถึงอย่างนั้นจอมทัพก็ยังคงมองเห็นอยู่ดี มาหยาก้มหน้าซ่อนน้ำตาที่เริ่มไหลมากองกันและเอ่อคลอที่หน่วยตาของเธอ

“….” นัยน์ตาสีสวยที่มีแต่ความเศร้าความเจ็บปวดทำให้จอมทัพทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ หัวใจแกร่งกระตุกวูบหนึ่ง สวยสิเธอสวยมากสวยที่สุดตั้งแต่เขาเคยเจอมาเลย

“ไม่สวยจริงๆหรอ ดูสิ! ดูใกล้ๆพิจารณาอีกที ไม่สวยจริงๆน่ะหรอ” เมื่อเห็นว่าคนตัวสูงไม่ยอมตอบอะไรมาหยาก็ขยับเอาใบหน้าเข้าไปใกล้ๆเขาอีกหน่อยอย่างลืมตัว

ชายหนุ่มมองใบหน้าสวยที่ขยับเข้ามาใกล้กันด้วยสายตาเรียบนิ่ง จอมทัพหลุบตาลงเหม่อมองไปที่ริมฝีปากอวบอิ่มชุ่มฉ่ำที่ยังคงขยับไปมาทวงเอาคำตอบจากเขาไม่หยุด ลำคอแกร่งเริ่มแห้งผากเขาเผลอกลืนน้ำลายอยู่หลายทีอย่างยากลำบาก

“ทำไมไม่ตอบละคะเพราะอะไรเขาถึงไม่ชอบหยาหรอ ฮึ้! หยาไม่สวยหยาไม่น่ารักตรงไหน ฮึก! หยาทำทุกอย่างก็เพื่อเขาเอาใจใส่ ทักไปคุยด้วยทุกวัน บอกรักบอกฝันดีก่อนนอน ดูแลทุกอย่าง

แต่ทำไม… ทำไมเขาถึง… ถึงได้พูดแบบเดียวกับที่พี่พูดเลยล่ะ~ ทำไมถึงบอกว่าไม่ชอบหยาทั้งๆที่ๆผ่านมามันก็ดีมากแท้ๆ ฮึกกก!! ฮื่อออออ!!! ทำไม…” อาจจะเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์บวกกับจอมทัพนั้นเป็นใครก็ไม่รู้

เขาคล้ายเป็นคนที่เธอไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีกหลังจากนี้ หญิงสาวจึงได้เผลอระบายความรู้สึกที่เก็บเอาไว้คนเดียวมาเนิ่นนานออกมาอย่างไม่คิดอาย น้ำตาเม็ดเล็กไหลหยดลงมาจากอาบแก้มนวลเรื่อยๆราวกับเขื่อนแตก

จอมทัพมองภาพตรงหน้าด้วยสายตาสั่นไหว ที่เมาขนาดนี้ก็เพราะอกหักงั้นสิ?

นิ้วแกร่งปาดน้ำตาให้หญิงสาวที่อยู่ๆก็ระบายความอัดอั้นตันใจ หญิงสาวพรั้งพรูความรู้สึกออกมามากมายจนเขารับไม่ทัน ยามนี้ร่างเล็กปล่อยโฮอย่างน่าสงสาร เธอดูอ่อนแอบอบบาง ไม่เหมือนก่อนหน้าที่ดูเชิ่ดดูไม่สนไม่แคร์อะไร

พอไฟเขียวจอมทัพก็ขับรถต่อออกไปอีกนิดก่อนจะตบไฟเลี้ยวเข้าข้างทาง ชายหนุ่มหันกลับมามองร่างเล็กของยัยตัวแสบที่ตอนนี้ดูอ่อนแอเหมือนลูกนกเปียกฝนด้วยสายตาสั่นไหว ความรู้สึกประหลาดที่ค่อยๆก่อตัวเริ่มชัดขึ้นทุกที

หมับ!

แขนแกร่งคว้าเอาร่างเล็กนุ่มนิ่มที่ยังคงร้องไห้ไม่หยุดเข้ามาในอ้อมกอดอย่างที่ไม่เคยคิดจะทำกับใคร เขาใช้แขนโอบเธอเอาไว้แนบอกกว้าง มือหนาอีกข้างก็ใช้ลูบแผ่นหลังเล็กไปมาอย่างปลอบประโลม “อย่าร้อง”

"ไม่ต้องร้อง ไม่เป็นไร"

อึกกก! "เป็นสิ พี่ไม่เคยอกหักพี่ไม่รู้หรอก" เธอเจ็บจะตายอยู่แล้ว

"…." ใครบอกเธอว่าฉันไม่เคยอกหัก การที่ได้เห็นคนที่ตัวเองชอบร้องไห้ให้คนอื่นมันก็เจ็บไม่แพ้กันหรอกนะ

….

อ่านต่อนิยายเรื่องนี้

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0