ปลาทับทิม เป็นปลาน้ำจืดที่ได้รับความนิยมในการนำมาประกอบอาหาร เพราะด้วยรสชาติและเนื้อสัมผัสที่อร่อย จึงทำให้สามารถรังสรรค์เป็นอาหารได้หลายเมนู จนเรียกได้ว่าเป็นปลาเศรษฐกิจที่สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรในหลายพื้นที่ ตั้งแต่เกษตรกรผู้เลี้ยงเป็นปลาเนื้อขาย และเกษตรกรผู้เพาะพันธุ์ อย่างเช่น คุณณัฐพงศ์ ต้นสกุลประเสริฐ หรือ คุณกอร์ฟ เจ้าของไซเฟรสฟาร์ม ที่มีรายได้จากการเพาะพันธุ์ปลาทับทิมแปลงเพศมากประสบการณ์มามากว่า 20 ปี
จากพ่อค้าแผงปลา
สู่ฟาร์มเพาะพันธุ์
คุณกอร์ฟ เล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนมีแผงปลาเนื้อขายในตลาด พร้อมทั้งเปิดร้านส่งอาหารปลาให้กับเกษตรกรรายอื่นๆ ส่วนลูกพันธุ์ปลาทับทิมมีซื้อจากฟาร์มอื่นเพื่อนำมาขายต่อ แต่เมื่อทำมาได้สักระยะการควบคุมในเรื่องของคุณภาพลูกปลาไม่สามารถทำได้ดีเท่าที่ควร ลูกปลาทับทิมมีการตายเกิดขึ้นให้เห็นอยู่เป็นระยะ จึงนำปัญหานี้มาทบทวนและเกิดความคิดที่อยากจะเพาะพันธุ์ปลาเอง เพื่อที่จะสามารถควบคุมมาตรฐานการผลิตได้ด้วยตัวเอง
“ประมาณปี 2554 พอคิดว่าจะต้องมาทำเอง ช่วงนั้นผมได้ไปศึกษาในเรื่องของการเลี้ยง การเพาะพันธุปลาทับทิมมาจากที่ต่างๆ แล้วมาทดลองทำเล็กๆ ก่อน เพื่อหาประสบการณ์ ก็ถือว่าประสบผลสำเร็จดี สามารถทำออกขายได้ เพราะเรามีลูกค้าที่ซื้ออยู่เดิมแล้ว พอลูกค้าเก่าซื้อไปเลี้ยงและดี เขาก็บอกกันไปปากต่อปาก มีลูกค้าจากหลากหลายพื้นที่ทั่วประเทศเข้ามาซื้อ ก็เลยทำให้การเพาะพันธุ์ของฟาร์มขยายออกไปเรื่อยๆ ขายมาจนถึงปัจจุบัน” คุณกอร์ฟ บอก
คัดพ่อแม่พันธุ์คุณภาพ
เพื่อให้ได้ลูกปลาพันธุ์ดี
คุณกอร์ฟ เล่าถึงการเพาะพันธุ์ปลาทับทิมว่า ในช่วงแรกจะคัดพ่อแม่พันธุ์ โดยเลือกจากปลาที่ผ่านการอนุบาลจากภายในฟาร์ม ซึ่งอายุที่เหมาะสมของปลาที่จะนำมาเพาะพันธุ์ได้ต้องมีอายุ 6 เดือนขึ้นไป โดยปล่อยพ่อแม่พันธุ์เลี้ยงในกระชังที่อยู่ภายในบ่อดิน อัตราส่วนตัวผู้ 1 ตัวต่อตัวเมีย 2 ตัว อย่างเช่น ถ้าเลี้ยงตัวผู้ 100 ตัว ก็จะมีตัวเมียอยู่ที่ 200 ตัว หลังจากปล่อยผสมพันธุ์ครบ 1 เดือนแล้ว ต้องหมั่นเช็กการออกไข่ของปลาในทุก 7 วัน เพราะปลาทับทิมจะเหมือนปลานิลตรงที่อมไข่อยู่ในปาก
จากนั้นนำไข่ปลาทับทิมที่เก็บมาจากบ่อเพาะ ล้างฆ่าเชื้อด้วยน้ำด่างทับทิม พร้อมกับเช็กขนาดของไข่ปลาเพื่อแยกระยะและดูจำนวน นำไข่ปลาทั้งหมดไปใส่ในกรวยฟักในระบบที่มีน้ำหมุนเวียน โดยใส่ไข่ปลาอยู่ที่ประมาณ 500-750 กรัมต่อ 1 กรวยฟัก
“ไข่ที่เราเก็บมาฟัก จะแบ่งออกเป็น 4 ระยะ ซึ่งระยะที่ 1-2 จะใช้เวลาฟักเพียง 7 วัน ส่วนระยะที่ 3-4 ใช้เวลาฟักอยู่ที่ 3 หรือ 4 วัน เมื่อลูกปลาฟักออกมาเป็นตัวแล้ว รอดูถุงไข่แดงที่หน้าท้อง ถ้าเห็นว่ายุบแล้ว จะนำไปใส่ลงในบ่ออนุบาลต่อไป เพื่อเข้าสู่กระบวนการแปลงเพศ ซึ่งในช่วงนี้ จะเลี้ยงด้วยอาหารที่ผสมกับฮอร์โมนแปลงเพศ โดยเปลี่ยนให้เป็นเพศผู้ทั้งหมด” คุณกอร์ฟ บอก
อาหารที่ใช้เลี้ยงมีโปรตีนอยู่ที่ 40 เปอร์เซ็นต์ ผสมกับฮอร์โมนแปลงเพศ คุณกอร์ฟ บอกว่า ต้องให้กินวันละ 5 มื้อ ตั้งแต่เวลา 08.00 น., 10.00 น., 12.00 น., 14.00 น. และ 16.00 น. โดยให้อาหารกินแบบนี้ทุกวันจนครบ 21 วัน แต่ถ้าเป็นช่วงที่อากาศหนาวอาจเลยไปได้ถึง 25 วัน จากให้อาหารที่ผสมฮอร์โมนจนครบแล้ว จะเปลี่ยนมาเลี้ยงด้วยอาหารปกติ เป็นอาหารที่มีโปรตีนอยู่ที่ 40 เปอร์เซ็นต์เหมือนเดิม ให้กินต่ออีกประมาณ 14 วัน ลูกปลาทับทิมก็จะได้ขนาดไซซ์ตามที่ลูกค้าสั่ง มีตั้งแต่น้ำหนักเริ่มต้น 0.5 กรัม ไปจนถึงเป็นลูกปลาทับทิมขนาดไซซ์นิ้ว
เรื่องของโรคที่จะทำให้ลูกปลาเกิดการเจ็บป่วย คุณกอร์ฟ บอกว่า ยังไม่มีปัญหาให้ต้องแก้ไขมากนัก เพราะการเพาะพันธุ์ปลาและการอนุบาลใช้ระยะเวลาเพียงสั้นๆ แค่ 1 เดือนครึ่ง หลังจากนั้นก็จะมีการทำความสะอาดบ่ออยู่เป็นประจำ แต่ปัญหาที่เจอจะเป็นในเรื่องของคุณภาพน้ำ ทางที่ดีควรหมั่นเช็กสภาพน้ำอยู่เสมอ เพื่อที่จะได้ถ่ายน้ำ ให้น้ำมีสภาพที่เหมาะสมกับการเลี้ยงปลา
ส่งขายลูกปลาทั่วประเทศ
ลูกค้าการันตีปากต่อปาก
การทำตลาดเพื่อขายลูกพันธุ์ปลาทับทิม คุณกอร์ฟ บอกว่า ตัวเขาอยู่ในวงการนี้มามากกว่า 20 ปี ตั้งแต่การขายปลาเนื้อตลอดจนมาเพาะพันธุ์เอง จึงทำให้ยังมีลูกค้าอยู่พอสมควร เมื่อเห็นถึงคุณภาพลูกค้าก็จะบอกกันไปปากต่อปาก จึงทำให้ในแต่ละปีมีลูกค้ารายใหม่จากหลายพื้นที่เข้ามาซื้ออยู่เป็นประจำ เพราะลูกปลาทับทิมจากฟาร์มนี้ถือว่ามีคุณภาพระดับต้นๆ เลยก็ว่าได้
โดยราคาขายลูกพันธุ์ปลาทับทิมราคาเริ่มต้น เป็นปลาขนาดไซซ์ใบมะขามราคาอยู่ที่ตัวละ 70 สตางค์ และเป็นลูกปลาไซซ์นิ้วที่ผ่านการอนุบาลเรียบร้อยแล้ว ขนาดอยู่ที่ 25-30 ตัวต่อกิโลกรัม ลูกค้าสามารถซื้อไปเลี้ยงในกระชังหรือบ่อได้ทันที ราคาอยู่ที่ตัวละ 7.50-8 บาท ซึ่งลูกค้าสามารถสั่งได้ว่าต้องการให้ทางฟาร์มผลิตลูกปลาไซซ์ไหน เพื่อที่จะสามารถนำไปเลี้ยงสร้างรายได้ต่อได้อย่างสะดวก และกำหนดเวลาได้ง่ายต่อการขนขาย
“ตั้งแต่เพาะพันธุ์ปลามา การที่เราจะขายได้ดีหรือไม่ดี สภาพเศรษฐกิจแต่ละช่วงถือว่าสำคัญมาก เพราะถ้าสภาพเศรษฐกิจดี ก็จะทำให้ผู้บริโภคซื้อมากขึ้น แต่ช่วงนี้ในเรื่องของค่าอาหารปลาก็ขึ้นไปด้วย จึงทำให้ต้นทุนการเลี้ยงของเกษตรกรขึ้นตามมา แต่ราคาปลาหน้าแผงเขาก็ไม่กล้าขึ้นราคา เพราะเดี๋ยวทำให้ลูกค้าหาย เพราะช่วงนี้ข้าวของราคาแพงขึ้นหลายอย่าง ทุกคนก็พยายามประคองตัวไว้ก่อน เพื่อให้สามารถเลี้ยงตัวเองได้ และหาวิธีลดต้นทุนอยู่เสมอ ต้องมีการปรับตัวอยู่เป็นประจำ ก็จะทำให้ผ่านอุปสรรคและปัญหาไปได้อย่างแน่นอน” คุณกอร์ฟ กล่าวแนะในช่วงท้าย
สำหรับท่านใดที่สนใจลูกพันธุ์ปลาทับทิม หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ คุณณัฐพงศ์ ต้นสกุลประเสริฐ หรือ คุณกอร์ฟ ฟาร์มตั้งอยู่เลขที่ 54/4 หมู่ที่ 1 ตำบลท่าตอ อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หมายเลขโทรศัพท์ 081-745-4567
ความเห็น 1
NeoNuttoナット
ตอนแรกเข้าใจว่า ปลาทับทิม เพาะพันธ์ุ้เองไม่ได้ ต้องซื้อลูกปลาจาก บริษัทแห่งหนึ่งเท่านั้น ดีครับถ้าเพาะได้
29 เม.ย. 2566 เวลา 03.59 น.
ดูทั้งหมด