ถือว่าเป็นปีที่เวทีการประกวด Miss Universe Thailand นั้นน่าติดตามเป็นอย่างมาก เพราะทั้งแฟน ๆ นางงามเองที่จับตามองตั้งแต่เปิดตัวว่าใครจะมาลงสมัครบ้าง อีกทั้งกับการพลิกโฉมครั้งใหญ่ของกองที่ใช้คอนเซ็ปต์ REAL U เพื่อเฟ้นหาสาวงามไปชิงมงที่สามอย่างเข้มข้น ด้วยกระบวนการออดิชั่นต่าง ๆ ก็ทำให้ผู้คนหันมาสนใจการประกวดในปีนี้ รวมไปถึงสาวงามผู้เข้าประกวดเองก็ปล่อยสุดไม่มีกั๊ก มีของแค่ไหนปล่อยออกมาหมด จนทำให้การแข่งขันปีนี้กลายเป็นที่สนใจของทุกคน
และด้วยประเด็นดราม่าสด ๆ ร้อน ๆ ที่รอการแถลงอย่างเป็นทางการจากปากนางงามที่เป็นประเด็นอย่าง เฌอเอม ชญาธนุส วันนี้ LINE TODAY ขอพาไปดูความเห็นจาก 2 กูรูนางงาม"อาจารย์ธง ฐิติพงษ์ ด้วงคง" นักวิชาการผู้ที่ศึกษาวัฒนธรรมการประกวดนางงาม และ "สไปรท์-พัชร์ธีรัตน์ แหลมหลวง ยูทูปเบอร์ | กูรูนางงาม" ว่าเขามีความเห็นต่อกรณีนี้อย่างไรในฐานะผู้เชี่ยวชาญ และนางงามคนหนึ่ง
ในฐานะนักวิชาการผู้ที่ศึกษาวัฒนธรรมการประกวดนางงาม อ.ธง พูดถึงดรามาที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ว่า…
“หัวใจของการเกิดดรามาก็มีอยู่ไม่กี่เรื่อง หนึ่งในนั้นคือความโปร่งใส ถ้าดูที่มาที่ไปของการเกิดดรามาในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการแถลงของกองประกวด ฝั่งบุคคลที่ถูกพาดพิง พี่เลี้ยง เพจนางงาม หรือคนที่เกี่ยวข้อง สิ่งที่เราต้องให้ความสำคัญในการติดตามก็คือ เค้ามีการแถลงออกมาว่าอย่างไรบ้าง ในมิติที่เป็นเรื่องเป็นราว เป็นดรามาเกิดจากสาเหตุใด ถ้ามองในแง่สาเหตุหลัก หนึ่งในนั้นก็คือความโปร่งใส เมื่อนำมาสู่บริบทของการตั้งกติกา เกณฑ์ต่าง ๆ ก็จะยึดโยงกับความยุติธรรม การปฏิบัติตัวไปตามกฎต่าง ๆ ที่วางไว้เป็นมาตรฐาน
“ในฐานะคนดู เราต้องดูว่าทิศทางของข้อมูลเป็นอย่างไร มีมาจากกี่ฝ่าย ก่อนที่จะเราจะแสดงทัศนคติ ความคิดเห็น และคอมเมนต์ในพื้นที่ต่าง ๆ เพราะท้ายที่สุดการแสดงความคิดเห็นของเราอาจนำไปสู่การบูลลี่ หรือการกล่าวโทษคนอื่นในมิติที่อาจจะไม่ใช่ความจริงก็ได้ อันนี้ต่างหากที่เป็นเรื่องสำคัญ
“ที่ผ่านมาหลายคนตามติดดรามานี้ โดยที่ยังไม่ได้ข้อมูลรอบด้านเลย ทำให้เกิดคอมเมนต์ที่นำไปสู่การบูลลี่ทั้งแบบตั้งใจและไม่ตั้งใจ ซึ่งส่วนหนึ่งอาจนำไปสู่การฟ้องร้องกันในอนาคตก็ได้ เรื่องนี้มันมีคนได้รับผลกระทบมากมาย ทั้งคนที่ถูกบูลลี่ คนที่แสดงความคิดเห็นที่ไปเมนต์สุ่มเสี่ยงทำให้โดนดำเนินคดี ทั้งหมดนี้ก็เพราะเราเสพสิ่งเหล่านี้กันเป็นเรื่องปกติ และเสพอยู่ฝั่งเดียว เป็นมิติการตามข่าวดรามาที่อยู่บนโลกออนไลน์ของพวกเราทุกวันนี้
“สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น ส่วนตัวคิดว่าทางออกมันอยู่ที่สามัญสำนึก มันเป็นเงื่อนไขตั้งแต่ก่อนการเข้าประกวด เพราะก่อนที่จะทำอะไรลงไป เราต้องสำรวจตัวเองก่อนว่าเราสุ่มเสี่ยงที่จะทำสิ่งที่ไม่โปร่งใสหรือเปล่า ว่ากันตามตรง..เราอาจจะไม่ได้ทำผิด แต่มันก็สุ่มเสี่ยงที่จะผิดกติกา ถึงแม้ตอนนี้จะยังไม่ได้ข้อมูลครบทุกฝ่าย แต่จากมวลดรามาทั้งหมด เราต้องมีสามัญสำนึก ต้องถามตัวเองว่าเราทำอะไรที่สุ่มเสี่ยงกับความไม่โปร่งใสหรือเปล่า
“ในส่วนของคนดูก็เหมือนกัน ถ้าคุณดูการประกวดนางงามมาคุณต้องรู้จักนางงามฟิลิปปินส์คนหนึ่ง (เพีย วูร์ทซบาค) เธอพูดเสมอว่า “ก่อนที่จะคอมเมนต์อะไรลงไปในโลกโซเชียล เราต้องคิดก่อน” Think before you click
“ช่วงที่เกิดดรามาอยู่นี้เป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่ดีมาก ๆ ที่เราต้องหยุดคิดก่อนที่จะคลิกอะไรไปในโลกโซเชียล เพราะเบื้องหลังทั้งหมด มันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เราคิดก็ได้ แต่พอเราคลิกไปแล้ว มันกลายเป็นดรามาที่เกิดผลกระทบไปแล้ว เราต้องพึงระวังสิ่งนี้ก่อน เพื่อไม่ให้สิ่งที่เราคอมเมนต์ไปเกิดความเสียหายทั้งต่อตัวเองและคนอื่น”
ด้าน "สไปรท์-พัชร์ธีรัตน์ แหลมหลวง" ยูทูปเบอร์ และกูรูนางงาม ก็แสดงความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน เพราะตราบใดที่ยังไม่ได้ยินความจริงจากทั้งสองฝ่าย เราก็ยังตัดสินอะไรไม่ได้
"ด้วยความที่ตอนนี้เราไม่ได้รู้ว่ามันเป็นอย่างไร เราไม่ได้อยู่ในสถานการณ์นั้น เราก็พูดอะไรไมได้ เพราะไม่ได้อยู่ตรงนั้น แต่ในมุมของแฟนนางามคนหนึ่ง เราก็แค่รู้สึกว่าในทุก ๆ การกระทำมันมีเหตุผลของมันทั้งสองฝ่าย
ฝ่ายกองประกวดเขาก็มีเหตุผลของเขา ว่าเขามีกติกาในการตัดสิน เช่น คุณไม่สามารถนำพี่เลี้ยงเข้ามาในกองได้ ซึ่งผู้เข้าประกวด 30 คนนั้นก็ต้องเหมือนกัน เมื่อไหร่ที่มันเกิดการผิดกติกาเกิดขึ้น แม้ว่านางงามจะเป็นใครก็ตาม ก็ต้องยอมรับในกฎกติกาของคนหมู่มาก ถ้าคุณทำผิดกฎ คุณก็ต้องได้รับผลจากการผิดกฎนั้น ไม่ว่าคุณจะเก่งอย่างไรก็ตาม คือกองก็อยากให้แยกแยะว่าความเก่ง กับความถูกต้อง ความถูกต้องนั้นคือความยุติธรรมต่อคนอื่น ๆ ด้วย และกองฯ ก็บอกว่าน้องเป็นคนพูดเองว่าไม่มีตั้งแต่แรก มันคือการผิดกฎจริง ๆ
ส่วนตัวนางงามเอง บางทีเราก็ไม่รู้ความจริงด้วยซ้ำ เพราะน้องไม่มีโอกาสได้พูด ตอนนี้มีเพียงกองพูดอย่างเดียว น้องยังไม่มีโอกาสมาพูด มาชี้แจง เราก็อยากได้ยินนะ ว่าน้องมีเหตุผลไหม หรือชี้แจงหน่อยว่าจริงอย่างที่กองบอกหรือเปล่า แต่เราก็อยากฟังในมุมของแฟนนางงาม หรือมุมของคนที่เคยชื่นชมน้องว่าน้องว่ามีความสามารถ ถึงแม้บางคนแฟนนางงามจะบอกว่าเตี๊ยมมา แต่เรารู้สึกว่าบางอย่างเตี๊ยมไม่ได้ บางอย่างที่สื่ออื่น ๆ ไปถามมันเตี๊ยมไม่ได้ แต่ตอบดี
เราก็ไม่รู้ความจริงเป็นอย่างไร ก็ทำได้แค่รอ อยากฟังน้องมาอธิบาย หรือทีมมาอธิบาย แต่ก็เป็นสิทธิ์ของเขาที่เขาจะไม่พูด บางคนก็คิดว่าเงียบไปเลย คนไทยเดี๋ยวมีดราม่าอื่นก็แปะมือกันต่อ ตอนนี้มีเรื่องนี้ เดี๋ยวดราม่าในกองก็มีเรื่องอื่นอีก
ส่วนกองก็อาจจะคิดว่าเนี่ยพอมาแถลงข่าวตั้งโต๊ะจริงจัง จะทำให้เป็นการแถลงข่าวยิ่งใหญ่ จะกลายเป็นแผลใหญ่ทั้งกอง ทั้งน้อง สองคือกองน่าจะมีอะไรให้ทำเยอะ แต่การมานั่งแถลงข่าวกับเรื่องนี้ มันมีเรื่องที่เกี่ยวกับภาพลักษณ์ หรือสปอนเซอร์ และไม่อยากให้คนไปโฟกัสเรื่องนี้ สำหรับการประกวดนั้นก็ต้องดำเนินต่อไป แต่ละฝั่งมีเหตุผลของตัวเอง แฟนนางงามก็ทำได้แต่ไม่ได้นอน ติดตามข่าว และก็คอยดูกันต่อไป และสำหรับเรา เราว่าเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ทุกอย่าง"
ดรามานางงามบทนี้จะจบลงอย่างไร ต้องติดตามกันต่อไป..
ความเห็น 18
ทุกวงการมีเส้นสาย มีด้านมืด มีเส้นทางที่ไม่ปกติทั้งนั้นแหละครับ ขึ้นอยู่กับว่าจะมากจะน้อยเท่านั้นครับ
30 ก.ย 2563 เวลา 06.18 น.
Yodsawat
ไม่ต้องประกวดก็ได้นะ ไม่เห็นมีประโยชน์อะไร ไม่ได้ช่วยวัดคุณค่าอะไรของคนประกวดเลย ระดับจิตใจก็ไม่ได้ดีตามสักหน่อย ประกวดไปก้เท่านั้น
29 ก.ย 2563 เวลา 13.06 น.
ศศินันท์
นางงาม ตอนนี้เหมือนนางร้าย ก่อนได้ก็น่ารัก ได้มงแล้วก็แสดงนิสัยแท้จริงออกมา ดูยาก
29 ก.ย 2563 เวลา 09.49 น.
S.S
สามัญสำนึก คำนี้หายากในสมัยนี้แล้วล่ะ
29 ก.ย 2563 เวลา 09.04 น.
sarith
ต่างคนต่างความคิด
29 ก.ย 2563 เวลา 08.50 น.
ดูทั้งหมด