ก่อนจะเขียนคอลัมน์ครั้งนี้ ได้เทียวไล้เทียวขื่อ สอบถามจากเพื่อนชาวจีน สอบถามจากคนไทยที่ใช้ภาษาจีน รับข่าวสารจากทางจีน และคนไทยที่ทำทัวร์ในตลาดจีน ว่า คนจีนกลัวมาเที่ยวไทยจริงๆ หรือ?
ได้รับคำตอบตรงกันเลยว่า “กลัวจริงๆ” เพราะในโลกโซเชียลหรือสังคมออนไลน์ของจีน โดยเฉพาะในเว่ยป๋อ (Weibo) หรือ TikTok ของชาวจีน พูดถึงอันตรายร้ายแรง หากมาประเทศไทยมีโอกาสถูกหลอกไปทำงานฝั่งเมียนมาจากขบวนการค้ามนุษย์ เมื่อไม่ทำตามคำสั่งก็ถูกไฟฟ้าช็อต ถูกทุบตี ถูกทรมาน คนจีนกลัวประเทศไทยรุนแรงขึ้นหลังเกิดกรณีนักแสดงชาวจีน “ซิง ซิง” ถูกหลอกให้มาทำงานในไทย แล้วล่อลวงให้เดินทางข้ามจาก อ.แม่สอด ไปยังประเทศเมียนมา
แม้ว่าทางการไทยจะช่วยเหลือ “ซิง ซิง” กลับมาได้ ยิ่งเป็นชนวนจุดระเบิดให้สังคมออนไลน์ของจีนถล่มประเทศไทยเข้าไปอีกว่า แล้วทำไมไม่ช่วยคนจีนคนอื่นที่ถูกหลอกและยังถูกกักตัวอยู่ในเมียนมาออกมาด้วย
โจมตีถึงขั้นที่พูดกันว่าประเทศไทยยอมเป็นทางผ่านของการค้ามนุษย์ และโจมตีต่างๆ นานา และล่าสุดมีการประกาศจากทางการจีนว่า ขณะนี้มีคนจีนที่ถูกหลอกให้มาทำงาน และบังคับให้หลอกคนต่อในรูปแบบของแก๊ง “คอลเซ็นเตอร์” สูงถึง 20,000 คน ส่วนใหญ่อยู่ในเมียนมา และบางส่วนในกัมพูชา ส่งผลให้รัฐมนตรีต่างประเทศของจีนต้องเรียกหารือกับทูตในประเทศอาเซียนเพื่อขอความร่วมมือแก้ไขปัญหานี้
คนจีนถูกหลอกมามากขนาดนี้ แล้วยังมีคนชาติอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคนไทย บังคลาเทศ สหรัฐฯ รัสเซีย ตุรกี อิหร่าน แม้กระทั่งจากแอฟริกา บริบทที่กำลังเกิดขึ้นจึงเป็นเรื่องที่น่าหวาดผวาอย่างแท้จริง
ทีนี้กลับมาเรื่องที่ว่า เมื่อเกิดเหตุเช่นนี้ขึ้น ผลกระทบที่มีต่อการท่องเที่ยวของไทยจะร้ายแรงขนาดไหน เท่าที่คุยกับ “ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์” ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) บอกว่า ในปีนี้ ททท. ตั้งเป้านักท่องเที่ยวจีนมาไทย 8.5 ล้านคน ขณะที่นโยบายของ “สรวงศ์ เทียนทอง” รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา อยากเบ่งให้ถึง 9 ล้านคน ปัจจัยเสี่ยงที่มีผลต่อเป้าและเป็นปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ คือ สังคมออนไลน์ของจีน
ขณะที่ “ศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร” นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) ที่เรียกได้ว่าเป็น “เจ้าพ่อตลาดจีน” บอกว่า การแก้ปัญหาครั้งนี้นอกจากฝ่ายความมั่นคงต้องดำเนินการแก้ปัญหาไม่ให้ประเทศไทยเป็นทางผ่านของการค้ามนุษย์อย่างจริงจังแล้ว นายกรัฐมนตรี “แพทองธาร ชินวัตร” ต้องมีทีมที่จับประเด็นการกล่าวหาประเทศไทยในสังคมออนไลน์ออกมาเป็นข้อๆ แล้วนายกรัฐมนตรีต้องชี้แจงข้อเท็จจริงและวิธีการแก้ไขทีละข้อ จึงจะเป็นที่เข้าใจของคนจีนได้
“การที่นายกฯ ใช้ AI มาช่วยให้นายกฯ พูดภาษาจีน เพื่อสร้างความเข้าใจและความเชื่อมั่นกับนักท่องเที่ยวจีนถึงความปลอดภัยของการมาเที่ยวในไทย ก็ดีกว่าที่นายกฯ ไม่ได้พูด แต่การพูดภาพกว้างๆ ว่าจะปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติอย่างเด็ดขาด จะบังคับใช้กฎหมายให้เข้มข้น จะพัฒนาระบบช่วยเหลือนักท่องเที่ยว เหล่านี้ยังไม่สามารถตอบคำถามในสังคมออนไลน์ของจีนได้ ผมถึงบอกว่านายกฯ ต้องสั่งทีมให้ทำการบ้านให้ดี เจาะทีละข้อ เพื่อเตรียมไปหารือกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ให้ช่วยแก้ไขประเด็นอ่อนไหวเหล่านี้ ตามที่นายกฯ จะไปเยือนจีนอย่างเป็นทางการในเดือน ก.พ.นี้”
ตัวอย่างคำถามในสังคมออนไลน์ ที่นายกฯ ต้องตอบ เช่น
- รัฐบาลไทยช่วยนักแสดง “ซิง ซิง” ได้ แล้วทำไมไม่ช่วยคนอื่น เพราะอะไรช่วยคนเดียว “ซิง ซิง” โดนโกนหัวแล้วยังช่วยออกมาได้ คนไทยมีปัญหาอะไรกับเขาถึงไม่ช่วยคนไม่มีชื่อเสียง
- เมื่อคนจีนมาถึง อ.แม่สอดแล้ว ทำไมไม่มีการเข้มงวดตรวจสอบในการข้ามชายแดน
- ทำไมประเทศไทยถึงขายไฟฟ้าให้ฝั่งเมียนมาร์ตรงข้าม อ.แม่สอด ทำไมไม่หยุดจ่ายไฟ ทั้งๆ ที่รู้ว่ามีการค้ามนุษย์และมีขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์
- การก่อสร้างของฝั่งเมียนมาใช้วัสดุจากประเทศไทย ทำไมพ่อค้าไทยไม่นึกถึงความปลอดภัยที่เกิดขึ้นกับคนที่ถูกหลอกมา
- ทำไมรัฐบาลไทยไม่คุยกับผู้นำของเมียนมาในการแก้ปัญหานี้
“ศิษฎิวัชร” ให้ข้อมูลต่อว่า น่ากังวลที่ในสังคมออนไลน์ของจีนมีการสร้างข่าวเท็จเพิ่มเติม เช่น มีภาพการแสดงว่าคนถูกฉุดขึ้นรถ บังคับให้นั่งรถมาถึง อ.แม่สอด ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นไม่เฉพาะกับคนจีนที่ผวาการเดินทางมาเที่ยวไทย ยังกระทบกับชาติอื่นๆ ที่ใช้ภาษาจีนในการสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็น ไต้หวัน ฮ่องกง มาเลเซีย ที่ยกเลิกการเดินทางมาไทยไปด้วย
สำหรับช่วงตรุษจีน ได้คุยกับสายการบินไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ บอกว่าผู้โดยสารลดไป 1 ใน 3 นักท่องเที่ยวและเท่าที่ได้ติดตามนักท่องเที่ยวกรุ๊ปทัวร์จีน รวมทั้งนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยตัวเอง ในภาพรวมก็หายไป 20-30% จากจำนวนที่ควรจะเป็น ต้องเข้าใจว่าตรุษจีนเป็นไฮซีซั่น ถ้า ณ จุดนี้ไม่เป็นไปตามเป้า ทั้งปีก็น่าห่วง ยังคาดการณ์ชัดๆ ไม่ได้จริงๆ ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดไปก่อน
“ที่เห็นชัดๆ ตอนนี้เขากลัวไทยแน่นอน คนที่เคยมาเที่ยวไทยแล้วก็ไม่กลัว แต่คนที่ไม่เคยมากลัวจริงๆ ที่สำคัญคือ ตั้งแต่ปีที่แล้วเราตั้งใจไปเจาะตลาดเมืองรองของจีน ไปเจาะเมืองที่เขายังไม่เคยมาไทย เขาก็ตัดสินใจซื้อทัวร์แล้ว พอสังคมออนไลน์ของจีนพูดถึงประเทศไทยในทิศทางลบแบบนี้เขาก็ยกเลิกการเดินทางเลย ทัวร์กรุ๊ป 20 คน ถูกยกเลิกไป 12 คน เหลือ 8 คนก็ออกเดินทางไม่ได้เพราะขาดทุน พอไม่ออกก็ขาดทุนอีก ส่วนคนจีนที่จองเดินทางด้วยตัวเองก็ยกเลิกเช่นกัน”
สรุปจนถึงบรรทัดสุดท้าย ตอนนี้คนจีนกลัวเที่ยวไทยจริงๆ
ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney เพื่อให้คุณ "การเงินดีชีวิตดี" ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/economics/thailand_econ
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : Thairath Money
- LINE Official : Thairath