แหล่งข่าวจากวงการโทรคมนาคม เปิดเผยว่า ปัญหาซิมม้ายังเป็นช่องทางหลักของอาชญากรรมออนไลน์ โดยเฉพาะซิมบ็อกซ์ เป็นอุปกรณ์โทรคมนาคมที่ต้องได้รับอนุญาตนำเข้า แต่ปัจจุบันพบว่า ได้มีการลับลอบนำเข้ามาในไทยได้ง่าย บางรุ่นสามารถหาซื้อผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์และผ่านศุลกากรมาได้ และถูกใช้เป็นเครื่องมือของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แม้เป็นอุปกรณ์ที่มีหมายเลขอีมี่ (IMEI) เหมือนมือถือทั่วไป แต่ไม่เคยถูกจัดระเบียบจากมาตรการที่ชัดเจนในการควบคุมโดยสำนักงาน กสทช.
“ปัจจุบันมีโอเปอเรเตอร์บางรายมีการตรวจจับพฤติกรรมซิมต้องสงสัยจากจำนวนการโทรฯ เข้า-ออก ที่ผิดปกติ ซึ่ง เอไอเอสเป็นรายแรกที่ใช้มาตรการบล็อกซิมม้าอย่างเข้มงวด ส่งผลให้ซิมม้าที่ถูกจับกุมล่าสุดกว่า 300,000 หมายเลข ไม่พบของเอไอเอสเลย หากผู้ให้บริการทุกราย ร่วมมือกันบล็อกเบอร์โทรฯ ที่มีพฤติกรรมผิดปกติ มิจฉาชีพจะไม่มีช่องทางดำเนินการได้ง่ายเหมือนเดิม”
นอจากนี้ยังมีอีกแนวทางป้องกัน คือ การปิดระบบ 2จี ในมือถือ เพื่อป้องกันการรับ เอสเอ็มเอส ปลอมจากมิจฉาชีพที่ใช้สถานีฐานปลอมปล่อยสัญญาณเอง โดยปัจจุบันมีโอปอเรเตอร์ คือ เอไอเอส ได้ร่วมมือกับผู้ผลิตมือถือ พัฒนาเมนูปิด 2จี บนอุปกรณ์ระบบ แอนดรอยด์กว่า 6 ล้านเครื่องแล้ว ขณะที่ระบบไอโอเอสกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการ
ด้าน นายสมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ กรรมการ กสทช. ด้านโทรคมนาคม กล่าวว่า ซิมบ็อกซ์ ที่มิจฉาชีพใช้ จีพีเอส โมดูล 2จี มาทดแทน ถือเป็นปัญหาที่ต้องเร่งหาทางแก้ไขและป้องกัน เพราะสามารถใส่ซิมและกระจายสัญญาณได้ เพื่อใช้โทรฯ สแปม อีกทั้ง ยังมีเทคโนโลยีสถานีฐานปลอม (False base station) ที่เป็นอุปกรณ์หรือระบบที่เลียนแบบสถานีฐานโทรศัพท์มือถือจริง สามารถดักรับสัญญาณโทรศัพท์ได้ โดยไม่ต้องใช้ซิมที่ถูกใช้ส่งเอสเอ็มเอสแนบลิงก์ปลอม หลอกลวงประชาชนในปัจจุบัน
ขณะที่ การเสนอแก้ปัญหาซิมม้า ด้วยการบล็อกหมายเลขอีมี่ของมือถือที่ใช้ซิมม้าโดยตรง เพื่อทำให้เครื่องใช้งานไม่ได้ หวังเพิ่มต้นทุนให้มิจฉาชีพและลดอาชญากรรม นั้น แนวคิดนี้เคยหยิบยกขึ้นหารือกับ พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร กสทช.ด้านกฎหมายแล้ว โดยมองว่า หากมือถือที่ใช้ซิมม้าถูกบล็อก อีมี่จะส่งผลให้มิจฉาชีพต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่ ใช้มือถือยี่ห้ออื่น หรือเครื่องที่มีราคาถูกกว่าแทน ซึ่งเป็นการเพิ่มต้นทุนและอาจช่วยลดอาชญากรรมได้ แต่ต้องยอมรับว่าปัญหาภัยไซเบอร์ต้องร่วมมือกับทุกฝ่าย เพราะ กสทช. ไม่มีอํานาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
"เคยเสนอสำนักงาน กสทช. เพื่อขอความร่วมมือโอเปอเรเตอร์ ช่วยมอนิเตอร์เบอร์โทรฯ ที่มียอดการโทรเข้า-ออกสูงผิดปกติ เช่น จำนวนครั้งที่โทรฯ ต่อวัน หรือความถี่ในการส่งเอสเอ็มเอส และทำการบล็อกทันทีหากเข้าข่ายซิมม้า ซึ่งสามารถใช้เป็นมาตรการป้องกันเพิ่มเติมได้ เพราะต้องยอมรับว่าปัญหาภัยไซเบอร์ กสทช. ไม่มีอํานาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด" นายสมภพ กล่าว