Apple เปิดตัว iOS 13 (ไอโอเอส 13) ในงาน WWDC 2019 ที่จัดขึ้นในวันที่ 3 มิถุนายน 2019 ซึ่ง iOS 13 ใหม่นี้มาพร้อมกับคุณสมบัติใหม่ที่น่าสนใจมากมายไม่ว่าจะเป็น Dark Mode, และอื่นๆ อีกมากมาย เราไปชมรายละเอียดพร้อมๆ กันเลย
iOS 13 เปิดตัวแล้ว มีอะไรใหม่?
1. Dark Mode ธีมสีเข้ม
พบกับ Dark Mode ที่เป็นพื้นหลังโทนสีดำ โดยแอปทุกแอปบน iPhone, iPad จะถูกแสดงเป็นพื้นหลังสีดำทั้งหมด เมื่อ Dark Mode ทำงาน โดย Dark Mode จะเปิดใช้งานอัตโนมัติเมื่อพระอาทิตย์ตกและจะกลับเข้าสู่โหมดปกติ เมื่อพระอาทิตย์ขึ้น
ช่วยถนอมสายตาเวลาที่ใช้งานในที่แสงน้อยและช่วยประหยัดแบตในหน้าจอ OLED อีกด้วย
2. แอปโน้ตและเตือนความจำ ปรับใหม่
แอปโน้ตปรับมุมมองแบบใหม่ให้เป็นแบบแกลลอรี่ ค้นหาได้ง่ายขึ้น
ปรับหน้าจอการแสดงผลแอปเตือนความจำใหม่ โดยแยกหมวดหมู่แบบเป็นปุ่มช่วยให้ดูง่ายขึ้น และยังทำงานร่วมกับ Siri ได้ฉลาดขึ้น Siri จะช่วยคาดเดาคำศัพท์และมีการแจ้งเตือนให้ทราบอยู่เสมอ
3. ปรับปรุงแอปแผนที่ (Maps) ใหม่
แอปแผนที่หรือ Apple Maps มาพร้อมคุณสมบัติ Look Around การแสดงผลแบบภาพเสมือนจริงคล้ายๆ กับ Street View ใน Google Maps สามารถท่องเข้าไปในแผนที่ได้ โดยมีการบอกชื่อสถานที่ต่างๆ ให้ทราบ
4. HomeKit Secure Video
เพิ่มความปลอดภัยให้ระบบ HomeKite ด้วยการเข้ารหัสข้อมูลที่จะต้องบันทึกเก็บไว้บน iCloud เช่น ไฟล์วิดีโอหน้าบ้านที่จะต้องถูกเก็บบน Cloud ก็มีการเข้ารหัสที่มีความปลอดภัยสูงมากๆ
5. Sign in with Apple
เราคงเคยเห็นการลงชื่อเข้าใช้ด้วย Facebook (Sign in with Facebook) กันมาบ้างแล้ว Apple จึงได้ทำ Sign in with Apple บ้าง แต่มีความปลอดภัยสูงกว่า เวลาที่เราจะลงชื่อเข้าใช้แอปหรือเว็บไซต์ต่างๆ ด้วย Apple ID ก็สามารถเลือก Sign in with Apple
ซึ่ง Apple จะสุ่มอีเมลใหม่ขึ้นมาเพื่อส่งให้กับแอปหรือเว็บที่เราเลือกลงชื่อเข้าใช้ รวมถึงข้อมูลต่างๆ ของเราทั้งหมดถูกเก็บอย่างปลอดภัย
6. แอปข้อความใหม่ แชร์โปรไฟล์ง่ายขึ้น
แอปข้อความ (iMessage) ได้ปรับปรุงใหม่ให้มีการบันทึกชื่อและรูปโปรไฟล์ของแต่ละบัญชีได้ รูปภาพโปรไฟล์ก็ยังสามารถสร้างได้จาก Memoji ได้อีกด้วย
การมีโปรไฟล์จะช่วยให้ทุกคนที่ใช้อุปกรณ์ Apple มีตัวตน เราก็จะทราบว่าเรากำลังคุยกับใครอยู่ ส่งข้อความหาใคร โดยที่ไม่ต้องบันทึกชื่อหรือรูปภาพตามเบอร์โทรศัพท์ เนื่องจากโปรไฟล์ของผู้อื่นก็จะถูกแสดงให้ทราบโดยอัตโนมัติ
7. Memoji Sticker Pack
สร้าง Memoji ด้วยตัวเลือกที่ให้ตกแต่งได้มากขึ้น สามารถสร้าง Pack ของ Memoji ให้มีหลากหลายอารมณ์ นอกจากนี้ Memoji ยังรองรับไปถึงอุปกรณ์ที่ใช้ชิป A9 ด้วย
8. แอปรูปภาพปรับแต่งใหม่
แอปรูปภาพ (Photos) มีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถเรียนรู้จากข้อมูลแแสดงรูปภาพและวิดีโอในคลังรูปภาพได้อย่างเหมาะสมซ่อนรูปภาพที่ซ้ำกันอัตโนมัติ จัดระเบียบได้เป็นอย่างดี
พบกับเครื่องมือการปรับแต่งรูปภาพใหม่ที่ปรับแต่งได้ง่ายขึ้น รวมถึงการปรับแต่งวิดีโอก็สามารถทำได้มากขึ้นกว่าเดิม เช่น การครอปวิดีโอ การปรับหมุนวิดีโอเป็นต้น
9. โหมด Portrait Lighting ปรับแต่งได้มากขึ้น
สามารถปรับความเข้มของแสงในภาพ Portrait Lighting ได้ สามารถเลื่อนปรับแสงเข้าใกล้หรือออกห่างจากตัวแบบได้ตามต้องการ
10. AirPods แชร์เสียงให้กับอุปกรณ์อื่นได้
เพิ่มคุณสมบัติการแชร์เสียง โดยนำ AirPods ไปอยู่ใกล้ๆ กับ iPhone หรือ iPad เพื่อแชร์เพลงหรือแชร์เสียงมีเดียอื่นๆ ให้กับเพื่อนอย่างรวดเร็ว
11. CarPlay ใหม่
ปรับปรุงการแสดงผลที่ดูข้อมูลได้ครบถ้วนขึ้น สามารถแสดงหน้าต่างจากหลายแอปได้ในหน้าจอเดียว เช่น เพลง แผนที่ และแอปอื่นๆ มีการเพิ่มแอปปฏิทินใหม่ และรองรับแอปฟังเพลงจากค่ายอื่นๆ เพิ่มมากขึ้น
12. ปรับปรุงประสิทธิภาพ
ปลดล็อคด้วย Face ID เร็วขึ้น 30% จัดการแอป App Store ใหม่ที่ช่วยให้ไฟล์ดาวน์โหลดลดลง เปิดแอปเร็วขึ้น 2 เท่า
อุปกรณ์รุ่นที่รองรับ iOS 13
iPhone
- iPhone XS, iPhone XS Max
- iPhone XR
- iPhone X
- iPhone 8, iPhone 8 Plus
- iPhone 7, iPhone 7 Plus
- iPhone 6s, iPhone 6s Plus
- iPhone SE
iPod
- iPod touch รุ่นที่ 7 (2019)
และนี่ก็คือทั้งหมดของฟีเจอร์ใหม่ที่มาใน iOS 13 ที่ทีมงานอัปเดตสดๆ จากงาน WWDC 2019 สำหรับ iOS 13 นั้น อาจจะปล่อยเวอร์ชันเบต้าให้กับนักพัฒนาหลังจบงาน ซึ่งทีมงานจะอัปเดตให้ทราบอีกครั้ง ส่วนเวอร์ชันบุคคลทั่วไปจะปล่อยให้อัปเดตประมาณปลายปี ช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม ต้องรอติดตามกันต่อไป
ข้อมูล iOS 13 เพิ่มเติมจาก Newsroom
Apple เผยตัวอย่าง iOS 13 ก่อนเปิดให้ใช้จริงเร็วๆ นี้
พบกับ Dark Mode, คุณสมบัติของกล้องและรูปภาพขั้นสูง, Sign In with Apple และการใช้งานแผนที่แบบใหม่หมด
หน้าจอโฮมแบบใหม่ด้วย iOS 13 บน iPhone
iOS 13 จะนำคุณสมบัติใหม่ๆ มาสู่แอพยอดนิยมมากมายภายในปีนี้ ซานโฮเซ่, แคลิฟอร์เนีย — วันนี้ Apple เผยตัวอย่าง iOS 13 ที่จะมาเพิ่มลุคใหม่อันโดดเด่นให้กับ iPhone ด้วย Dark Mode และวิธีใหม่ๆ ในการค้นหาและแก้ไขรูปภาพ การลงชื่อเข้าใช้ในแอพและเว็บไซต์ และการสำรวจโลกด้วยแผนที่แบบใหม่หมด iOS 13 ทำงานได้เร็วขึ้นและตอบสนองได้ดีขึ้นด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพทั้งระบบซึ่งช่วยให้การเปิดแอพรวดเร็วขึ้น ลดขนาดของแอพที่ดาวน์โหลด และทำให้ Face ID เร็วขึ้นกว่าเดิม
“iOS 13 นำความสามารถใหม่ๆ มาสู่แอพที่คุณใช้งานเป็นประจำทุกวัน ด้วยการอัพเดทหลายรูปแบบในแอพรูปภาพและแผนที่ เพิ่มคุณสมบัติที่ช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัวอย่าง Sign In with Apple ทั้งหมดนี้มาพร้อมประสิทธิภาพที่รวดเร็วกว่าเดิม” Craig Federighi รองประธานอาวุโสฝ่าย Software Engineering ของ Apple กล่าว “เราดีใจที่ลูกค้าจะได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่บน iPhone ภายในปีนี้ และอยากให้พวกเขาได้เห็นว่าทุกสิ่งทุกอย่างดูดีแค่ไหนใน Dark Mode”
Dark Mode: ลุคใหม่อันโดดเด่นสำหรับ iPhone
iPhone มาพร้อมลุคใหม่สวยๆ ด้วย Dark Mode ซึ่งเป็นโทนสีมืดแบบใหม่ที่ใช้งานได้ทั่วทั้งระบบและในแอพที่มาพร้อมเครื่องทั้งหมด Dark Mode จะช่วยให้ทุกสิ่งทุกอย่างบนหน้าจอดูยอดเยี่ยมยิ่งกว่าเดิมโดยเฉพาะในที่ที่มีแสงน้อย Dark Mode เปิดให้นักพัฒนาแอพภายนอกนำไปผสานรวมกับแอพของพวกเขาได้และยังสามารถตั้งให้เปิดทำงานโดยอัตโนมัติหลังพระอาทิตย์ตกดินหรือเวลาใดก็ได้
แอพรูปภาพพร้อมการค้นหาที่ง่ายกว่าเดิมและเครื่องมือแก้ไขอันทรงพลัง
แอพรูปภาพใช้การเรียนรู้ของระบบที่มาพร้อมเครื่องในการปรับแต่งคลังรูปภาพทั้งคลังให้ไฮไลท์รูปภาพที่ดีที่สุด ซ่อนสิ่งรบกวนและรูปภาพที่ซ้ำกันโดยอัตโนมัติเพื่อแสดงเหตุการณ์สำคัญของวันก่อนหน้า เดือนที่แล้ว หรือปีที่แล้ว รูปภาพและวิดีโอได้รับการจัดระเบียบอย่างชาญฉลาด ช่วยให้ผู้ใช้ค้นหา สำรวจ และย้อนสู่ช่วงเวลาโปรดได้ง่ายดายยิ่งกว่าที่เคย อีกทั้งยังมีการเล่นวิดีโอแบบอัตโนมัติที่จะปลุกให้คลังรูปภาพมีชีวิตขึ้นมาอีกด้วย
ผู้ใช้สามารถปรับแต่งรูปภาพได้หลากหลายและง่ายดายกว่าเดิมด้วยเครื่องมือใหม่ที่ใช้งานและปรับแต่งง่าย แถมยังดูผลงานได้ในพริบตา เพียงแค่ปัดครั้งเดียวก็สามารถเพิ่มหรือลดเอฟเฟ็กต์เพื่อทำให้รูปภาพสมบูรณ์แบบได้ ช่างภาพจึงสามารถใส่ความคิดสร้างสรรค์ได้มากขึ้นและแต่งเติมรูปภาพได้ตามความต้องการ และเครื่องมือการปรับแต่งรูปภาพส่วนใหญ่ใน iOS 13 สามารถใช้ตัดต่อวิดีโอได้แล้ว ผู้ใช้จึงสามารถหมุน ครอบตัด หรือใส่ฟิลเตอร์ได้เลยจากแอพรูปภาพ
นอกจากนี้ iOS 13 ยังเพิ่มการปรับแต่งการจัดแสงภาพถ่ายบุคคลลงในแอพกล้องอีกด้วย โดยสามารถเลื่อนแสงให้เข้าใกล้ตัวแบบมากขึ้นได้แบบเสมือนจริงซึ่งจะช่วยให้ดวงตาดูคมชัดและใบหน้าของตัวแบบดูสว่างและเรียบเนียน หรือเลื่อนแสงให้ห่างออกไปเพื่อสร้างลุคที่ดูนุ่มนวล ไร้ที่ติ เอฟเฟ็กต์ High-Key Mono ใหม่ช่วยสร้างลุคที่ดูสวยงามในเฉดสีที่ใกล้เคียงกันสำหรับรูปภาพในโหมดภาพถ่ายบุคคล
Sign In with Apple ทั้งรวดเร็ว ง่ายดาย และเป็นส่วนตัว
Apple เปิดตัววิธีการใหม่ในการลงชื่อเข้าใช้ในแอพและเว็บไซต์อย่างเป็นส่วนตัว ง่ายดาย และรวดเร็วยิ่งกว่าที่เคย เพียงแค่ใช้ Apple ID ลูกค้าก็สามารถยืนยันตัวตนได้แล้วโดยไม่ต้องใช้บัญชีโซเซียลมีเดีย กรอกแบบฟอร์ม ยืนยันความถูกต้องของอีเมลหรือเลือกรหัสผ่าน และ Apple จะช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัวของลูกค้าด้วยการมอบ ID แบบสุ่มที่ไม่ซ้ำกันให้แก่นักพัฒนา แม้แต่ในกรณีที่นักพัฒนาสอบถามชื่อและที่อยู่อีเมล ผู้ใช้ก็สามารถเลือกที่จะเก็บที่อยู่อีเมลไว้เป็นความลับแล้วให้ข้อมูลที่อยู่อีเมลแบบสุ่มที่ไม่ซ้ำกันไปแทนได้ Sign In with Apple ช่วยให้ผู้ใช้ยืนยันตัวตนได้อย่างง่ายดายผ่าน Face ID หรือ Touch ID และยังมีการตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัยในตัวเครื่องที่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ใช้อีกระดับด้วย Apple ไม่ได้ใช้ Sign In with Apple เพื่อเก็บข้อมูลลูกค้าหรือกิจกรรมในแอพ
ประสบการณ์แอพแผนที่แบบใหม่หมด
แอพแผนที่บน Apple ช่วยให้ผู้คนหลายล้านคนได้สำรวจและค้นพบสถานที่ต่างๆ บนโลก ทั้งยังช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัวให้ผู้ใช้ไปพร้อมๆ กัน หลังจากการขับรถสำรวจกว่า 4 ล้านไมล์เพื่อสร้างแผนที่ฐานใหม่หมดตั้งแต่ต้น Apple ก็พร้อมมอบประสบการณ์แผนที่แบบใหม่ที่ครอบคลุมถนนหลายสายมากขึ้น มีข้อมูลทางเท้าที่ดียิ่งขึ้น ข้อมูลที่อยู่ที่แม่นยำกว่าเดิม และข้อมูลผืนดินแบบละเอียดยิ่งขึ้น แผนที่ใหม่พร้อมให้ใช้งานแล้วในเมืองและรัฐบางแห่ง และจะเปิดให้ใช้ทั่วทั้งสหรัฐอเมริกาภายในปี 2019 และปี 2020 สำหรับประเทศอื่นๆ
คุณสมบัติ Look Around ใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยฐานแผนที่และรูปถ่าย 3 มิติความละเอียดสูงช่วยแสดงภาพมุมมองถนนอันงดงามของเมืองหนึ่งพร้อมการเปลี่ยนรูปภาพแบบต่อเนื่องและลื่นไหล iOS 13 เพิ่มคุณสมบัติใหม่ๆ ลงในแอพแผนที่ ไม่ว่าจะเป็น Collections ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแชร์ ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว หรือแหล่งช้อปปิ้งที่ตนโปรดปรานกับเพื่อนๆ ได้ และ Favorites สำหรับการนำทางไปยังจุดหมายปลายทางที่ไปบ่อย เช่น บ้าน ที่ทำงาน ยิม หรือโรงเรียนได้ทันทีด้วยการแตะจากหน้าแรกของแอพ
คุณสมบัติเพิ่มเติมใน iOS 13
- เตือนความจำมาในลุคใหม่และมาพร้อมความสามารถอันชาญฉลาดในการสร้างและแก้ไขรายการแจ้งเตือน รวมถึงการจัดระเบียบและติดตามรายการแจ้งเตือนได้หลากหลายวิธียิ่งขึ้น แถบเครื่องมือด่วนช่วยให้ผู้ใช้เพิ่มเวลา วันที่ สถานที่ และธงได้ง่ายขึ้น หรือจะเพิ่มเอกสารแนบก็ได้ นอกจากนี้ยังใช้งานร่วมกับแอพข้อความได้ดียิ่งขึ้น ผู้ใช้จะสามารถแท็กคนอื่นในการเตือนความจำได้อย่างง่ายดาย และรายการจะแสดงขึ้นมาเมื่อผู้ใช้ส่งข้อความหาผู้ที่อยู่ในแท็ก
- ข้อความสามารถแชร์ชื่อและรูปภาพของผู้ใช้ รวมถึง Memoji หรือ Animoji แบบปรับแต่งได้โดยอัตโนมัติ เพื่อช่วยให้ระบุได้ทันทีว่าใครอยู่ในบทสนทนาบ้าง Memoji ถูกเปลี่ยนให้เป็นชุดสติ๊กเกอร์ที่มาพร้อมคีย์บอร์ด iOS โดยอัตโนมัติ จึงใช้งานได้ในแอพข้อความ เมล และแอพอื่นๆ Memoji ยังมาพร้อมทรงผมใหม่ เครื่องประดับศีรษะ เครื่องสำอาง เครื่องประดับและการเจาะร่างกายแบบต่างๆ
- Siri มาพร้อมเสียงใหม่ที่เป็นธรรมชาติมากขึ้นและคำสั่งลัด Siri รองรับ Suggested Automations แล้ว คุณสมบัตินี้จะช่วยแนะนำกิจวัตรประจำวันที่ปรับแต่งให้เป็นส่วนตัวมากขึ้น เช่น การเดินทางไปทำงานหรือไปยิม
- CarPlay ได้รับการอัพเดทแดชบอร์ดใหม่ครั้งใหญ่ที่สุด ซึ่งตอนนี้สามารถดูเพลง แผนที่ และอีกมากมายได้แล้วในมุมมองเดียว อีกทั้งยังมีแอพปฏิทินใหม่และการรองรับ Siri สำหรับการนำทางและแอพฟังเพลงของบริษัทอื่นอีกด้วย
- HomePod สามารถแยกแยะเสียงของผู้ใช้จากเสียงของคนอื่นๆ ในบ้านได้แล้ว จึงสามารถทำตามคำขอแบบส่วนบุคคลได้ รวมถึงการส่งข้อความ การฟังเพลง และอื่นๆ รายการวิทยุสดให้ Siri เข้าถึงสถานีวิทยุกว่า 100,000 สถานีจาก iHeartRadio, radio.com และ TuneIn นอกจากนี้ยังมีตัวตั้งเวลาหยุดเล่นใหม่ที่จะช่วยปิดเพลงตามเวลาที่กำหนดไว้ได้ Handoff ช่วยให้ผู้ใช้ย้ายเพลง พ็อดคาสต์ หรือการสนทนาทางโทรศัพท์ไปยัง HomePod เมื่อกลับถึงบ้านได้อย่างง่ายดาย
- AirPods ช่วยให้ Siri อ่านข้อความที่เข้ามาได้ทันทีจากแอพข้อความที่มาพร้อมเครื่องหรือแอพข้อความอื่นๆ ที่ใช้งานร่วมกับ Siri Kit ได้ คุณสมบัติการแชร์เสียงใหม่ช่วยให้ผู้ใช้ชมภาพยนตร์หรือแชร์เพลงกับเพื่อนได้อย่างง่ายดายเพียงแค่นำหูฟังอีกคู่มาไว้ใกล้ๆ กับ iPhone หรือ iPad
- การควบคุมด้วยเสียงมอบประสบการณ์ใหม่อันทรงพลังให้ผู้ใช้สามารถควบคุม iPhone, iPad หรือ Mac ด้วยเสียงเพียงอย่างเดียวได้แล้ว นอกจากนี้ เทคโนโลยีการรู้จำคำพูดใหม่ล่าสุดของ Siri ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนคุณสมบัตินี้ยังช่วยให้ผู้ใช้ถอดเสียงและแก้ไขข้อความได้แม่นยำยิ่งกว่าเดิม1
- โน้ตมาพร้อมมุมมองแกลเลอรี่ใหม่ การผสานรวมกับโฟลเดอร์ที่แชร์อย่างทรงพลังยิ่งกว่าเดิม รวมถึงเครื่องมือค้นหาและตัวเลือกรายการตรวจสอบใหม่
- QuickPath ช่วยให้การพิมพ์แบบมือเดียวบนคีย์บอร์ด iOS เป็นไปอย่างง่ายดายด้วยการปัดนิ้วผ่านตัวอักษรของคำที่ต้องการพิมพ์2
- การแก้ไขตัวอักษรที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ช่วยให้ผู้ใช้เลื่อนเอกสาร ขยับเคอร์เซอร์ และเลือกตัวอักษรที่ต้องการแก้ไขได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น
- แอพไฟล์มาพร้อมความสามารถในการแชร์โฟลเดอร์กับ iCloud Drive และการเข้าถึงไฟล์จากอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภายนอกอย่างการ์ด SD และแฟลชไดร์ฟ USB
- สุขภาพช่วยให้ผู้ใช้ติดตามสุขภาพการได้ยินและเพิ่มวิธีใหม่ๆ ในการติดตาม แสดงผลด้วยภาพ และคาดการณ์รอบการมีประจำเดือนของผู้หญิงได้
- บริการหาตำแหน่งที่ตั้งมาพร้อมการควบคุมใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้มีตัวเลือกเพิ่มเติมในการแชร์ตำแหน่งที่ตั้งกับแอพ รวมถึงตัวเลือกใหม่ในการแชร์ตำแหน่งที่ตั้งแบบหนึ่งครั้ง และข้อมูลเพิ่มเติมเมื่อแอพกำลังใช้งานตำแหน่งที่ตั้งอยู่เบื้องหลัง
- การปรับปรุงประสิทธิภาพเพิ่มเติมทำให้ทั้งระบบตอบสนองได้รวดเร็วขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปลดล็อคด้วย Face ID ที่รวดเร็วกว่าเดิม และวิธีการจัดแพ็คเกจแอพ iPhone แบบใหม่บน App Store ที่ช่วยให้ขนาดดาวน์โหลดของแอพลดลงถึง 50% ช่วยให้การอัพเดทแอพเล็กลงกว่า 60% ซึ่งส่งผลให้การเปิดแอพเร็วขึ้นถึงสองเท่าอีกด้วย
ขอบคุณ theverge, Apple Newsroom
ความเห็น 0