8 เม.ย.63 - หลังจากโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์ของโรคไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด-19 ได้แถลงข่าวสถานการณ์การระบาดของเชื้อ ซึ่งพบว่า ทั้งประเทศมีผู้ป่วยรายใหม่ 111 ราย และเสียชีวิต 3 ราย ซึ่ง 1 ในนั้น คือ ชายชาวต่างชาติ อายุ 69 ปี ซึ่งเป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายแรกของจังหวัดบุรีรัมย์ ได้เสียชีวิตเมื่อวานนี้ (7 เม.ย.63) ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.บุรีรัมย์ หลังจากตรวจชันสูตรศพตามขั้นตอนเรียบร้อย
ล่าสุด ช่วงบ่ายวันนี้ (8 เม.ย.63) ทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลก็ได้จัดการร่างของผู้เสียชีวิตตามมาตรฐานการควบคุมป้องกันโรคโดยใส่ในถุงซิป 3 ชั้น และมีการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อทุกชั้น ก่อนจะเคลื่อนร่างไปเผาที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดบุรีรัมย์ โดยเจ้าหน้าที่ที่ทำการเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตไปไปฌาปนกิจ ก็มีการสวมชุดป้องกันเชื้ออย่างมิดชิด
ซึ่งก่อนที่จะนำร่างไปเผายังวัดดังกล่าวทางโรงพยาบาล ก็ได้ประสานกับทางวัดและทำความเข้าใจกับผู้นำชุมชนเรียบร้อยแล้วว่า เจ้าหน้าที่มีการจัดการศพตามมาตรฐานควบคุมป้องกันโรคอย่างรัดกุม ส่วนการเผาก็ไม่ได้มีการประกอบพิธีใดๆ มีเพียงสัปเหร่อ พระสงฆ์และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาดูแลเท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความตื่นตระหนก จากนั้นทางวัดก็จะเก็บเถ้ากระดูกไว้ให้ญาติเพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
สำหรับไทม์ไลน์ของชายชาวต่างชาติที่เสียชีวิตรายดังกล่าว มีดังนี้ เมื่อวันที่ 18 มี.ค.63 มีได้เดินทางเข้ามาในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ โดยได้ลงทะเบียนผ่านระบบแอพพลิเคชั่น Buriram Healthy Passport เพื่อแจ้งข้อมูลสุขภาพและการเดินทางเข้า-ออกจังหวัดบุรีรัมย์ ตามประกาศของคณะกรรมการโรคติดต่อ ซึ่งระหว่างเดินทางมาพบว่ามีอาการไข้ติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน จึงได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนในจังหวัด ทางเจ้าหน้าที่จึงขอรับตัวมาตรวจทางห้องปฏิบัติการที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ แล้วผลการตรวจเลือดยืนยันว่าติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งถือเป็นรายแรกของจังหวัด
จากการซักประวัติ พบว่า ชายชาวต่างชาติรายดังกล่าวมีอาการผิดปกติตั้งแต่วันที่ 10 มี.ค.63 ตั้งแต่ที่อยู่ประเทศภูมิลำเนา จากนั้นได้เดินทางไปท่องเที่ยวยังประเทศที่สาม ก่อนที่จะเดินทางมายังประเทศไทยถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ในวันที่ 16 มี.ค. จากนั้นวันที่ 17 มี.ค.ได้เดินทางไปเที่ยวที่พัทยา จ.ชลบุรี ต่อมาวันที่ 18 มี.ค. ได้ใช้บริการรถแท็กซี่เพื่อจะเดินทางมาเยี่ยมครอบครัวที่ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ซึ่งระหว่างทางรถแท็กซี่ได้เสียที่ อ.โนนดินแดง จากนั้นได้เช่าเหมารถอีกคันเพื่อเดินทางต่อมาหาภรรยาที่ อ.บ้านกรวด ซึ่งชายชาวต่างชาติได้นัดเจอกับภรรยาที่โรงพยาบาลเอกชน เพราะรู้ตัวว่ามีอาการผิดปกติและอยู่ในกลุ่มเสี่ยง
หลังจากได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล แพทย์ก็ได้ทำการรักษาอย่างเต็มที่ แต่เนื่องจากผู้ป่วยมีอายุมาก ประกอบกับมีโรคประจำตัวไตเรื้อรัง ทำให้หายใจลำบาก หอบเหนื่อย จนต้องใส่ท่อช่วยหายใจและได้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา