กรมการขนส่งทางบก หารือร่วมผู้แทน4 สมาคมแท๊กซี่ ปรับอัตราโดยสารแท๊กซี่มิเตอร์ ได้ข้อยุติจาก30 บาท เป็น40 บาท ตามขนาดรถ เสนอ รมว.คมนาคม ก่อนประกาศกฎกระทรวงให้มีผลบังคับใช้ต่อไป มีผลเฉพาะแท็กซี่ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ ที่อยู่ในระบบทั้งหมด80,000 คัน
นายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษา รมว.คมนาคม นางสุขสมรวย วันทนียกุล เลขานุการ รมว.คมนาคม พร้อมนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบกได้ร่วมประชุมหารือกับผู้แทน4 สมาคม ประกอบด้วย สมาคมแท็กซี่สาธารณะไทย สมาคมประสานงานรถรับจ้างสุวรรณภูมิ สมาคมผู้ขับรถแท็กซี่สาธารณะ สมาคมแท็กซี่ยานยนต์ไฟฟ้า และ บจก. โฮวา เพื่อติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับการพิจารณาปรับอัตราค่าโดยสารแท็กซี่มิเตอร์(ประชุมครั้งล่าสุดเมื่อวันที่19 ต.ค.65)
นายวิรัช เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบกได้ชี้แจงแก่ที่ประชุมว่า การพิจารณากำหนดอัตราค่าโดยสารดังกล่าว เป็นการดำเนินการในรูปแบบของคณะทำงาน ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนของหน่วยงานต่างๆ และได้รับฟังความเห็นอย่างรอบด้านจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น มูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค สำนักสภาองค์กรของผู้บริโภค สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย(ทีดีอาร์ไอ) ผู้แทนภาคประชาชน รวมถึงผู้แทนสหกรณ์แท็กซี่ต่างๆ
โดยขอให้4 สมาคมฯ รับอัตราค่าโดยสารที่ผ่านการพิจารณาของคณะทำงานฯ นี้ไปก่อน เพื่อให้สามารถไปสร้างรายได้เพิ่มขึ้นพอสมควร โดยประชาชนไม่ได้รับผลกระทบมากจนเกินไป ซึ่งท้ายที่สุดยอมรับอัตราดังกล่าว จากนั้นได้จัดตั้งคณะทำงาน เพื่อศึกษาโครงสร้างอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสม มีความเป็นสากล รวมถึงการจัดหาแนวทางการปรับปรุงโครงสร้างของมิเตอร์แท็กซี่ให้มีความเหมาะสมกับปัจจุบันและเป็นสากล
ส่วนในขั้นต่อไปจะได้ออกประกาศกระทรวงคมนาคม เพื่อกำหนดอัตราค่าโดยสารรถแท็กซี่ใหม่ ก่อนเริ่มให้มีการจูนมิเตอร์ โดยผู้แทน4 สมาคมฯ ขอให้ช่วยเหลือให้ค่าจูนมิเตอร์มีราคาที่เหมาะสม ไม่เป็นภาระแก่ผู้ขับรถแท็กซี่จนเกินไป พร้อมทั้งเตรียมพื้นที่ในการปรับจูนมิเตอร์ให้มีความคล่องตัวและรวดเร็ว ต่อไป
ด้านนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า ในมติที่ประชุมครั้งนี้ เห็นชอบแนวทางการปรับขึ้นค่าโดยสารแท็กซี่ตามที่กรมการขนส่งทางบกและ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย(ทีดีอาร์ไอ) เสนอว่าจะปรับอัตราค่าโดยสารในราคาที่เหมาะสมดังนี้
ระยะทาง1 กม.แรก รถเล็ก35 บาท รถใหญ่40 บาท, ระยะทาง2-10 กม. รถเล็ก กม.ละ6.5 บาท รถใหญ่ กม.ละ6.5 บาท, ระยะทาง11-20 รถเล็ก กม.ละ7 บาท รถใหญ่ กม.ละ7 บาท, ระยะทาง21-40 กม. รถเล็ก กม.ละ8 บาท รถใหญ่ กม.ละ8 บาท, ระยะทางเกินกว่า41-60 กม. รถเล็ก กม.ละ8.5 บาท รถใหญ่ กม.ละ8.5 บาท, ระยะทาง61-80 กม. รถเล็ก กม.ละ9 บาท รถใหญ่ กม.ละ9 บาท, ระยะทาง81 กม. ขึ้นไป รถใหญ่ กม.ละ10.5 บาท รถใหญ่ กม.ละ10.5 บาท ค่ารถติด กรณีรถเคลื่อนที่ได้ช้ากว่า6 กม./ชม. รถเล็ก3 บาทต่อนาที รถใหญ่3 บาทต่อนาที
จากนี้จะรวบรวมข้อมูลเพื่อเสนอนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เห็นชอบมติผลประชุมครั้งนี้ ภายใน1-2 สัปดาห์ หากได้รับความเห็นชอบแล้ว ต้องมีการประกาศกฎกระทรวงในการปรับขึ้นค่าโดยสารแท็กซี่ โดยมี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นผู้ลงนา เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตามกฎหมายต่อไป สำหรับการปรับครั้งนี้มีผลเฉพาะแท๊กซี่ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ 80,000 คัน จากที่ให้บริการจริงในปัจจุบัน60,000 คัน
"หลังจากปรับขึ้นค่าโดยสารแล้ว เน้นย้ำแท็กซี่ในเรื่องพัฒนาคุณภาพให้บริการที่ดี เช่น ไม่ปฏิเสธผู้โดยสาร หากพบว่ามีการกระทำผิดจะลงโทษตามกฎหมายขั้นสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นการใช้ระบบตัดแต้มใบอนุญาตขับรถ หรือหากมีการทำผิดซ้ำจะพักใช้ใบอนุญาตขับรถ3-6 เดือน และ เพิกถอนใบอนุญาตขับรถแล้วแต่กรณี" นายจิรุตม์ กล่าว
สำหรับการปรับขึ้นค่าโดยสารแท็กซี่ครั้งนี้ ต่างจากค่าโดยสารแท็กซี่ในปัจจุบันหลักๆ คือ ระยะทาง1 กม. แรก รถใหญ่ ปัจจุบัน35 บาท ปรับเป็น40 บาท
ระยะทางเกินกว่า1-10 กม. ปัจจุบัน รถเล็ก-รถใหญ่ กม.ละ5.5 บาท ปรับเป็น กม.ละ6.5 บาท
ระยะทางเกินกว่า10-20 กม. ปัจจุบัน รถเล็ก-รถใหญ่ กม.ละ6.5 บาท ปรับเป็น กม.ละ7 บาท
ระยะทางเกินกว่า20-40 กม. ปัจจุบันรถเล็ก-รถใหญ่ กม.ละ7.5 บาท ปรับเป็น กม.ละ8 บาท
ระยะทางเกินกว่า40-60 กม. ปัจจุบัน รถเล็ก-รถใหญ่ กม.ละ8 บาท ปรับเป็น กม.ละ8.5 บาท
ส่วนค่ารถติด ปัจจุบันรถเล็ก-รถใหญ่ คิดนาทีละ2 บาท ปรับเป็นนาทีละ3 บาท