โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

‘ดาวโจนส์’ ปิดตลาดพุ่ง 440.06 จุด ขานรับ ‘เบสเซนต์’ ขึ้นแท่นว่าที่ขุนคลังสหรัฐ

The Bangkok Insight

อัพเดต 26 พ.ย. เวลา 01.33 น. • เผยแพร่ 26 พ.ย. เวลา 01.33 น. • The Bangkok Insight
‘ดาวโจนส์’ ปิดตลาดพุ่ง 440.06 จุด ขานรับ ‘เบสเซนต์’ ขึ้นแท่นว่าที่ขุนคลังสหรัฐ

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดซื้อขายวานนี้(25 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ "ดาวโจนส์" พุ่งขึ้น 440.06 จุด ขานรับข่าว "โดนัลด์ ทรัมป์" ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ เสนอชื่อ "สก็อตต์ เบสเซนต์" ผู้ก่อตั้งกองทุนเฮดจ์ฟันด์ "คีย์สแควร์ กรุ๊ป" ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,736.57 จุด เพิ่มขึ้น 440.06 จุด หรือ + 0.99% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 5,987.37 จุด เพิ่มขึ้น 18.03 จุด หรือ +0.30% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 19,054.84 จุด เพิ่มขึ้น 51.18 จุด หรือ +0.27%

ดาวโจนส์
ดาวโจนส์

บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคักหลังจากมีรายงานว่า ทรัมป์ได้เสนอชื่อสก็อตต์ เบสเซนต์ ผู้ก่อตั้งกองทุนเฮดจ์ฟันด์ คีย์สแควร์ กรุ๊ป ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลัง โดยนักลงทุนมีมุมมองบวกว่าเบสเซนต์จะดำเนินมาตรการที่เอื้อต่อตลาดหุ้น และจะทำให้เศรษฐกิจและตลาดการเงินของสหรัฐ มีเสถียรภาพมากขึ้น

นอกจากนี้ เบสเซนต์ซึ่งคร่ำหวอดในแวดวงตลาดหุ้นสหรัฐ ยังมีจุดยืนสนับสนุนการจัดเก็บภาษีนำเข้าอย่างค่อยเป็นค่อยไป และผ่อนคลายกฎระเบียบเพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจของสหรัฐ รวมทั้งมีเป้าหมายควบคุมเงินเฟ้อ ผลักดันการฟื้นตัวของภาคการผลิตและความเป็นอิสระในอุตสาหกรรมพลังงาน

การเข้ามารับตำแหน่งของเบสเซนต์ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของสหรัฐ ซึ่งกำลังเผชิญกับการขาดดุลงบประมาณและหนี้จำนวนมาก โดยสหรัฐมีหนี้ทั้งหมดมากกว่า 36 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งในจำนวนนี้ 28.7 ล้านล้านดอลลาร์เป็นหนี้ภาคสาธารณะ

ข่าวการเสนอชื่อเบสเซนต์ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังสหรัฐ ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ อายุ 10 ปีร่วงลงแตะระดับ 4.279% และเป็นปัจจัยหนุนหุ้นที่มีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ซึ่งรวมถึงหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มธุรกิจสร้างบ้าน

ในสัปดาห์นี้ นักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันพุธ (27 พ.ย.) โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

เว็บไซต์ :https://www.thebangkokinsight.com/
Facebook :https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
X : https://twitter.com/BangkokInsight
Instagram : https://www.instagram.com/thebangkokinsight/

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ความเห็น 0

ยังไม่มีความเห็น