27 กันยายน ที่ผ่านมา YouTube ประเทศไทยเผยจัดงาน “Brandcast & YouTube Works Awards 2022” เป็นงานจัดออฟไลน์ของ YouTube ประเทศไทยในรอบ 3 ปี อัพเดตเทรนด์ แชร์เทรนด์ที่ครีเอเตอร์และนักการตลาดจะนำไปใช้สร้างคอนเทนต์บน YouTube
ภายในงานยังเผยข้อมูลพฤติกรรมผู้ใช้งานคนไทย ไฮไลต์คือ คนไทยดู YouTube บนทีวี 12 ล้านคน หลายๆ คนใช้งาน YouTube แทนทีวีไปในตัว
แจ็คกี้ หวาง Country Director, Google ประเทศไทย กล่าวว่าจำนวนชั่วโมงของคอนเทนต์ที่ถูกอัปโหลดบน YouTube เพิ่มขึ้นมากถึง 50% ในขณะที่มีช่องที่มีผู้ติดตามทะลุ 1 ล้านคนรวมกว่า 750 ช่อง เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 20% ซึ่งการเติบโตนี้สะท้อนถึงเนื้อหาที่หลากหลายและความคิดสร้างสรรค์ของครีเอเตอร์
คุณมุกพิม อนันตชัย หัวหน้าฝ่ายพันธมิตรธุรกิจ YouTube ประเทศไทย และเวียดนาม กล่าวว่า เข้ามาใช้งาน YouTube เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันไป นั่นเป็นเพราะ YouTube มีคอนเทนต์ที่หลากหลาย ตั้งแต่การศึกษา ความบันเทิง ซึ่งมีหลายรูปแบบมากๆ ไม่เพียงแค่ความบันเทิงแบบแมสๆ แต่ยังรวมถึงความบันเทิงแนวใหม่ที่นึดกลุ่มคนดูไว้อย่างเหนียวแน่น เช่น การเล่าเรื่องผีจากช่อง The Ghost Radio, คลิป ASMR, คลิปเพื่อความผ่อนคลายกลุ่ม Oddly Satisfying ซึ่งถ้ามาดูเฉพาะคลิป ASMR ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โกยยอดวิวไปแล้วถึง 65,000 ล้านวิว
เทรนด์ ASMR และ Oddly Satisfying ยังช่วยให้เกิดครีเอเตอร์กลุ่มใหม่ ที่ไม่จำเป็นต้องพูดหน้ากล้องเสมอไป แต่ทำอะไรที่ตัวเองถนัดได้
อีกสถิติน่าสนใจคือ ความยาวของคลิป ซึ่งเรามักจะได้ยินกันว่า เทรนด์คลิปสั้นกำลังมาแรง และมันจะแทนที่การดูคลิปยาวๆ เนื้อหาเข้มข้นเลยหรือไม่
คุณมุกพิม บอกว่า ความยาวของคลิปที่อัพขึ้น YouTube มีความยาวขึ้นเรื่อยๆ เริ่มจาก 25 นาที เป็นหลักชั่วโมง ซึ่งเป็นผลจากครีเอเตอร์ที่เสนอคอนเทนต์ในรูปแบบที่ต้องเสนอด้วยความยาวเท่านั้น เช่นคลิปอธิบายประวัติศาสตร์ หรือคลิปรีวิวการเดินทาง ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ คลิปขับรถ EV ข้ามจังหวัด ข้ามประเทศของช่อง Spin9 เป็นต้น
และจากการที่ YouTube ของฝั่ง Global ประกาศนโยบายใหม่ ให้สามารถทำเงินจาก YouTube Shorts ได้นั้น คุณมุกพิม บอกว่าจะได้เห็นความเคลื่อนไหวในไทยราวๆ ปีหน้า
ภายในงาน “Brandcast & YouTube Works Awards 2022” คือการประกาศผลผู้ชนะรางวัล “YouTube Works Awards” ที่จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 เพื่อส่งเสริมและยกย่องชิ้นงานโฆษณาที่โดดเด่นและสร้างความสำเร็จทางธุรกิจจากแบรนด์ชั้นนำต่างๆ ในประเทศไทย สำหรับปีนี้แบรนด์ต่างๆ ได้ส่งผลงานเข้าร่วมประกวดใน 7 ประเภทด้วยกัน โดย GrabPay Wallet สามารถคว้ารางวัลไปถึง 3 รางวัล ได้แก่ Grand Prix, Action Driver และ Best Full Funnel จากแคมเปญ Dear Homosapiens ที่ทะลายความเชื่อเดิมๆ เกี่ยวกับการใช้งานผลิตภัณฑ์ e-wallet ผ่านการเล่าเรื่องอย่างสนุกสนาน ผนวกกับการวางแผนสื่อที่ใช้จุดเด่นของ YouTube ในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างตรงจุด และตอบโจทย์ทางการตลาดแบบ full funnel ตั้งแต่การสร้างการรับรู้ของผลิตภัณฑ์ กระตุ้นการตัดสินใจ ไปจนถึงการสมัครใช้งาน
ความเห็น 0