ข้อมูลเบื้องต้น
The poison of love จ้าวเยว่ฮวา อัจฉริยะแห่งพิษ
จ้าวเยว่ฮวา อัจฉริยะแห่งพิษผู้เก่งกาจ!
นางตายอย่างปริศนาและรู้ตัวอีกทีก็อยู่ในร่างขององค์หญิงกาลกิณีที่ถูกฆ่าตาย!
ทั้งต้องชำระไอแค้น!
ทั้งตามหาสาเหตุการตายของตัวเอง!
และคิดบัญชีเรียงตัว!
ทีละคน!
สวัสดีค่ะทุกคน พบกับแป้งหอมอีกเช่นเคย!
แอบกระซิบว่านิยายเรื่องนี้ซุ้มเขียน และนักวาดหน้าปกของแป้งหอมวาดนานถึง 1 เดือนนะคะ สวยถูกใจและสมกับนางเอก จ้าวเยว่ฮวา มากเลยค่ะ ประทับใจมากจนต้องบอกกับทุกคน!
นิยายเรื่องนี้เกิดจากจินตนาการของแป้งหอมเอง หากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
แน่นอนว่า หากเจอคำผิดก็บอกกล่าวกันได้เลยค่ะ เดี๋ยวแป้งหอมจะตามแก้อีกรอบ!
ขอบคุณนักอ่านทุกๆ ท่าน
ขอให้มีความสุขและสุขภาพแข็งแรงกันทุกคนนะคะ!
สุสานหมื่นวิญญาณ!
“องค์หญิงใหญ่แห่งแคว้นอะไรกัน? สุดท้ายก็แค่นี้!”
“เร็วเข้า รีบเผานางเสีย!”
“เจ้าจะรีบไปทำไมกัน นางตายแล้ว ต่อให้ไม่เผาก็มีค่าเท่ากัน”
“เจ้าอย่าพูดมาก ตรงนี้เป็นสุสานหมื่นวิญญาณเชียวนะ!”
“ฮ่าๆๆ ที่แท้เจ้าก็กลัวนี่เอง”
“เหลวไหล เจ้าไม่กลัวหรืออย่างไร?”
“ได้ๆ ข้าจะเผาเดี๋ยวนี้!”
ชายสองคนในชุดเสื้อเกราะทหารยืนอยู่หน้าศพกองใหญ่ ศพบางศพกำลังเน่าเปลือย ศพบางศพยังคงมีสภาพดีบ่งบอกว่าพึ่งเสียชีวิตลงเมื่อไม่นานมานี้
ทหารคนหนึ่งถือคบเพลิง คนหนึ่งราดน้ำมันลงบนร่างของหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังนอนอยู่บนพื้น หน้าอกของหญิงสาวไม่ขยับอีกต่อ ไร้ลมหายใจเสียแล้ว
ใบหน้าของหญิงสาวถูกผมอันยุ่งเหยิงปรกคลุมเอาไว้ เนื้อตัวเต็มไปด้วยรอยขีดขวด เลือดสีแดงสดที่ติดอยู่ตามเสื้อผ้ายังไม่แห้งสนิท
“เร็ว เหม็นจะตายอยู่แล้ว” ทหารที่ราดน้ำมัน มือหนึ่งปิดจมูก มือหนึ่งถือกระบอกน้ำมัน สีหน้ารังเกียจกลิ่นเหม็นและสถานที่แห่งนี้
วูบ!
ลมเย็นๆ พัดเข้ามาปะทะใบหน้าของทหารทั้งสอง ชายที่ถือคบเพลิงยกมือข้างที่ว่างถูแขนอีกข้างด้วยความหนาวอันไร้ที่มา เขาหันซ้ายกันขวาก่อนจะกลืนน้ำลาย
“สมกับเป็นสุสานหมื่นวิญญาณ ขนข้าลุกไปหมดแล้ว”
ทหารที่ถือน้ำมันตบหัวคนที่ถือคบเพลิงเสียงดัง
โป๊ก!
“นายกองกำลังรอเราอยู่ด้านนอก รีบเผา!”
ชายที่ถือคบเพลิงเลิกเล่น เขาลูบหัวที่ถูกตบเบาๆ ก่อนจะโยนคบเพลิงลงบนน้ำมันที่พื้น เปลวไฟสีแดงลุกไหม้ยามค่ำคืนอันเงียบสงัด
พรึ่บ!
แสงสว่างจากเปลวไฟทำให้พวกเขามองเห็นศพทั้งหลายที่ถูกทิ้งที่นี่ชัดเจนกว่าเดิม ทหารทั้งสองเห็นว่าไฟลามไปทั่วจึงได้หันหลังจากไปด้วยอาการขนลุกขนพอง
“เจ้าว่านางเป็นดาวหายนะของแคว้นเราจริงหรือไม่?”
“เดิมทีนางก็ควรตายไปนานแล้ว”
“หรือว่า นางจะฟื้นจากความตาย?”
“เหลวไหล!”
ในขณะที่ทหารทั้งสองกำลังคุยกันและเดินออกไปจากสุสานหมื่นวิญญาณ ด้านหลังของพวกเขาเป็นกองเพลิงสีแดงราวกับเลือดอาบย้อม และไม่นานเปลวเพลิงก็เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล สีน้ำเงิน สีเขียว สีขาว และสุดท้ายเป็นสีดำ
พรึ่บ!
ดวงตาของหญิงสาวที่กำลังอยู่ในกองซากศพลืมขึ้น ดวงตาของนางเป็นสีดำสนิทราวกับรัตติกาลอับแสง ร่างกายผอมบางเริ่มขยับเคลื่อนไหว
ปกติปฏิกิริยาแรกที่มนุษย์ถูกเผาคือวิ่งออกจากกองไฟ แต่หญิงสาวที่กำลังขยับตัวลุกขึ้นกลับไม่ได้รีบร้อนเช่นนั้น นางลุกขึ้นยืนและมองไปยังคนสองคนที่กำลังเดินออกไป
ฟู่!
เปลวไฟสว่างกว่าปกติ แม้ว่ามันจะเป็นสีดำแต่มันกลับให้ความสว่างปนลึกลับ กลิ่นอายอันตรายและน่าขนลุกทำให้ทหารสองคนค่อยๆ หันกลับมา
ร่างหญิงสาวโชกเลือดที่ตนพึ่งจะจุดไฟเผากำลังยืนอยู่ในกองไฟ!
“ผี!”
“วิญญาณร้าย!”
ทหารทั้งสองกรีดร้อง ทั้งสองตั้งท่าจะวิ่งหนีออกไปด้วยความหวาดกลัว แต่ร่างกายกลับถูกพลังบางอย่างควบคุมเอาไว้ ไม่ให้พวกเขามีโอกาสหนี
หญิงสาวค่อยๆ ยิ้ม ตอนนั้นเองแสงจากเปลวไฟรอบๆ ตัวนางก็ทำให้ใบหน้าของนางถูกเปิดเผยครู่หนึ่ง แม้จะสกปรกไปด้วยคราบดิน แต่ความงดงามของนางก็ยังเด่นชัด
“ใช่ ข้าฟื้นจากความตาย”
เสียงอ่อนหวานราวกับหญิงสาวร่ายรำให้ทหารทั้งสองน้ำตาไหล ความหวาดกลัวทำให้พวกเขาปัสสาวะและอุจจาระราดกางเกง เลือดสีแดงไหลออกจากดวงตาทั้งสองข้าง
“ย้ากกก!”
เสียงร้องโหยหวนของทหารทั้งสองดังก้องสุสานหมื่นวิญญาณ นกบินว่อน ลมเย็นยะเยือกพัดแรงจนต้นไม้เอนเอียง
คล้ายยินดี!
คล้ายต้อนรับ!
คล้ายพัดพาจุดจบของคนชั่วช้าเข้ามาใกล้!
ด้านหน้าสุสานหมื่นวิญญาณ!
ทหารมากกว่าหนึ่งร้อยนายต่างนั่งพักผ่อน กินอาหาร ดื่มสุราอย่างเพลิดเพลิน นายกองผู้ทำหน้าที่นำทหารมาทำภารกิจสำคัญลุกขึ้นยืนเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องอันน่าสยดสยองด้านในสุสานหมื่นวิญญาณ
“เกิดอะไรขึ้น?” นายกองมองไปที่ทางเข้าสุสานหมื่นวิญญาณ เขาหันกลับมาชี้ทหารสองสามคนที่นั่งอยู่ใกล้ทางเข้าสุสานมากที่สุด “พวกเจ้าไปดูพวกนั้นหน่อย แค่เผาคนตายคนหนึ่งมันนานถึงเพียงนี้เลยหรือ?”
“หัวหน้า ที่นี่คือสุสานหมื่นวิญญาณนะขอรับ”
“แล้วอย่างไร? จะให้ข้าเข้าไปแทนหรือ?” นายกองสีหน้าดุดัน เอ่ยถามเสียงทรงพลัง
“ไม่กล้าขอรับ พวกข้าจะไปเดี๋ยวนี้ขอรับ”
“เร็วเข้า!”
ทหารสามนายรีบวางน่องไก่และสุราในมือลงอย่างเสียดายแล้ววิ่งถือกระบี่เข้าไปในสุสานหมื่นวิญญาณที่มีแต่ความมืดและเส้นทางเส้นเล็กๆ เท่านั้น
จนเมื่อทั้งสามไปเห็นศพของทหารสองนายที่นอนสิ้นใจอย่างอนาถก็ตกใจจนถอยหลัง รีบชักกระบี่ออกมาและมองไปรอบๆ
ชิ้ง!
“บังอาจ กล้าสังหารทหารของทางการ เจ้าจงออกมาเดี๋ยวนี้!”
พึบพับ!
เปลวไฟสีดำยังคงลุกโหมอย่างต่อเนื่อง เสียงเผาไหม้อันรุนแรงเสียงดังท่ามกลางความเงียบ ทหารสามนายหันไปทางกองไฟพร้อมกัน
พรึ่บ!
เท้าเปลือยเปล่าสีขาวนวลข้างหนึ่งก้าวออกจากกองไฟสีดำ ไม่นานเท้าอีกข้างที่งดงามพอกันก็ก้าวออกมา ทหารทั้งสองมองไล่ขึ้นไปก็พบชุดหญิงสาวที่พวกเขาตามฆ่าอยู่บนร่างผอมบาง
ฟู่!
ใบหน้างดงามปรากฏต่อสายตา!
หญิงสาวยกยิ้ม นางค่อยๆ ยกมือขาวนวลขึ้นเล่นกับเปลวไฟที่กำลังเผาไหม้ ราวกับนางรู้สึกเย็นสบายที่ถูกเปลวไฟเหล่านี้โอบล้อม
“น่าขัน! ข้าเป็นถึงเบญจธาตุหนึ่งในหมื่นปี กลับถูกทหารกระจอกกลุ่มหนึ่งเผา!”
อีบุ๊คเล่ม 1-2 ออกแล้วนะคะ
ลิ้งค์เล่ม 1 : https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiNTEwMTEyMiI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjI4NDg4MCI7fQ
ลิ้งค์เล่ม 2 : https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiNTEwMTEyMiI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjI5MTMzOCI7fQ
หญิงกาลกิณี!
“ย้ากกก!”
เสียงร้องโหยหวนดังก้องสุสานหมื่นวิญญาณอีกครั้ง ร่างของทหารสามนายสิ้นใจลงอย่างน่าอนาถเหมือนกับทหารสองนายก่อนหน้านี้
หญิงสาวใบหน้างดงามค่อยๆ เงยขึ้น แสงจันทร์และแสงจากเปลวไฟอาบไล้ใบหน้างดงามจนยากจะหาสิ่งใดเปรียบ นางคือความงดงามและอ่อนหวานที่สุดในใต้หล้า
นางมีใบหน้ารูปไข่และดวงตาหวานซึ้ง นางค่อยๆ หลับตาลงและเข้าสู่การระลึกความทรงจำของร่างกายที่นางครอบครอง ภาพความทรงจำหลายอย่างฉายเข้ามาในหัวของนางราวกับนางเผชิญมันด้วยตนเอง
ทว่า ร่างกายที่นางครอบครองนี้มีความทรงจำจำกัด นางรับรู้เพียงเป็นเด็กน้อยที่ถูกหมอหลังเขาคนหนึ่งเก็บกลับมาจากกลางป่าลึก ตอนเขาไปเก็บสมุนไพรได้เจอเด็กทารกพร้อมกับทหารนับร้อยนายที่ตายลง
คนที่รับร่างนี้มาเป็นหมอที่เห็นความตายมาแล้ว เขาเล่าให้ร่างนี้ฟังว่า เขาถือว่ามีวาสนากับร่างนี้ จึงเก็บนางมาเลี้ยงดูในฐานะบุตรสาวบุญธรรม
แต่… หลังจากพ่อบุญธรรมของร่างนี้ออกไปตระเวนรักษาชาวบ้านตามหมู่บ้านต่างๆ เขาไปหนึ่งครั้งกินเวลาไปนานถึงหนึ่งเดือน ร่างนี้เลยเข้าเมืองและซื้ออาหารกับบ่าวรับใช้
และหลังจากนั้นสามวันให้หลัง ร่างนี้ก็ถูกตามฆ่า บ่าวรับใช้ชายหนึ่งหญิงหนึ่งถูกฆ่าตายอย่างอนาถที่บ้านหลังเขา ร่างนี้วิ่งหนีเข้าป่า วิ่งยาวนานและสุดท้ายก็ถูกฆ่าตาย
ทหารกลุ่มนั้นเลยนำร่างนี้มาเผาที่สุสานหมื่นวิญญาณสินะ!
“จ้าวเยว่ฮวา นอกจากชื่อนี้แล้ว เห็นทีสิ่งที่เหมือนกันระหว่างเราคงเป็นการตายที่เป็นปริศนาพอกัน”
หญิงสาวหัวเราะในลำคอ เท้าเปล่าเปลือยก้าวไปข้างหน้าทีละก้าวด้วยท่วงท่าสูงศักดิ์ พื้นที่ที่เท้างดงามก้าวเหยียบกลายเป็นสีดำ
หญ้า พื้นดิน ทุกสิ่งที่เท้าบอบบางเหยียบย่างไป ล้วนแต่ถูกเผาด้วยไอร้อนสีดำ!
“เจ้าไม่รู้ว่าทำไมพวกเขาถึงฆ่าเจ้า พอๆ กับที่ข้าก็ไม่รู้ว่า…”
ร่างบอบบางที่มีบาดแผลเต็มกายก้าวไปในป่าทึบ
“ข้าตายได้อย่างไร”
ร่างบอบบางหายลับไปในป่ามืด
เหลือเพียงซากศพนับร้อยนับพันที่อยู่ใต้สุสานหมื่นวิญญาณแห่งนี้ เหลือเพียงบรรยากาศแสนสงบชวนวังเวง เหลือเพียงเปลวไฟที่เผาไหม้ซากศพที่ไร้คนเหลียวแลให้มอดไหม้ตามสิ่งที่ควรจะเป็น
สิ่งเดียวที่ไม่เหลือคือลมหายใจของทหารห้านาย!
และทหารที่เหลือก็จะไปพบกันที่นรก ในเร็วๆ นี้!
“ย้ากก!”
เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นมาอีกครั้ง ทหารที่อยู่หน้าสุสานหมื่นวิญญาณนับร้อยนายต่างลุกขึ้นยืน สุราและอาหารถูกทิ้งอย่างไม่ไยดี นายกองเดินมาที่หน้าทางเข้าสุสานหมื่นวิญญาณด้วยท่าทางขึงขัง
“หรือว่าวิญญาณแค้นจะตามทวงแค้นอย่างที่ตำนานเล่าขาน?”
“ข้าได้ยินว่า… สุสานหมื่นวิญญาณ เป็นสถานที่น่าสยดสยองที่สุดในแคว้นเรา!”
“หรือว่า องค์หญิงที่เราพึ่งฆ่าไปจะมาทวงแค้น!”
เสียงทหารหลายร้อยนายดังแซงแซ่ นายกองที่ได้ยินประโยคหลังถึงกลับหันกลับมา เขาชี้กระบี่ไปที่หน้าของทหารทั้งหลาย
“ไม่มีวิญญาณอะไรทั้งนั้น พวกเจ้ามันงมงายไปเอง! หญิงกาลกิณีผู้นั้นต่อให้ตายไปแล้ว นรกก็ยังรังเกียจ คงจะเผาดวงวิญญาณของนางแทบไม่ทัน พวกเจ้าอย่าได้เอ่ยอะไรไร้สาระอีก!”
นายกองหันหลังให้กับทางเข้าสุสานหมื่นวิญญาณ เขาหันหน้าไปหาทหารทุกคนและเอ่ยเสียงทรงพลัง ดวงตาของเขามีแต่ความรังเกียจผู้ที่เขากำลังเอ่ยถึง
นางคือองค์หญิงที่จะนำหายนะมาสู่แคว้นหลงอัน!
คำทำนายของราชครูไม่มีทางผิดแน่!
จ้าวเยว่ฮวามองทุกอย่างจากด้านในสุสานหมื่นวิญญาณ
นางยกยิ้มก่อนจะค่อยๆ ก้าวออกไปไม่รีบไม่ร้อน ไม่นานเท้าเปลือยเปล่าก็เริ่มก้าวออกจากเงามืด
พื้นที่ร่างบางเหยียบยังคงเป็นสีดำ นางไม่เก็บซ่อนพิษร้ายที่มากับตัวนางสักนิด เพราะนางคิดว่าไม่จำเป็นอีกต่อไป
ตอนนี้นางอยู่ในแคว้นหลงอัน แคว้นเล็กๆ ที่นางเคยได้ยินชื่ออยู่ครั้งหนึ่ง ที่แท้นางก็มาอยู่ในแคว้นที่ไม่สลักสำคัญอะไรเลยอย่างแคว้นหลงอันนี่เอง
แต่ก่อนนางอยู่สุขสบายที่ดินแดนแห่งนั้น อาจารย์ ศิษย์พี่ทั้งหลายล้วนดูแลนางอย่างดี ไม่คิดเลยว่านางจะมาลำบากที่นี่
นางจะต้องกลับไปแน่ แต่ร่างนี้ก็มีปริศนาเช่นกัน อย่างเช่นว่าเหตุใดนางถึงตาย กลิ่นไอแค้นยังคงวนเวียนอยู่รอบตัวนาง
ในฐานะผู้มีพลังเบญจธาตุ นางสัมผัสสิ่งลี้ลับได้ นางรับรู้ว่าหากไม่ชะล้างไอแค้นนี้ นางไม่มีวันใช้ร่างกายนี้ได้อย่างสมบูรณ์!
ทันทีที่ร่างงดงามปรากฏออกจากเงามืด ใบหน้างดงามปรากฏต่อสายตาของทหารนับร้อยนาย ความตื่นตกใจและสีหน้าซีดเผือดของพวกเขาก็เป็นสิ่งที่จ้าวเยว่ฮวาคาดการณ์เอาไว้อยู่แล้ว
ไอแค้นจะหมดไป เมื่อนางชำระแค้นสิ้นสุด ตัดบ่วงกรรมทั้งหลาย!
และกลุ่มคนตรงหน้าก็คือเป้าหมายต่อไป!
ทหารต่างถอยหลังและชี้มือไปที่ด้านหลังนายกอง สีหน้าของแต่ละคนยากจะบรรยาย พวกเขารับรู้เพียงว่าบรรยากาศเย็นเยือกจนถึงกระดูก กลิ่นอายอันตรายและสยดสยองเข้ามาในร่างกาย และร่างกายของพวกเขาก็ขยับไม่ได้อีกเลย!
ดวงตาของทหารนับร้อยนายมีเลือดไหลออกมา เบิกตากว้างมองไปที่ด้านหลังนายกอง!
“ไร้สาระ! พวกเจ้าอย่าทำเป็นพวกปัญญาอ่อนที่เชื่อเรื่องผีสาง!”
หลังจากเอ่ยจบ นายกองก็หันกลับมาที่ทางเข้าสุสานหมื่นวิญญาณ เขากำลังจะฆ่าคนที่บังอาจมาหลอกทหารของเขา แต่แล้วใบหน้าของหญิงสาวที่กำลังค่อยๆ ก้าวเข้ามาหาเขาก็ฉายชัด
นางฟื้นขึ้นมาได้อย่างไร!
“เจ้ามันไม่ยอมตาย! ข้าไม่เชื่อว่าจะฆ่าเจ้าไม่ได้!” นายกองชักกระบี่ออกจากฝัก ตรงเข้าไปหาจ้าวเยว่ฮวาด้วยกระบวนท่าสังหาร
พรึ่บ!
จ้าวเยว่ฮวายกยิ้มเล็กน้อย นางทำราวกับว่ากำลังมองมดปลวกเอาตัวรอด นางไม่ขยับ ไม่ออกกระบวนท่า แต่กระบี่กลับหยุดอยู่ตรงหน้านางราวกับชนเข้ากับปราการอันแข็งแกร่ง!
นายกองสีหน้าเปลี่ยน!
“เจ้าเป็นตัวอะไร!”
นายกองพึ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่าความหวาดกลัวจนควบคุมร่างกายไม่ได้มันเป็นอย่างไร ขนลุกชัน กระดูกสันหลังเสียววาบและเจ็บปวดราวกับถูกบดละเอียด!
นางตาของหญิงสาวมีแต่ความดำมืด!
จ้าวเยว่ฮวายกมือขึ้นตวัดครั้งหนึ่ง พลังไร้รูปลักษณ์ก็ทำลายกระบี่จนเป็นเศษฝุ่น ตัวของนายกองลอยเข้ามาหาร่างบาง มือนุ่มจับที่หัวของนายกองและดึงความทรงจำที่นางอยากรู้มา!
“ข้าเองก็อยากจะรู้เช่นกัน!”
องค์หญิงผู้อาภัพ!
สายลมพัดเข้ามาเรื่อยๆ
ยิ่งผ่านไปนานสายลมยิ่งรุนแรงราวกับโกรธแค้นคนทั้งหลาย ทหารที่ยืนตัวแข็งและดวงตามีเลือดไหลออกมาเริ่มล้มลงทีละคน โดยที่จ้าวเยว่ฮวายังยืนอยู่ที่เดิม มือยังจับที่หัวของนายกองผู้นั้น
“ที่แท้ข้าก็เป็นองค์หญิงใหญ่ของราชวงศ์จ้าวนี่เอง”
เสียงหวานดังขึ้น ภายในหัวของเหตุการณ์ที่นายกองคนนี้อยู่ด้วยฉายชัดราวกับจ้าวเยว่ฮวายืนอยู่ ณ กลางป่า วันที่พวกเขานำตัวองค์หญิงผู้นี้มาทิ้ง
ความทรงจำ ณ กลางป่าลึก!
ทหารนับร้อยนายยืนกันเป็นวงกลมอย่างเป็นระเบียบ แต่ละนายต่างสีหน้าไม่ยินดีและเคียดแค้นเด็กทารกในอ้อมแขนนางกำนัล
เพราะวันนี้คือวันที่พวกเขาทั้งหมดจะต้องตาย พวกเขาคือทหารที่ต้องติดตามองค์หญิงตามคำทำนาย!
นี่มันเอาชีวิตคนเป็นๆ มาสังเวยชัดๆ
องค์หญิงที่มีดวงหายนะตายไปคนเดียวยังไม่พอ ยังจะเอาพวกเขาตายตามไปด้วย
แม้ว่าทหารเหล่านั้นจะแค้นเคืองเพียงใดก็ไม่อาจหนีพ้นความตาย นางกำนัลที่อุ้มเด็กทารกหญิงน้ำตาร่วง มือของนางสั่นจนแทบจะถือทารกน้อยไว้ไม่ไหว
ด้านหลังของนางกำนัลเป็นหญิงสาวหน้าตางดงามล้มเมืองคนหนึ่ง เครื่องประดับและเครื่องแต่งกายไม่สามัญ ยศศักดิ์สูงส่ง
นางคือฮองเฮาแคว้นหลงอัน มารดาของทารกน้อย!
ใบหน้างดงามล้มเมืองไม่สะท้าน ยิ่งไม่มีความเสียใจต่อสิ่งตรงหน้า กลับกันนางราวกับกำลังกำจัดภัยร้าย หาใช่บุตรสาวของตนเองไม่!
ข้างๆ ฮองเฮาเป็นฮ่องเต้แคว้นหลงอัน หน้าของพระองค์หล่อเหลาคมคาย ดวงตาของทารกที่ลืมขึ้นก็มีส่วนคล้ายกับเขา ทารกน้อยแม้จะเกิดได้ไม่กี่วัน แต่ความน่ารักและเครื่องหน้างดงามสมบูรณ์แบบก็ปรากฏเสียแล้ว
งามล้มเมืองมากกว่ามารดาและผู้ใดในใต้หล้า!
“รีบทำพิธีเถอะ!” เสียงทุ้มเย็นชาเอ่ย ฮ่องเต้โบกมือครั้งหนึ่ง ขันทีข้างกายก็ถือถาดอันหนึ่งเข้าไปหาฮองเฮา ในถาดนั้นเป็นน้ำแก้วเล็กๆ หนึ่งแก้ว
ยาพิษ!
“เพคะ” ฮองเฮาไม่แม้แต่จะขมวดคิ้ว ไม่แม้แต่จะเสียใจหรือรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไป นางหยิบแก้วนั้นขึ้นมาจากถาดและป้อนให้กับทารก
นางกำนัลที่อุ้มทารกน้ำตาไหลพราก นางเสียใจราวกับเป็นมารดาแท้ๆ ของทารกน้อย แต่นางเป็นเพียงนางกำนัลตัวน้อยที่ถูกส่งมาทำหน้าที่นี่
นางสงสารทารกในอ้อมแขนเหลือเกิน
ยังไม่ทันได้รับรู้ความสดใสของใต้หล้า ก็ต้องมาตายเสียแล้ว!
และแน่นอนว่า นางเองก็ต้องตายตาม!
ทารกน้อยร้องไห้เสียงดังขึ้นกลางป่า ไม่นานทหารและนางกำนัลก็ต้องดื่มเหล้าพิษและตายตามดั่งคำทำนาย
เสียงทุ้มและแข็งกระด้างดังขึ้นในขณะที่ทหารค่อยๆ ล้มลง
“เมื่อใดก็ตามที่ทารกกาลกิณีถือกำเนิด เมื่อนั้นราชวงศ์จะสูญสลาย เมื่อทารกนั้นเติบใหญ่ เมื่อนั้นราชวงศ์ที่มีประวัติยาวนานนับร้อยปีจะดับสูญ ประชาชนนองเลือด บ้านเมืองเต็มไปด้วยเปลวเพลิง หายนะคือทารกผู้นี้”
“เมื่อทารกตาย หายนะก็ตายตาม!”
จ้าวเยว่ฮวาน้ำตาร่วงโดยที่ไม่รู้ตัว
เพราะแบบนี้สินะ ต่อให้ร่างนี้รอดชีวิตมาได้ แต่สติปัญญากลับผิดปกติเพราะดื่มยาพิษในตอนนั้น
สุดท้าย แม้จะรอดมาได้ แต่ก็ต้องมาตายอีกครั้ง!
องค์หญิงผู้อาภัพ!
แม้ว่าร่างนี้จะไม่รู้ความเป็นไปในตอนนั้น แต่ความแค้นและความอัดอั้นตันใจไม่ได้รับความยุติธรรมยังคงอยู่ในสายเลือด ราวกับย้ำเตือนว่ายังมีสิ่งที่ต้องชำระ!
“เพียงแค่คำทำนายหลอกๆ ก็ฆ่าแกงกันแล้วหรือ?”
จ้าวเยว่ฮวาเอามือออกจากหัวของนายกอง ทันทีที่นางเอามือออก ร่างของนายกองก็ร่วงลงพื้นดินและค่อยๆ สลายกลายเป็นไอสีดำ ไม่หลงเหลือแม้แต่ร่างกายให้ฝัง
นายกองคนนี้เป็นคนข้างกายของคนที่เอ่ยคำทำนาย เพราะแบบนี้เขาถึงรู้เรื่องราวเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว
ทหารนับร้อยนายที่ล้มลงสิ้นใจทั้งหมด จ้าวเยว่ฮวาเงยหน้าขึ้นมองดวงจันทร์ นางเพียงแค่รู้สึกว่า… เหตุใดเด็กทารกคนหนึ่งถึงถูกทำเช่นนี้ได้?
คนเป็นบิดามารดา พวกเขาไม่รู้สึกอะไรเลยหรือไร?
ความเศร้าเสียใจที่ไร้ที่มาทำให้ร่างบางของจ้าวเยว่ฮวากระตุกไม่หยุด พลังในร่างกายปั่นป่วน นางก้าวเท้าไปข้างหน้าด้วยฝีเท้าไม่มั่นคง
ราวกับใบไม้ที่กำลังร่วงลงพื้นดิน ร่างบอบบางของจ้าวเยว่ฮวาก็กำลังร่วงลงพื้นเช่นเดียวกับใบไม้ใบนั้น นางไม่มีพลังอย่างที่เห็นภายนอกอีกต่อไป
นางประคองตัวเองไม่ได้อีกต่อไป เมื่อครู่นี้นางใช้พลังไปมากเกินกว่าที่ร่างกายนี้จะรับไหว ตอนนี้นางไม่มีพลังวิญญาณเหลืออยู่ในร่างแล้ว
ถือเสียว่า แก้แค้นไปอีกหนึ่งก็แล้วกัน!
ไม่เสียเปล่า!
จ้าวเยว่ฮวายกยิ้ม ปล่อยร่างกายให้ร่วงลงพื้นแต่โดยดี!
พรึ่บ!
ในตอนที่ร่างบางกำลังจะล้มลงพื้น ร่างกายผอมบางของชายหนุ่มคนหนึ่งก็พุ่งเข้ามารับไว้ได้ทันท่วงที ใบหน้าชายหนุ่มถูกสายลมพัดจนผ้าสีดำที่ปิดใบหน้าร่วงหล่น
จ้าวเยว่ฮวารู้สึกถึงความอ่อนนุ่ม นางพยายามมองคนที่ช่วยนางเอาไว้ แต่ไม่ว่านางจะมองอย่างไรก็มองเห็นไม่ชัดเจน
นางไม่มีพลังป้องกันตัวอีกแล้ว!
“คุณชาย ร่างกายของท่าน!”
เสียงร้อนรนของชายหนึ่งคนเข้ามาใกล้ ชายคนนั้นมองคุณชายของตนเองโอบร่างของหญิงสาวคนหนึ่งไว้ด้วยความตื่นตกใจ
ยิ่งตกใจมากกว่าคือ คุณชายของเขายืนได้แล้ว!
ใบหน้าของชายหนุ่มที่กำลังโอบประคองจ้าวเยว่ฮวาเรียกได้ว่าหล่อเหลาเฉิดฉาย ดวงตาคมกล้า จมูกคมสัน ไม่แข็งกระด้างและไม่อ่อนโยนจนเกินไป
นี่คือใบหน้าฟ้าประทานสำหรับเทพบุตร!
ชายหนุ่มก้มมองคนในอ้อมแขนตนเองอย่างแปลกใจครู่หนึ่ง เมื่อครู่เขาเพียงแค่คิดว่าจะปล่อยให้นางล้มไม่ได้ ร่างกายของเขาที่อยู่บนรถเข็นมานานก็ขยับเสียแล้ว
“พานางกลับไปด้วย” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น
ผู้ติดตามด้านหลังรีบรับคำ
“ขอรับ!”
หลังจากนั้นผู้ติดตามด้านหลังก็โบกมือหนึ่งครั้ง ชายชุดดำก็ออกมาและกางเปลหามเอาไว้เสร็จสับ พากันหามร่างหญิงสาวเหาะตามหลังเจ้านาย ที่กำลังนั่งรถเข็นและมีคนส่งกำลังภายในพารถเข็นเหาะ
ทิ้งไว้เพียงซากศพทหารนับร้อยไว้เบื้องหลัง!