วันที่ 16 มกราคม 2563 สภาเศรษฐกิจโลก หรือ World Economic Forum เผยรายงานความเสี่ยงโลก 2020 ( The Global Risks Report 2020 ) ที่เผยความเสี่ยงในแต่ละปีเพื่อคาดคะเนแนวโน้มทางเศรษฐกิจ และเป็นการสะท้อนว่าผู้นำทางการเมืองและเศรษฐกิจของโลกกำลังกังวลเรื่องอะไร
จากการสอบถามผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลายฝ่าย (Multi-stakeholders) มองว่าความเสี่ยงที่ถ้าเกิดขึ้นใน 10 ปีนี้แล้วจะก่อผลรุนแรงที่สุดมีดังนี้
1.ความล้มเหลวในการหยุดปัญหาโลกร้อน
2.การใช้อาวุธอานุภาพทำลายล้างสูง ทั้งด้านเคมี ชีวภาพและรังสี
3.พืชและสัตว์สูญพันธุ์ครั้งใหญ่
4.อากาศแปรปรวนรุนแรง
5.น้ำอุปโภคบริโภคไม่พอใช้
6.โครงสร้างด้านสารสนเทศพัง ในตอนที่โลกพึ่งพิงไซเบอร์มาก หากโครงสร้างในด้านนี้ เช่น ดาวเทียม อินเตอร์เน็ต หรือเฟซบุ๊กล่มสลายพังไปก็จะส่งผลกระทบมหาศาลอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
7.ภัยธรรมชาติขนาดใหญ่
8.การโจมตีไซเบอร์
9.ภัยธรรมชาติจากน้ำมือมนุษย์
เช่น การลักลอบปล่อยสารพิษ ตัดไม้ ฯลฯ
10.โรคระบาดจากแบคทีเรีย ไวรัส หรือปรสิต โดยเฉพาะในกรณีที่มนุษย์ใช้ยาปฏิชีวนะและยาต้านไวรัสเกินจำเป็นจนเชื้อเหล่านี้ดื้อยา
ทั้งนี้เป็นการเรียงตามความรุนแรงของผลกระทบในกรณีที่ความเสี่ยงเหล่านี้เกิดขึ้น แต่หากเรียงตามความเป็นไปได้ว่าจะเกิดขึ้น ก็จะสามารถจัดอันดับได้ตามนี้
1.อากาศแปรปรวน
2.หยุดโลกร้อนไม่ได้
3.ภัยธรรมชาติ
4.สัตว์สูญพันธุ์
5.ภัยธรรมชาติจากน้ำมือมนุษย์
6.การโจรกรรมข้อมูลหรือการนำข้อมูลไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต
7.การโจมตีไซเบอร์
8.น้ำไม่พอใช้
9.การเมืองโลกล้มเหลว องค์การระหว่างประเทศไม่มีอิทธิพลต่อแต่ละชาติอีกต่อไป
10.ฟองสบู่แตก
ข้อสังเกตสำคัญคือ 5 อันดับแรกของสองลิสต์ข้างต้นเต็มไปด้วยความกังวลเรื่องสภาพแวดล้อม
บอร์ก เบรนด์ ประธานสภาเศรษฐกิจโลกกล่าวว่า ปัจจุบันการเมืองโลกมีการแบ่งฝั่งอย่างชัดเจน น้ำทะเลสูงขึ้น และไฟป่าที่เกิดจากภูมิอากาศยังคงลุกไหม้ จึงทำให้ปีนี้เป็นปีที่ผู้นำโลกต้องร่วมมือกับทุกภาคส่วนของสังคมเพื่อฟื้นฟูระบบความร่วมมือขึ้นมาใหม่ ทั้งนี้ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ระยะสั้น แต่เพื่อแก้ปัญหาความเสี่ยงต่าง ๆ ที่หยั่งรากลึกด้วย